อยากฝากนิทานในจินตนาการ ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

กระทู้คำถาม
พอดีไปเจอมาน่ะครับ คนแต่งนี่จินตนาการเรื่อยเปื่อยดี  แต่ก็อ่านเพลินๆ เลยเอามาฝากครับ ยาวนิสนึง


กาลครั้งนึงนานมาแล้ว ณ ดินแดนประเทศที่สวยงามประเทศหนึ่ง มีการปกครองโดยราชาที่มากความสามารถยิ่งมาเป็นเวลาช้านาน
จนวันนึงเมื่อประชาชนได้ร้องขอและองค์ราชาเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ประชาชนควรเติบโตและก้าวออกจากอ้อมแขนของพ่อ

องค์ราชาจึงได้มอบอำนาจการบริหารประเทศ ให้แก่ประชาชนผ่านทางอำนาจ 3 อำนาจ ได้แก่ ฝ่ายออกกฏหมาย ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าอยากเดินไปในทิศทางใด อย่างไร

ฝ่ายออกกฏหมาย มีหน้าที่ออกกฏหมายเพื่อดูแลความเรียบร้อย ของประชาชน ควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหาร ไม่ให้อำนาจฝ่ายบริหารจนมากเกินไปจนนำไปรังแกประชาชน

ฝ่ายบริหาร มีหน้าที่บริหารงานต่างๆ ของประเทศ มีอำนาจแค่เพียงที่กฏหมายบัญญัติไว้

ฝ่ายตุลาการ มีหน้าที่ตรวจสอบและลงโทษ บุคคลหรือกลุ่มคนใดๆ ที่ทำผิดกฏหมาย ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ประชาชนปลื้มปิติ โห่ร้องยินดี และสรรเสริญต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างมากมาย
หารู้ไม่ว่า ยังมีบุคคลบางกลุ่มเห็นว่าประชาชนยังไม่พร้อมที่จะออกเดินด้วยตัวเอง กลุ่ม "พี่ใหญ่" นี้จึงได้ตระเตรียมดาบ "อาญาสิทธ์" ไว้ และพร้อมลงดาบกับ อำนาจใดๆ ที่แตกแถวหรือใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือแม่กระทั่งคิดใช้อำนาจทำร้ายองค์ราชา

ประเทศเดินหน้า มาได้ด้วยดีตลอดมา ประชาชนเรียนรู้ ระบบการปกครองแบบใหม่นี้ขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้ในทางที่ผิดโดยบุคคลบางกลุ่มบ้าง คดโกงบ้าง หลอกลวงประชาชนบ้าง จนมีการลงดาบ "อาญาสิทธ์" โดย "พี่ใหญ่" เป็นบางครั้ง ซึ่งก็มีประชาชนทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ประชาชนก็อยู่ร่วมกัน อย่างสงบสุขเสมอมา
...
..
กาลเวลาผ่านไป
ในที่สุด ยุคล่มสลายของประเทศที่สวยงามประเทศนี้ก็มาถึง มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อชายที่ชื่อว่า "วิลเ(ห)ลี่ยม" นักธุรกิจมากความสามารถอาสาเข้ามาบริหารประเทศ นายวิลเลียมสามารถซื้อใจประชาชนส่วนใหญ่ได้อย่างรวดเร็วด้วยหลักการ ลดแลกแจกแถมสู่ประชาชน เอาชนะคู่แข่งอย่างนาย "บรรจงปัต(ปัดแข็งปัดขา)" ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่หัวไม่ทันสมัยเหมือนนายวิลเลียม

นายวิลเลียมชนะใจประชาชนอย่างท่วมท้น อีกทั้งยังบริหารประเทศได้อย่างดีเยี่ยม สร้างความคับข้องใจให้แก่นายบรรจงปัตยิ่งนัก

ยุคของนายวิลเลียม ดำเนินมาได้ระยะนึง นายวิลเลียมมั่นใจในอำนาจของตัวเองมากขึ้น มากขึ้น บริหารประเทศแบบหักดิบมากขึ้น เช่นการกวาดล้างยาขยัน การนำเกมบิงโกให้โชคขึ้นบนดิน หรือยกเลิกแว็นซ์รับจ้างเถื่อน ทลายวงไพ่วงใหญ่ๆ สร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลบางกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บุคคลเหล่านั้นได้เก็บความคับข้องใจไว้ลึกๆ พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ อยากที่จะดึงผลประโยชน์ของตัวเองกลับมา แต่ยังไม่สามารถทำได้เพราะนายวิลเลียมมีอำนาจและพวกพ้องมากมายเหลือเกิน

นายวิลเลียมยังไม่หยุด ด้วยความที่อินกับอำนาจ อยากที่จะเป็นใหญ่จริงๆ จึงคิดแย่งดาบ "อาญาสิทธ์" จาก"พี่ใหญ่"มาไว้ครอบครอง เพื่อที่จะได้เป็นใหญ่คนเดียวในใต้หล้าอย่างแท้จริง กลุ่ม"พี่ใหญ่"ที่ปัจจุบันโรยราลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่ตราบใดที่ยังมีดาบ "อาญาสิทธ์" อยู่ การจัดการวิลเลียมให้หมดอำนาจไปไม่ใช่เรื่องยาก แต่ "ความชอบธรรม" ในการใช้ดาบนี่สิที่สำคัญ เพราะนายวิลเลียมได้ใจประชนชนไปมากมายเหลือเกิน การหยิบดาบมาฟาดฟันซะอย่างงั้น จึงทำไม่ได้ ขบวนการสร้างความชอบธรรมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย การชักจูงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ได้อุบัติขึ้น

นาย "พลิ้ม" ประชาชนธรรมดาที่ไม่ธรรมดาได้เปิดประตูแห่งการแก้แค้น การทวงคืน การโค่นอำนาจขึ้น ผ่านประโยคที่ประชาชนได้ยินกันอย่างเคยชินนั่นคือ "การโกงกิน"

นายวิลเลียมไม่สะทกสะท้านกับการป่าวประกาศของนายพลิ้มเลยแม้แต่นิด มั่นใจในอำนาจที่ล้นเหลือ หารู้ไม่ว่าเกมกำลังจะเปลี่ยน กระแสลมจะหมุนวนกลับ เรื่องถูกจะกลายเป็นเรื่องผิด เรื่องผิดจะกลายเป็นเรื่องถูก เรื่องเล็กๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ๆ จะกลายเป็นเรื่องเล็ก

ด้วยนายพลิ้มที่มีวาทะกรรมที่น่าเชื่อถือ หลักฐานที่ชัดเจน นายวิลเลียมมีความคลุมเครือจริง เรื่องหมกเม็ดของนายวิลเลียม ได้ถูกตีแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มรับฟังอย่างตั้งใจ ฝ่ายบรรจงปัตเห็นโอกาส กลุ่มเสียผลประโยชน์เริ่มเห็นทางออก กลุ่ม "พี่ใหญ่" มองเห็นจังหวะ นายพลิ้มจึงได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น ท่อน้ำเลี้ยงมีไม่จำกัด การชักจูงเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น ประชาชนคล้อยตาม ในกระทั่งเรื่องที่ไม่เป็นความจริง การใส่ใข่ลงไปในเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง ใช่ ไม่ใช่ จริง ไม่จริง ไม่มีการตรวจสอบ ประชาชนล้นหลาม อินกับข้อมูลทุกชนิด ลุกฮือขึ้นต่อต้านนายวิลเลียมอย่างพร้อมเพรียงกัน

บรรจงปัตกระหยิ่มยิ้มย่อง กลุ่มเสียผลประโยชน์หัวเราะร่า "พี่ใหญ่" พร้อมจะสั่งสอนนายวิลเลียมที่บ้าอำนาจ
เหลืออีกแค่ขั้นตอนเดียว อย่างเดียวเท่านั้น
แก็งค์ สามมือ สี่มือ มาจากไหนไม่มีใครทราบ
"ปัง"
ใครเป็นคนเริ่ม เพราะอะไร ใครสั่ง ไม่มีใครรู้
ประตูของความชอบธรรมเปิดออกแล้ว

เมื่อความผิดของนายวิลเลียมชัดเจนขนาดนี้ โกงกิน ขายชาติ คิดทำร้ายพ่อ ทรราชย์ เมื่อประชาชนผู้บริสุทธ์ถูกทำร้าย เมื่อความชอบธรรมของนายวิลเลียมหมดลง เมื่อมองไปแล้วเห็นแต่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้น ถึงเวลาอันเชิญดาบ "อาญาสิทธ์"

อำนาจของดาบยังยิ่งใหญ่เสมอ นายวิลเลียมพร้อมผู้สนับสนุนกระจัดกระจาย

"พี่ใหญ่" ถอนรากถอนโคนอำนาจของนายวิลเลียมอย่างหมดสิ้น ใช้อำนาจดาบจัดตั้งกลุ่ม "ตุลาเกิน" ถอนรากถอนโคนนายวิลเลียม ประชาชนกู่ร้อง สิ้นแล้วทรราชย์

นายวิลเลียมหลบหนี ไม่อยู่สู้ความจริง ด้วยเหตุกลัวคณะ "ตุลาเกิน" อย่างจริงจัง
ประชาชนฝ่ายชอบนายวิลเลียม งง งวย สงสัย คลางแคลงในตัวนายวิลเลียม สงสัยในระบบ 3 อำนาจ ไม่เห็นด้วยกับดาบ "อาญาสิทธ์" แต่ต้องรับสภาพ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาบได้แสดงแสนญานุภาพ

นายพลิ้มหมดประโยชน์ กลายร่างเป็นบุคคลธรรมดาแทบจะทันที

บรรจงปัตถูกสถาปนาให้ขึ้นมามีอำนาจบริหาร แลกกับการเชื่อฟัง "พี่ใหญ่" อย่างไร้เงื่อนไข ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนายบรรจงปัตอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ปัญหา

บรรจงปัตพยายามเอาชนะใจคนด้วยหลักการ ลดแลกแจกแถมสู่ประชาชน เช่นเดียวกับนายวิลเลียม แต่กลับไม่ได้ผล เพราะระหว่างนั้น นายบรรจงปัตยุ่งอยู่กับคณะ "ตุลาเกิน" เพื่อจัดการนายวิลเลียมและพวกพ้องให้สิ้นซาก เลือกทางทำลายฝ่ายตรงข้ามให้สิ้น ไม่พยายามสร้างสรรค์เพื่อเอาชนะ

เมื่อนายวิลเลียมตั้งหลักได้ การทวงอำนาจคืนจึงอุบัติขึ้น การการชักจูงที่ยิ่งใหญ่อุบัติขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สูญเสียมากกว่าครั้งใดๆ

ประชาชนและฝ่ายที่เคยได้รับผลประโยชน์จากนายวิลเลียมรวมตัวออกมาทวงอำนาจ สร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั่วไป เช่นเดียวกับเหตุการณ์ของนายพลิ้ม แต่ต่างจากเดิมตรง นายบรรจงปัต ที่ก้าวขึ้นมาโดย "พี่ใหญ่" นั้นมีพลังอำนาจของดาบ "อาญาสิทธ์" ติดไม้ติดมือมาด้วย แก๊งค์ สามมือ สี่มือ พร้อมปฎิบัติหน้าที่อีกครั้ง เพื่อเรียกความชอบธรรมให้กับดาบ การลงดาบเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เกิดขึ้นโดยตรงกับประชาชน มีการบาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้านเมืองลุกเป็นไฟ บรรจงปัตถูกประนามจากทุกสารทิศ พรรคพวกนายวิลเลียมถูกตราหน้าว่าเผาบ้านเผาเมือง มองไปทางไหนมีแต่ความพ่ายแพ้ บ้านเมืองถอยหลัง ทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ ความเกลียดชังทวีความรุนแรง สุมอยู่ภายในจิตใจของทั้งสองฝ่าย

แต่ไม่เอาแล้ว การเข่นฆ่ากัน ทุกคนถอยหลัง คนละหนึ่งก้าว หาทางออกกันเถอะ

อีกสักครั้งนะ ให้ประชาชน เลือกผู้นำใหม่อีกสักครั้ง ตามกติกา เสียงกระซิบอันแผ่วเบา ดังขึ้น

การชั่งใจครั้งใหม่ของประชาชน เกิดขึ้นอีกครั้ง

พรรคพวกนายวิลเลียม ยังครองใจประชาชนส่วนใหญ่ไว้เช่นเคย เอาชนะพวกนายบรรจงปัตได้อย่างสวยงามอีกครั้ง

"พี่ใหญ่" หลังจากสั่งสอนนายวิลเลียมแล้ว กลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง ถ่วงดุลอำนาจอย่างลับๆ ต่อไป

การกลับมามีอำนาจครั้งนี้ของพวกนายวิลเลียม ต้องใช้อำนาจและเดินเกมอย่างระมัดระวัง การวางตำแหน่งผู้นำคือกุญแจสำคัญ ของแผนการใหม่ในครั้งนี้

วีรสตรี คือแผนอันแสนแยบยล ของนายวิลเลียม วีรสตรีผู้ไม่เคยมีประวัติ ผู้มีรอยยิ้มอันอ่อนโยน หุ่นกระบอกชั้นเยี่ยมนี้ น่าจะทำให้บรรจงปัต หมดสิ้นหนทางโจมตี
และ "พี่ใหญ่" คงไม่ใช้อำนาจรังแกสตรีเป็นแน่แท้
แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ บรรจงปัต ผู้มีพรสวรรค์ทางด้านทำลายล้าง เมื่อหามลทินมาเล่นงานไม่ได้ กระนั้นเลย ความเป็นหุ่นกระบอกไง ความเป็นหุ่นเชิด สายเลือดทรราชย์นั่นไง นำมันมาใช้สิ
วีรสตรีที่ไหน แค่ผู้หญิงอ่อนด้อยปัญญา คิดเองไม่เป็น โกงชาติ ขายชาติ
หุ่นเชิด และอีกหลายวาทะกรรม ที่สรรหามาโจมตี หุ่นกระบอกนี้อย่างต่อเนื่อง

ประเทศยังอยู่กับที่ ไม่อาจก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะอะไรกัน
อาจเป็นเป็นเพราะวิลเลียมหรือที่อยากกลับมามีอำนาจ
หรือเป็นเพราะหุ่นกระบอก ที่ถูกเชิด ไม่มีปัญญา ไร้ความสามารถ
หรือเป็นเพราะบรรจงปัต ที่สร้างแต่เรื่องมาทำลายล้าง ปัดแข็งปัดขา
หรือจะเป็นประชาชน ด้อยปัญญาที่ชอบ นโยบาย ลดแลกแจกแถม
หรือเป็นเพราะประชาชนปัญญาสูงส่งในเมืองบางกลุ่มที่ตัดสินผิด ผี ดี ชั่ว จากสายเลือด ละลมปาก
หรืออำนาจของคณะ "ตุลาเกิน" ที่คานอำนาจพวกพ้องนายวิลเลียมอยู่ลับๆ

แต่นายวิลเลียมไม่แยแสนายบรรจงปัต
"พี่ใหญ่" ต่างหาก คือเป้าหมายของนายวิลเลียม

วรีสตรีหุ่นเชิด ได้เป็นตัวแทนของการ เจรจาสงบศึกระหว่าง นายวิลเลียม กับ "พี่ใหญ่"
การเจรจาบรรลุผล นายวิลเลียม ยอมกลับเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายเช่นเดิม
"พี่ใหญ่" ซึ่งต้องการแค่การสั่งสอน ให้อภัยในวิลเลียม ไม่เอาแล้ว การเสียเลือดเสียเนื้อ ทุกฝ่ายเจ็บปวด

บรรจงปัตล่ะ กำลังจะถูกลอยแพ ถ้า "พี่ใหญ่" ให้อภัยนายวิลเลียม

วีรสตรีหุ่นเชิด เมื่อได้คำมั่นจาก "พี่ใหญ่" จึงดำเนินตามแผนการชุบชีวิต นายวิลเลียม
แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเครื่องมือล้างผิดให้นายวิลเลียม ถูกนายบรรจงปัตที่อาการร่อแร่ นำออกมาแฉสู่สาธาณชน ด้วยความหวังอันน้อยนิด  แต่ครั้งนี้มีบางอย่างแปลกไป ประชาชนทั่วทุกสารทิศ ร่วมกันต่อต้านวีรสตรีหุ่นเชิด ไม่ให้ล้างผิด กับผู้กระทำผิดทุกๆ คน ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษตามกติกาสิ

วีรสตรีหุ่นเชิด และอาจรวมไปถึง "พี่ใหญ่" ต่างตกใจกับการต่อต้านในครั้งนี้ บรรจงปัต กู่ร้องอย่างมีชัย จังหวะของเรามาถึงแล้ว

วีรสตรหุ่นเชิด ถอยหลังสุดประตู ยกเลิกแผนที่วางมาเป็นแรมปีเพื่อนายวิลเลียม เพื่อลดความขัดแย้ง ยังไม่ถึงเวลานายวิลเลียมจะกลับมา.........

ใครจะคิดว่าแผนการล้มนายวิลเลียมในครั้งนั้น จะฝังลากลึกลงไปในจิตใจของประชาชนอย่างถอนไม่ขึ้น อีกทั้งยังมีนายบรรจงปัตที่คอยเพิ่มเติมเชื้อไฟอยู่ตลอดเวลา ด้วยข้อมูลหยาบระดับพื้นถนนคอนกรีต สำนวนต่ำแบบคนไร้การศึกษา อา....กลับได้ผลอย่างยอดเยี่ยม ประชาชนผู้มีการศึกษาอันสูงส่ง ในเมืองซิวิไล พร้อมใจกันเปล่งเสียงแห่งมหามวลชน ขับไล่วีรสตรีหุ่นเชิด โกงกิน ขายชาติ กลับมาอีกแล้ว

เมื่อกระแสลมหมุนกลับ นายบรรจงปัต จึงต้องใช้โอกาสนี้ ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ทุ่มเททั้งหมด อีกครั้งขอกลับไปมีอำนาจอีกครั้ง " "พี่ใหญ่" พี่ได้ยินไหม อย่าพึ่งลอยแพผม นายวิลเลียมและพวกพ้อง มันยังเลวเหมือนเดิม ผมจะทำให้ "พี่ใหญ่" ต้องช่วยผมอีกครั้ง "

ไพ่ใบสุดท้าย ของนายบรรจงปัต "นายสุดเมพ" ทุ่มสุดตัว ห้อย โหย ไม่ต่างจากนักกายกรรม เรียกเสียงกู่ร้องจากประชาชน งัดพลังทำลายล้างขั้นสูงสุดออกมาโจมตีวีรสตรีหุ่นเชิด โหนความรักชาติ ไม่มีคำว่ากติกา ไม่มีคำว่าสุภาพบุรุษ ไม่มีคำว่าเห็นต่าง ทำเพื่อพ่อ กำจัดทรราชย์

นายสุดเมพห่อมืออันเปื้อนเลือดของประชาชนที่ตัวเองเคยสั่งฆ่า ด้วยธงชาติ อา........สวยงามยื่งนัก ท่านสุดเมพ ประเทศชาติต้องการคนจริงอย่างท่าน เหล่าปัญญาชนโห่ร้อง ตรงไหนที่เป็นรอยด่างพร้อย ไม่ยากเลยพี่น้อง เอาธงชาติพันไว้ ความรักชาติจะทำให้คุณเป็นคนดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่