สวัสดียามสายฮะ
วันนี้กัปตันว่างแล้ว เพราะประชุมสำคัญเพิ่งผ่านไป
และที่ บ. ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปทำงาน
ก็เลยมีเวลามาอวดรูปที่กัปตัน (แอบ) หนีกรุงมาเมื่อวันอาทิตย์
อย่าเรียกว่ารีวิวเลยเถอะ เพราะรูปมันกากๆ ฝีมือไม่มี กล้องมือถือด้วย แฮ่
กัปตันชวนพี่ชาย (แฟนคลับพี่หมาเหงา) ไปเที่ยวบางปะอินกัน
นัดกันไว้ว่าจะนั่งรถไฟไป ขึ้นรถไฟที่สถานีบางเขน เพราะใกล้บ้าน
พร้อมแล้วก็ไปกันเล้ย....
คนพร้อม ตั๋วพร้อม รถไฟเร็วขบวน 111 ออกจากบางเขน 7.35 น. (ดีเลย์ไป 8 นาที) ค่าตั๋ว 20 บาท
กัปตันไปถึงสถานีบางปะอินราวๆ 8.40 น. ฮะ อากาศดีมากกกก ลมเย็น แดดกำลังดีเลย
จากนั้นต่อพี่วินอีก 20 บาท ไปพระราชวังบางปะอิน (รอรถสองแถวสีขาวคงนานหน่อย เพราะไม่ค่อยมีคน)
ถึงแล้ววววววววววว เย่
อันดับแรกต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน คนละ 30 บาท สำหรับผู้ใหญ่
ซึ่ง จนท. ก็จะให้ Guide Book เล่มบางๆมาด้วยฮะ
อ้อ สำหรับการแต่งกาย ห้ามกางเกงสั้น เสื้อแขนกุด ตามระเบียบการเข้าชมทั่วไปนะฮะ
สำหรับพระราชวังบางปะอินแห่งนี้
พระเจ้าปราสาททอง หรือ พระศรีสรรเพ็ชญ์ที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น
บนเกาะบางเลนในลำแม่น้ำเจ้าพระยา และเมื่อหลังเสียกรุง ก็ถูกปล่อยให้รกร้าง
จนกระทั่งสมัย ร.4 ก็ได้มีการบูรณะฟื้นฟูพระราชวังแห่งนี้ขึ้นอีกครั้ง
และจนกระทั่งสมัย ร.5 ซึ่งพระองค์โปรดที่จะเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินเสมอ
พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้น ดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน
แวะดูแผนที่กันสักหน่อย
เค้ามีรถกอล์ฟให้เช่า แต่กัปตันเลือกที่จะเดินฮะ เพราะมันแพง #ผิด #ใช่เหรอ
จริงๆเพราะกัปตันคิดว่า การเดินชมให้อารมณ์มากกว่า และได้ดื่มด่ำกับบรยากาศมากกว่าด้วย ^^
เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยยยยยยย
จุดแรกที่เราเจอ คือ
หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง
ซึ่ง ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายแด่พระเจ้าปราสาททอง
เดินต่อมาสักหน่อย ก็เจอกับ
กระโจมแตร ที่อยู่ริมน้ำ
ซึ่งจากตรงนี้จะมองเห็น
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของ ร.5
จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเทพเจ้ากรีก เพื่อไปชมสถานที่ถัดไปฮะ
อุ๊ย รูปนี้ถ่ายติดแฟนคลับพี่หมาเหงาด้วย อุอุ
เดินต่อมา ก็จะพบกับ
พระที่นั่งวโรภาษพิมาณ ฮะ
เป็นที่ประทับและท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ มีห้องรับรองพระราชอาคันตุกะด้วย
ซึ่งในการเข้าชม ผู้หญิงต้องสวมกระโปรงเท่านั้น (กางเกงขายาวก็ไม่ได้นะ) เค้ามีผ้าถุงให้ยืมฮะ
และแล้ว เราก็กำลังเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน
โดยเดินผ่านสะพานนี้ฮะ เป็นสะพานที่มีฉากคล้ายๆบานเกล็ด
เชื่อมไปสู่ ประตูเทวราชครรไล
ที่ ประตูเทวราชครรไล มีการจัดแสดงรถม้าพระที่นั่ง สามารถแวะเข้าไปชมได้ฮะ
เดินมาอีกหน่อยก็จะพบกับ พลับพลาบุปผาประพาส
ถ้าเดินลงไปด้านหลังก็จะเจอเรือนไม้ริมน้ำด้วยฮะ
อ๊ะ นั่น เห็น
หอวิฑูรทัศนา อยู่ไกลๆแล้ว
แต่ก่อนอื่น ต้องแวะที่
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หรือ พระที่นั่งเก๋งจีน กันเสียก่อน
พระที่นั่งแห่งนี้ มีชื่อภาษาจีนว่า “เทียน เม่ง เต้ย” (天明殿)
อ้อ อย่าลืมนำบัตรเข้าชมให้เจ้าหน้าที่ฉีกหางบัตรนะฮะ
และเมื่อข้ามสะพาน (อีกแล้ว) ก็พบกับ หอวิฑูรทัศนา
ซึ่งใช้เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศ และดูดาว ฮะ
ระหว่างเดิน กัปตันก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
แล้วก็เดินมาถึง
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ฮะ
ซึ่งของเดิมถูกไฟไหม้ไปเมื่อครั้งที่ทำการบูรณะ
และต่อมาก็ได้สร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมทุกประการ แต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีตแทน
ปัจจุบัน พระที่นั่งแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน
และเป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะ เป็นสถานที่เดียวในพระราชวังบางปะอินที่ไม่เปิดให้เข้าชม ครับผม
เดินชมจนกระทั่ง 11 โมงกว่า เริ่มหิวกันแล้ว
ก็เลยเดินออกมาหาอะไรกิน เดินฮะ ย้ำว่าเดิน!!!
เดินมากิโลกว่า ถึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กัปตันเลือกที่นั่งริมน้ำฮะ โชคดีวันนี้คนไม่เยอะ
มาสองคน สั่งไปสองอย่าง กุ้งแม่น้ำ กับ แกงป่าปลาน้ำเงิน
ถ้าถามถึงรสชาติ ส่วนตัวกัปตันว่าเฉยๆฮะ
น้ำจิ้มยังไม่ใช่ แกงป่ายังไม่โดน สรุปคงไม่มีรอบสอง แหะๆ
ราคาก็ใช้ได้เลยล่ะ (พี่จ่าย สบายเรา)
กินเสร็จก็ เอ่อ เดิน (อีกแล้ว) ไปสถานีรถไป ซึ่งอยู่ใกล้นิดเดียว
ปรากฎว่า ได้รถไฟฟรี ขบวน 202 เที่ยว 12.32 น.
เหลือบดูนาฬิกา เฮ้ย นี่บ่ายโมงแล้วนี่หว่า (ดีเลย์เวอร์ๆ)
รอประมาณ 10 นาที รถไฟก็มา เย่ๆๆ
บ๊ายบาย บางปะอิน
ไว้เบื่อกรุงเมื่อไหร่ กัปตันจะมาใหม่น้าาาาาาา
คราวหน้าจะชวนเพื่อนห้องสยามไปด้วยกันนะฮะ
ป.ล. Tag ห้องบลูด้วย เพราะเป็นเรื่องท่องเที่ยว ว่าแต่...พี่ๆห้องบลูจะจำกัปตันได้มั้ยนะ ^^
[กระทู้ชวนเที่ยว] นั่งรถไฟไปเที่ยวบางปะอินกันนะ~*
วันนี้กัปตันว่างแล้ว เพราะประชุมสำคัญเพิ่งผ่านไป
และที่ บ. ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปทำงาน
ก็เลยมีเวลามาอวดรูปที่กัปตัน (แอบ) หนีกรุงมาเมื่อวันอาทิตย์
อย่าเรียกว่ารีวิวเลยเถอะ เพราะรูปมันกากๆ ฝีมือไม่มี กล้องมือถือด้วย แฮ่
กัปตันชวนพี่ชาย (แฟนคลับพี่หมาเหงา) ไปเที่ยวบางปะอินกัน
นัดกันไว้ว่าจะนั่งรถไฟไป ขึ้นรถไฟที่สถานีบางเขน เพราะใกล้บ้าน
พร้อมแล้วก็ไปกันเล้ย....
คนพร้อม ตั๋วพร้อม รถไฟเร็วขบวน 111 ออกจากบางเขน 7.35 น. (ดีเลย์ไป 8 นาที) ค่าตั๋ว 20 บาท
กัปตันไปถึงสถานีบางปะอินราวๆ 8.40 น. ฮะ อากาศดีมากกกก ลมเย็น แดดกำลังดีเลย
จากนั้นต่อพี่วินอีก 20 บาท ไปพระราชวังบางปะอิน (รอรถสองแถวสีขาวคงนานหน่อย เพราะไม่ค่อยมีคน)
ถึงแล้ววววววววววว เย่
อันดับแรกต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน คนละ 30 บาท สำหรับผู้ใหญ่
ซึ่ง จนท. ก็จะให้ Guide Book เล่มบางๆมาด้วยฮะ
อ้อ สำหรับการแต่งกาย ห้ามกางเกงสั้น เสื้อแขนกุด ตามระเบียบการเข้าชมทั่วไปนะฮะ
สำหรับพระราชวังบางปะอินแห่งนี้
พระเจ้าปราสาททอง หรือ พระศรีสรรเพ็ชญ์ที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น
บนเกาะบางเลนในลำแม่น้ำเจ้าพระยา และเมื่อหลังเสียกรุง ก็ถูกปล่อยให้รกร้าง
จนกระทั่งสมัย ร.4 ก็ได้มีการบูรณะฟื้นฟูพระราชวังแห่งนี้ขึ้นอีกครั้ง
และจนกระทั่งสมัย ร.5 ซึ่งพระองค์โปรดที่จะเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินเสมอ
พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้น ดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน
แวะดูแผนที่กันสักหน่อย
เค้ามีรถกอล์ฟให้เช่า แต่กัปตันเลือกที่จะเดินฮะ เพราะมันแพง #ผิด #ใช่เหรอ
จริงๆเพราะกัปตันคิดว่า การเดินชมให้อารมณ์มากกว่า และได้ดื่มด่ำกับบรยากาศมากกว่าด้วย ^^
เอาล่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยยยยยยย
จุดแรกที่เราเจอ คือ หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง
ซึ่ง ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายแด่พระเจ้าปราสาททอง
เดินต่อมาสักหน่อย ก็เจอกับ กระโจมแตร ที่อยู่ริมน้ำ
ซึ่งจากตรงนี้จะมองเห็น พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของ ร.5
จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเทพเจ้ากรีก เพื่อไปชมสถานที่ถัดไปฮะ
อุ๊ย รูปนี้ถ่ายติดแฟนคลับพี่หมาเหงาด้วย อุอุ
เดินต่อมา ก็จะพบกับ พระที่นั่งวโรภาษพิมาณ ฮะ
เป็นที่ประทับและท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ มีห้องรับรองพระราชอาคันตุกะด้วย
ซึ่งในการเข้าชม ผู้หญิงต้องสวมกระโปรงเท่านั้น (กางเกงขายาวก็ไม่ได้นะ) เค้ามีผ้าถุงให้ยืมฮะ
และแล้ว เราก็กำลังเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน
โดยเดินผ่านสะพานนี้ฮะ เป็นสะพานที่มีฉากคล้ายๆบานเกล็ด
เชื่อมไปสู่ ประตูเทวราชครรไล
ที่ ประตูเทวราชครรไล มีการจัดแสดงรถม้าพระที่นั่ง สามารถแวะเข้าไปชมได้ฮะ
เดินมาอีกหน่อยก็จะพบกับ พลับพลาบุปผาประพาส
ถ้าเดินลงไปด้านหลังก็จะเจอเรือนไม้ริมน้ำด้วยฮะ
อ๊ะ นั่น เห็น หอวิฑูรทัศนา อยู่ไกลๆแล้ว
แต่ก่อนอื่น ต้องแวะที่ พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หรือ พระที่นั่งเก๋งจีน กันเสียก่อน
พระที่นั่งแห่งนี้ มีชื่อภาษาจีนว่า “เทียน เม่ง เต้ย” (天明殿)
อ้อ อย่าลืมนำบัตรเข้าชมให้เจ้าหน้าที่ฉีกหางบัตรนะฮะ
และเมื่อข้ามสะพาน (อีกแล้ว) ก็พบกับ หอวิฑูรทัศนา
ซึ่งใช้เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศ และดูดาว ฮะ
ระหว่างเดิน กัปตันก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
แล้วก็เดินมาถึง พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ฮะ
ซึ่งของเดิมถูกไฟไหม้ไปเมื่อครั้งที่ทำการบูรณะ
และต่อมาก็ได้สร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมทุกประการ แต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีตแทน
ปัจจุบัน พระที่นั่งแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน
และเป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะ เป็นสถานที่เดียวในพระราชวังบางปะอินที่ไม่เปิดให้เข้าชม ครับผม
เดินชมจนกระทั่ง 11 โมงกว่า เริ่มหิวกันแล้ว
ก็เลยเดินออกมาหาอะไรกิน เดินฮะ ย้ำว่าเดิน!!!
เดินมากิโลกว่า ถึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กัปตันเลือกที่นั่งริมน้ำฮะ โชคดีวันนี้คนไม่เยอะ
มาสองคน สั่งไปสองอย่าง กุ้งแม่น้ำ กับ แกงป่าปลาน้ำเงิน
ถ้าถามถึงรสชาติ ส่วนตัวกัปตันว่าเฉยๆฮะ
น้ำจิ้มยังไม่ใช่ แกงป่ายังไม่โดน สรุปคงไม่มีรอบสอง แหะๆ
ราคาก็ใช้ได้เลยล่ะ (พี่จ่าย สบายเรา)
กินเสร็จก็ เอ่อ เดิน (อีกแล้ว) ไปสถานีรถไป ซึ่งอยู่ใกล้นิดเดียว
ปรากฎว่า ได้รถไฟฟรี ขบวน 202 เที่ยว 12.32 น.
เหลือบดูนาฬิกา เฮ้ย นี่บ่ายโมงแล้วนี่หว่า (ดีเลย์เวอร์ๆ)
รอประมาณ 10 นาที รถไฟก็มา เย่ๆๆ
บ๊ายบาย บางปะอิน
ไว้เบื่อกรุงเมื่อไหร่ กัปตันจะมาใหม่น้าาาาาาา
คราวหน้าจะชวนเพื่อนห้องสยามไปด้วยกันนะฮะ
ป.ล. Tag ห้องบลูด้วย เพราะเป็นเรื่องท่องเที่ยว ว่าแต่...พี่ๆห้องบลูจะจำกัปตันได้มั้ยนะ ^^