สวัสดีค่ะ ไม่ค่อยได้มาตั้งกระทู้บ่อย ๆ  แต่คราวนี้อึดอัดมากค่ะ ขอระบายและขอคำปรึกษาและชี้แนะด้วยค่ะ

        เล่าถึงแม่สามีก่อนค่ะ แม่สามีอายุ 56 แล้ว สามีเล่าว่าก่อนหน้านั้นแม่เค้าขายข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ขายดีมาก
แต่ตอนนี้ชีวิตเค้าไม่มีอะไรเลย เพราะเล่นการพนัน  ติดหนี้นอกระบบ  บ้านถูกยึด หนีหัวซุกหัวซุน ตั้งแต่สามีเรียนอยู่
เค้าก็ทิ้งไปเลย สามีต้องไปอยู่กับพ่อที่เลิกกันไป หายไปนานมาก จนสามีสืบรู้ว่าเค้าอยู่กรุงเทพ ฯ ก็อยู่ในบ่อนอีกค่ะ
(ตอนแรกสามีเราบอกว่าเป็นแม่บ้าน มารู้ทีหลังว่าทำงานในบ่อน) สารภาพว่าเรารู้สึกไม่ค่อยดีกับเค้าตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ  
แต่คิดว่าคงไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอก
        
       เราก็มองข้ามผ่านไปเรื่องนี้   เงินแต่ง ทองแต่ง พวกเราช่วยกันเก็บมาตั้งแต่ก่อนแต่งค่ะ ทุกอย่างเราช่วยกันออก
เองหมด ก่อนแต่งเราก็บอกให้สามีไปบวช เงินจัดงานบวชสามี ก็เงินเก็บเรา 2 คน หมดไป 5-6 หมื่นได้ค่ะ แม่เค้า
ไม่เคยคิดเก็บเงิน ช่วยเหลืออะไรเลย ที่เรายอมเพราะสามีเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ชอบเที่ยว
มีส่วนเสียตรงโมโหร้าย เจ้าอารมณ์ ไม่ค่อยรับฟังผู้อื่นเท่านั้นเอง  ทุกอย่างที่มีทุกวันนี้ รถ บ้านเรากับสามีช่วยกัน
สร้างทุกอย่าง  จนเราท้อง คลอดลูกเลยตัดสินใจให้แม่สามีมาช่วยเลี้ยงลูกให้ เราก็คิดว่ายังดีกว่าจ้างคนอื่นเลี้ยง
เค้าคงรักหลานบ้าง เพราะเราต้องทำงานค่ะ เค้าก็เลี้ยงไปตามประสาเค้าค่ะ  คือถ้าเราพูดมากกลายเป็นทะเลาะกับ
สามีไปเลย บ่อยครั้ง เลยอดทนค่ะ เก็บไว้ พูดไปสามีก็เชื่อแม่ทุกครั้ง เพราะต่อหน้ากับลับหลังลูกชาย พฤติกรรมต่างค่ะ

       แล้ววันนึงแม่เราก็โทรมาให้ไปปลูกบ้านข้าง ๆ ที่บ้านแม่ซื้อไว้ ให้เราขายบ้านเก่าไปอยู่ข้าง ๆ กัน ระหว่างปลูก
บ้านก้อให้อยุ่รวมกับบ้านแม่ไปก่อน  ที่บริษัทเรามีที่พักให้ค่ะ เรากับสามีทำงานที่เดียวกันแต่คนละจังหวัดกับบ้านแม่
เลยย้ายไป ทีนี้แหละ พฤติกรรมแม่สามีเรานี่ออกมา และเปิดเผยขึ้นทุกวัน แม่เราเล่าให้ฟังบ่อยค่ะ ตีหลาน หยิกหลาน
เค้าชอบดูทีวี ถ้าหลานขัดใจตอนดูทีวี เค้าจะดึงผมหลานค่ะ   อารมณ์เสีย เราคิดนะ ทำกับลูกเรามานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย
พูดไปสามีก็คงไม่เชื่อครั้งนี้ ร้ายแรงสุด เค้าตีหลานประชดน้องสาวเราที่ไม่ให้หลานเล่นโทรศัพท์  เอาด้ามพัดตีหลาน
จนเขียว ไหม้ ช้ำไป กว่าแผลจะหาย 2 อาทิตย์  เด็กอายุ 2.3 ขวบ กลัวเค้าไปเลยค่ะ เรานี่สงสารลูกมาก เจ็บใจ ช้ำใจ
มากค่ะ เค้ารักหลานบ้างมั้ย  อุตส่าห์เก็บไว้ ไม่บอกสามีนะคะ  (ช่วงนั้นงานยุ่งมากค่ะ ไม่ได้กลับไปหาลูกเลย)
พออีก 1 อาทิตย์เค้าตีอีกแล้ว เราเลยตัดสินใจบอกสามี เลยทะเลาะกัน เพราะตอนแรกเค้าไม่เชื่อเราค่ะ จนเราให้ถามลูก
ว่าใครตี เค้าบอก ย่าตี ใช้อะไรตี พัดตี กี่ที ลูกบอกหลายที หนูกลัว เค้าถึงเชื่อ เค้าเลยตัดสินใจกลับมาซื้อบ้านในจังหวัด
ที่ทำงานอยู่อีกรอบ ไม่ปลูกข้างบ้านแม่เราแล้ว แล้วจะให้แม่เค้าเลี้ยงต่อ เพราะแม่เค้าสัญญาว่าจะไม่ตีหลานอีกแล้ว
แต่ดูท่าทางสีหน้าเค้าไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดเลยค่ะ

        เราไม่เชื่อและไม่ไว้ใจมาก ๆ ค่ะ เพราะพฤติกรรมเค้าที่ยายเล่าให้ฟัง นิดหน่อยเค้าโมโหร้ายใส่หลานมากเลยค่ะ
(ยายอยากเลี้ยงให้เองมาก แต่ไม่มีเวลา ต้องดูแลร้านที่เค้าทำอยู่)  พฤติกรรมส่วนตัวเค้าก็แย่พอแล้ว เยอะมากเราไม่เคย
ยุ่งนะคะ นี่ให้เลี้ยงหลานให้ เค้ายังทำแบบนี้เลย
      
        ความคิดตอนนี้ เราเป็นแม่ที่แย่มาก ๆ ลูกคนเดียวยังทำให้เค้าเจอแบบนี้ค่ะ ตอนนี้เราคิดเอาลูกไปฝากเนอสค่ะ  
จะดีมั้ยคะ แต่ติดที่ว่า เราเข้างาน 7.00 น. แล้วเนอสเซอรี่ รับเด็ก 8.00 น. เราต้องขอหัวหน้าเราเข้างานสายหน่อยไปส่งลูก
ก่อน ไม่รู้ว่าจะยอมมั้ย ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดีแล้วค่ะ คิดแต่ว่า ไม่ให้เลี้ยงแน่ ๆ จะให้เค้าเลี้ยงเอาไปฝากเค้าเมื่อเราจำเป็น
สุด ๆ แค่นั้น อย่างเช่น มีประชุม หรือไปอบรม สัมมนาที่อื่น เราว่ายังดีกว่าให้หลานอยู่กับย่าที่มีพฤติกรรมแบบนี้นะคะตอนนี้
แต่ติดยอมรับว่าตอนนี้ มีอคติกับเค้ามาก ๆ ขั้นไม่ชอบเอาเลย คือมาอยู่ที่นี่ คงต่างคนต่างอยู่แล้วค่ะ โกรธมาก รับไม่ได้ค่ะ
สามีก็ยังยืนยันจะให้แม่เลี้ยงหลานต่อ เบื่อทั้งสามี เบื้อทั้งแม่สามี หน้าอย่างหลังอย่างบางทีอยากเลิก ๆ ไปเลย จะได้จบ
เรื่องราวค่ะ สงสารแค่ลูก ทุกวันนี้อดทนกับเค้า 2 สองแม่ลูก ก้อเพื่อลูกสาวนี่แหละ เหนื่อยใจมากมาย
ที่สำคัญจะขอหัวหน้าเข้างานยังไงดีนี่แหละค่ะ ยังคิดไม่ออกเลย

(ปล. ทุกวันนี้สามีก้อยังอวยแม่อยุ่ค่ะ เข้าใจว่าแม่เค้านะคะ แต่ถ้าผิดก็ต้องยอมรับบ้าง )

        ขอคำปรึกษา และความเห็นของทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ เผื่อมีทางออกที่ดีกว่าที่เราคิดตอนนี้

ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้ความเห็นกันนะคะ