เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมพบกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมท่านหนึ่ง ... ชื่อ Q
ตอนนี้ Q ทำธุรกิจขายอะไหล่เครื่องจักร กลุ่มลูกค้าหลักเป็นโรงงานอุตสาหกรรม
หลังจากสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปจบ ก็มาถึงเรื่องราวธุรกิจที่เขาทำ คุยกันไปคุยกันมา
เขาก็เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งให้ผมฟังว่า ...
เขาพึ่งรับซื้อของโจร!!!
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน ...
ในขณะที่ Q ทำงานอยู่ในร้านตามปกติ มีชายหนุ่มคนเข้ามาของมาติดต่อบอกจะขายสินค้าให้
ชายหนุ่มบอก Q ว่าของเก่าที่ไม่ได้ใช้!!! เก่าเก็บ เหลือจากงานโปรเจคเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่โดยมากคนที่มาเร่ขายสินค้าแบบนี้ มักจะเป็น
“ของโจร” ที่ขโมยมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
ขณะที่จะบอกปฏิเสธไปเหมือนเคย ... เขากลับเหลือบมองดูสินค้าที่ทำเอาใจเต้นแรง
เพราะ ...
มันเหมือนมากกับสินค้าด่วนมากของเขา ... ที่พึ่งส่งลูกค้าไปเมื่อวาน!!!!
เขาบอกคนนำมาขายว่าให้รอสักครู่ แล้วเดินเขามาในออฟฟิต ตรวจดูรหัสสินค้าว่าใช่ตัวเดียวกันหรือไม่ ??
หลายวันก่อนมีเครื่องจักรของลูกค้ารายหนึ่งของ Q หยุดทำงาน เนื่องจากมีอะไหล่เสียหาย
หัวหน้าระดับรองผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงประจำโรงงาน โทรมาบอกให้หาอะไหล่ตัวนี้ด่วนที่สุด
เพราะ เครื่องจักรตัวนี้เสียไลน์การผลิตจึงต้องหยุดทำงาน ส่งผลต่อการผลิตเป็นอย่างมาก
กลังจากที่สืบหาปรากฏว่า ... สินค้าตัวนี้ยกเลิกการผลิตไปแล้ว และมันหายากมาก!!!
แต่ในที่สุด Q ก็หาได้ในอีกสองวันต่อมา จากจากยี่ปั๊วรายเก่าๆ ที่มีของค้างสต็อกไว้นานๆ
และที่สำคัญมันมีเหลือเพียงแค่ตัวเดียว ...
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามันเป็นรหัสสินค้าตัวเดียวกัน!!!!
เขารีบโทรไปหาลูกค้า ต้องการจะสอบถามว่าของสินค้าที่ไปส่งเมื่อวานยังอยู่หรือเปล่า?
เขาโทรไปหลายครั้งแต่โชคร้ายไม่มีคนรับสายโทรไปทั้งเบอร์มือถือและเบอร์โต๊ะ ...
เขาตัดสินใจเดินออกไปคุย และ ... เขาต้องตัดสินใจว่าจะซื้อไว้หรือไม่??
- ปกติก็คงไม่ซื้อ เพราะ ไม่รู้ว่ามันเป็นของโจรหรือเปล่า? แต่โดยมากมันเป็นของที่ขโมยมา!
- จากที่สืบหาสินค้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาสินค้าตัวนี้รหัสนี้หายากมาก แถวนี้เองก็ไม่น่ามี
- ณ ตอนนี้เดาจากรูปการณ์แล้ว มันน่าจะใช่สินค้าด่วนที่ไปส่งเมื่อวาน แต่ก็ไม่กล้าฟันธง
- สินค้ามันหายากก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาไม่ได้ เพราะ มันไม่ได้ผลิตมาแค่ชิ้นเดียว
- แล้วถ้ามันใช่ของที่พึ่งส่งไปเมื่อวาน แล้วตอนนี้โรงงานนั้นล่ะ? ซ่อมไปหรือยัง? ยังไง?
- ถ้าใช่ มันออกมาจากโรงงานได้อย่างไร? ใครมันช่างไม่รู้เรื่องขโมยเอางานด่วนตัวนี้ออกมา
- เราควรจะรับซื้อไว้หรือไม่?
หลังจากที่เขาลังเลสองจิตสองใจอยู่นาน ... ชายหนุ่มก็เร่งรัดว่าจะซื้อไว้หรือไม่?
ในที่สุดเขาก็ตอบตกลง ตัดสินใจที่จะซื้อไว้!! โดยเสนอราคาเขาให้ราคาถูกกว่าปกติ
ชายหนุ่มที่นำของมาขายตอบตกลง!!!!
ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าของชิ้นนี้ถูกขโมยมา แต่ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดหรือกักตัวไว้
หลังจากชายหนุ่มออกจากร้านไป Q พยายามติดต่อไปหาลูกค้าอีกหลายครั้งแต่ผมก็เหมือนเดิม
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมงลูกค้าโทรกลับมาหา Q สอบถามว่าสินค้าที่ไปส่งเมื่อวานยังอยู่หรือไม่?
ที่ไม่รับสายก็เพราะกำลังประชุมเครียดกันเรื่องนี้ ... ว่าอะไหล่ที่รับมาเมื่อวานหายไปไหน!!!
ได้ฟังดังนั้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่าสินค้าตัวนี้ถูกขโมยออกมาจากโรงงานแน่นอน
Q เลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ... ลูกค้าบอกว่าจะออกมาพบ Q ที่ร้านในทันที
เมื่อลูกค้ามาถึงก็นำสินค้าส่งคืนให้ลูกค้าตรวจสอบ พร้อมกับพาไปดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้
กล้องถึงจะเห็นหน้าไม่เต็มแต่ก็เห็นเค้าหน้าส่วนมากแต่ก็เห็นรูปร่างชัดเจน
เขาซักต่อว่ารู้จักหรือไม่ลูกค้าบอกว่าคับคล้ายคับคลาเหมือนจะเป็นพนักงาน
น่าจะเป็นพนักงานในสายการผลิตคนหนึ่ง แต่ก็ต้องนำข้อมูลไปตรวจสอบอีกทีหนึ่ง
Q จึงมอบสินค้าส่งคืนให้ คัดลอดเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดให้ลูกค้า
และ พร้อมที่จะเป็นพยานยืนยันให้เมื่อจะดำเนินคดีกับขโมยคนนี้ ...
สำหรับลูกค้า ... ในความโชคร้ายของลูกค้าก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่โจรนำมาขายคืนที่นี่
เพราะถ้าไปที่อื่นนอกจากของก็จะหายไปเฉยๆแล้ว ยังจับมือใครดมไม่ได้อีกด้วย
ต่อไปก็ต้องไปสืบดูว่าเขาขโมยออกมาได้อย่างไร มีคนในรู้เห็นอีกหรือไม่ ต่อไปจะป้องกันอย่างไร
สำหรับขโมย ... ก็คงถึงคราวซวย เพราะ บริษัทลูกค้าคงต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดแน่ๆ
สำหรับ Q … ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจได้ยากลำบากเช่นนี้ ... ซื้อก็ใช่ที่ ... ไม่ซื้อก็ใช่ที่
ถึงแม้ว่ากฎหมายรับซื้อของโจรอาจจะดูที่เจตนาต้องนำสืบ จากหลักฐานและพยาน
แต่คำว่า
“ผิดกฎหมาย” กับ
“ถูกกฎหมาย” ในกรณีนี้มันก็ห่างกันแค่เส้นบางๆ
Q รับรู้ถึงผลที่จะตามมาดี แต่เขาก็ยังตัดสินใจได้
“เด็ดขาด” และรวดเร็วมากในกรณีนี้
ผมเองยังคิดว่าถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ผมจะตัดสินใจได้เด็ดขาดเท่า Q หรือไม่?
ไม่เฉพาะการทำธุรกิจการค้า ... แต่ในในชีวิตจริงเอง ผมเชื่อว่าเราก็ต้องเจอกับสถานการณ์
ที่ตัดสินใจยากลำบากเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง แล้วถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากตัดสินใจเช่นนี้ล่ะ
เราจะตัดสินใจอย่างไร???
ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจลำบาก ... ที่จะต้อง “รับซื้อของโจร”
ตอนนี้ Q ทำธุรกิจขายอะไหล่เครื่องจักร กลุ่มลูกค้าหลักเป็นโรงงานอุตสาหกรรม
หลังจากสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปจบ ก็มาถึงเรื่องราวธุรกิจที่เขาทำ คุยกันไปคุยกันมา
เขาก็เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งให้ผมฟังว่า ... เขาพึ่งรับซื้อของโจร!!!
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน ...
ในขณะที่ Q ทำงานอยู่ในร้านตามปกติ มีชายหนุ่มคนเข้ามาของมาติดต่อบอกจะขายสินค้าให้
ชายหนุ่มบอก Q ว่าของเก่าที่ไม่ได้ใช้!!! เก่าเก็บ เหลือจากงานโปรเจคเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่โดยมากคนที่มาเร่ขายสินค้าแบบนี้ มักจะเป็น “ของโจร” ที่ขโมยมาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
ขณะที่จะบอกปฏิเสธไปเหมือนเคย ... เขากลับเหลือบมองดูสินค้าที่ทำเอาใจเต้นแรง
เพราะ ... มันเหมือนมากกับสินค้าด่วนมากของเขา ... ที่พึ่งส่งลูกค้าไปเมื่อวาน!!!!
เขาบอกคนนำมาขายว่าให้รอสักครู่ แล้วเดินเขามาในออฟฟิต ตรวจดูรหัสสินค้าว่าใช่ตัวเดียวกันหรือไม่ ??
หลายวันก่อนมีเครื่องจักรของลูกค้ารายหนึ่งของ Q หยุดทำงาน เนื่องจากมีอะไหล่เสียหาย
หัวหน้าระดับรองผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงประจำโรงงาน โทรมาบอกให้หาอะไหล่ตัวนี้ด่วนที่สุด
เพราะ เครื่องจักรตัวนี้เสียไลน์การผลิตจึงต้องหยุดทำงาน ส่งผลต่อการผลิตเป็นอย่างมาก
กลังจากที่สืบหาปรากฏว่า ... สินค้าตัวนี้ยกเลิกการผลิตไปแล้ว และมันหายากมาก!!!
แต่ในที่สุด Q ก็หาได้ในอีกสองวันต่อมา จากจากยี่ปั๊วรายเก่าๆ ที่มีของค้างสต็อกไว้นานๆ
และที่สำคัญมันมีเหลือเพียงแค่ตัวเดียว ...
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามันเป็นรหัสสินค้าตัวเดียวกัน!!!!
เขารีบโทรไปหาลูกค้า ต้องการจะสอบถามว่าของสินค้าที่ไปส่งเมื่อวานยังอยู่หรือเปล่า?
เขาโทรไปหลายครั้งแต่โชคร้ายไม่มีคนรับสายโทรไปทั้งเบอร์มือถือและเบอร์โต๊ะ ...
เขาตัดสินใจเดินออกไปคุย และ ... เขาต้องตัดสินใจว่าจะซื้อไว้หรือไม่??
- ปกติก็คงไม่ซื้อ เพราะ ไม่รู้ว่ามันเป็นของโจรหรือเปล่า? แต่โดยมากมันเป็นของที่ขโมยมา!
- จากที่สืบหาสินค้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาสินค้าตัวนี้รหัสนี้หายากมาก แถวนี้เองก็ไม่น่ามี
- ณ ตอนนี้เดาจากรูปการณ์แล้ว มันน่าจะใช่สินค้าด่วนที่ไปส่งเมื่อวาน แต่ก็ไม่กล้าฟันธง
- สินค้ามันหายากก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะหาไม่ได้ เพราะ มันไม่ได้ผลิตมาแค่ชิ้นเดียว
- แล้วถ้ามันใช่ของที่พึ่งส่งไปเมื่อวาน แล้วตอนนี้โรงงานนั้นล่ะ? ซ่อมไปหรือยัง? ยังไง?
- ถ้าใช่ มันออกมาจากโรงงานได้อย่างไร? ใครมันช่างไม่รู้เรื่องขโมยเอางานด่วนตัวนี้ออกมา
- เราควรจะรับซื้อไว้หรือไม่?
หลังจากที่เขาลังเลสองจิตสองใจอยู่นาน ... ชายหนุ่มก็เร่งรัดว่าจะซื้อไว้หรือไม่?
ในที่สุดเขาก็ตอบตกลง ตัดสินใจที่จะซื้อไว้!! โดยเสนอราคาเขาให้ราคาถูกกว่าปกติ
ชายหนุ่มที่นำของมาขายตอบตกลง!!!!
ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าของชิ้นนี้ถูกขโมยมา แต่ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดหรือกักตัวไว้
หลังจากชายหนุ่มออกจากร้านไป Q พยายามติดต่อไปหาลูกค้าอีกหลายครั้งแต่ผมก็เหมือนเดิม
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมงลูกค้าโทรกลับมาหา Q สอบถามว่าสินค้าที่ไปส่งเมื่อวานยังอยู่หรือไม่?
ที่ไม่รับสายก็เพราะกำลังประชุมเครียดกันเรื่องนี้ ... ว่าอะไหล่ที่รับมาเมื่อวานหายไปไหน!!!
ได้ฟังดังนั้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่าสินค้าตัวนี้ถูกขโมยออกมาจากโรงงานแน่นอน
Q เลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ... ลูกค้าบอกว่าจะออกมาพบ Q ที่ร้านในทันที
เมื่อลูกค้ามาถึงก็นำสินค้าส่งคืนให้ลูกค้าตรวจสอบ พร้อมกับพาไปดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้
กล้องถึงจะเห็นหน้าไม่เต็มแต่ก็เห็นเค้าหน้าส่วนมากแต่ก็เห็นรูปร่างชัดเจน
เขาซักต่อว่ารู้จักหรือไม่ลูกค้าบอกว่าคับคล้ายคับคลาเหมือนจะเป็นพนักงาน
น่าจะเป็นพนักงานในสายการผลิตคนหนึ่ง แต่ก็ต้องนำข้อมูลไปตรวจสอบอีกทีหนึ่ง
Q จึงมอบสินค้าส่งคืนให้ คัดลอดเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดให้ลูกค้า
และ พร้อมที่จะเป็นพยานยืนยันให้เมื่อจะดำเนินคดีกับขโมยคนนี้ ...
สำหรับลูกค้า ... ในความโชคร้ายของลูกค้าก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่โจรนำมาขายคืนที่นี่
เพราะถ้าไปที่อื่นนอกจากของก็จะหายไปเฉยๆแล้ว ยังจับมือใครดมไม่ได้อีกด้วย
ต่อไปก็ต้องไปสืบดูว่าเขาขโมยออกมาได้อย่างไร มีคนในรู้เห็นอีกหรือไม่ ต่อไปจะป้องกันอย่างไร
สำหรับขโมย ... ก็คงถึงคราวซวย เพราะ บริษัทลูกค้าคงต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดแน่ๆ
สำหรับ Q … ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจได้ยากลำบากเช่นนี้ ... ซื้อก็ใช่ที่ ... ไม่ซื้อก็ใช่ที่
ถึงแม้ว่ากฎหมายรับซื้อของโจรอาจจะดูที่เจตนาต้องนำสืบ จากหลักฐานและพยาน
แต่คำว่า “ผิดกฎหมาย” กับ “ถูกกฎหมาย” ในกรณีนี้มันก็ห่างกันแค่เส้นบางๆ
Q รับรู้ถึงผลที่จะตามมาดี แต่เขาก็ยังตัดสินใจได้ “เด็ดขาด” และรวดเร็วมากในกรณีนี้
ผมเองยังคิดว่าถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ผมจะตัดสินใจได้เด็ดขาดเท่า Q หรือไม่?
ไม่เฉพาะการทำธุรกิจการค้า ... แต่ในในชีวิตจริงเอง ผมเชื่อว่าเราก็ต้องเจอกับสถานการณ์
ที่ตัดสินใจยากลำบากเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง แล้วถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากตัดสินใจเช่นนี้ล่ะ
เราจะตัดสินใจอย่างไร???