คำประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพลังมวลมหาประชาชนที่ราชดำเนินที่นัดประชาชนทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมสร้างประวัติศาสตร์รวมพลังครั้งใหญ่ถือเป็นคำประกาศศึกแตกหักรุกฆาตกับรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณ
ขณะที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณใช้กลไกอำนาจรัฐและสารพัดวิชามารบ่อนทำลายความชอบธรรม กลั่นแกล้ง ดำเนินคดี และสกัดกั้นแกนนำและพลังมหาประชาชนจากทั่วประเทศที่หลั่งไหลเดินทางเข้ากรุงเพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ว่า รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดชุดนี้หมดแล้วซึ่งความชอบธรรมที่จะอยู่บริหารประเทศต่อไป ด้วยพฤติกรรมสารพัดชั่วร้ายตลอดกว่า 2 ปีที่เข้ามาบริหารประเทศ
ทั้งการย่ามใจลุแก่อำนาจทำตัวไม่ต่างอะไรจากเผด็จการรัฐสภาทรราชในคราบประชาธิปไตยด้วยการออกกฎหมายเพื่อตัวเองอันเป็นทำลายหลักนิติรัฐและระบบศาล และยังวางแผนแก้ไขรัฐธรรมนูญมุ่งปูทางไปสู่การสถาปนาระบอบทักษิณยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬารชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำลายหลักธรรมาภิบาลระบบราชการโดยกลั่นแกล้งโยกย้ายข้าราชการน้ำดีที่ซื่อสัตย์สุจริตมีความรู้ความสามารถแล้วตั้งข้าราชการชั่วที่ยอมเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณขึ้นคุมอำนาจแทน อีกทั้งโกหกบิดเบือนหลอกลวงกะล่อนปลิ้นปล้อนมาตลอด เป็นรัฐบาลของทักษิณ โดยทักษิณและเพื่อทักษิณจนเป็นชนวนสร้างความแตกแยกในชาติอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งสร้างความวิบัติให้ประเทศมาเกือบ 10 ปี ซึ่งที่เลวร้ายก็คือพฤติการณ์จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
นอกจากนี้ ยังมือเติบก่อหนี้ให้ประเทศมูลค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ทำให้คนรุ่นหลังต้องแบกภาระหนี้นับตั้งแต่เกิดไปอีกนานกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และแม้จะถลุงเงินแผ่นดินก่อหนี้มากมายมหาศาลจนประเทศใกล้
ล่มจม แต่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดกลับยังตะแบงเดินหน้าผลาญเงินแผ่นดินอย่างไม่สะทกสะท้านเพราะถือว่าไม่ใช่เงินของตัวเองโดยหวังโกงกินกันอย่างมูมมามย่ามใจ
รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยังพยายามยึดกุมทุกหน่วยราชการและทุกองคาพยพของประเทศเป็นทาสรับใช้ อาทิ การสถาปนารัฐตำรวจ การครอบงำสำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองไม่ต่างอะไรจากรัฐบาลพรรคนาซีของอดีตจอมเผด็จการทรราช อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ของเยอรมันในอดีต
แม้รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดจะเดินเกมแกล้งทำเป็นถอยแบบสุดซอย แต่นั่นก็เป็นแค่เล่ห์สร้างภาพตึสองหน้าเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองเหมือนชำเราประเทศจนใกล้สำเร็จความใคร่แล้วเผอิญถูกจับได้ไล่ทันก็เลยแก้เกี้ยวทำทีเป็นยอมเลิกราเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งคนชั่วถึงอย่างไรก็ไม่เลิกทำชั่วเพียงแต่จ้องรอโอกาสทำชั่วรอบใหม่ ซึ่งรัฐบาลหุ่นเชิดด้านหนึ่งสร้างภาพทำเป็นถอย แต่อีกด้านหนึ่งกลับเจ้าเล่ห์ใช้กลไกอำนาจรัฐทำทุกวิถีทางเพื่อรุกกลับหวังสู้กับพลังมหาประชาชน โดยเฉพาะการใช้ม็อบชนม็อบโดยไฟเขียวให้จัดตั้งม็อบเสื้อแดงออกมาข่มขู่คุกคามการชุมนุมของพลังมหาประชาชน เลยเถิดไปถึงขั้นข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินชี้ขาดกรณีคำร้อง 312 สส. พรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภา (สว.)เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสว. ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่อาจมีโทษถึงขั้นยุบพรรคและถอดถอนพ้นสส. และ สว. อันจะนำไปสู่สุญญากาศทางการเมือง
การที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดเดิมเกมรุกกลับถือเป็นการเผยธาตุแท้ตลบตะแลงเชื่อถืออะไรไม่ได้และท้าทายพลังมหาประชาชน ฉะนั้นศึกแตกหักเพื่อขับไล่ระบอบทรราชหุ่นเชิดที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงถือเป็นการวัดใจพลังประชาชนซึ่งจำนวนพลังมหาประชาชนจะมีความสำคัญและเป็นตัวชี้ขาดชัยชนะ ซึ่งหากพลังมหาประชาชนมากันอย่างมืดฟ้ามัวดินหลายแสนคนจนเต็มถนนราชดำเนินชัยชนะย่อมตกเป็นของฝ่ายประชาชนแน่นอน แต่หากมีจำนวนมวลชนเข้าร่วมไม่มากเพียงพอก็ถือเป็นเคราะห์กรรมของประเทศที่คงต้องปล่อยให้ระบอบทักษิณยึดประเทศครองบ้านกินเมืองอย่างถาวร
ที่มา:
http://www.naewna.com/creative/77633
ปล.นี่แหล่ะครับที่เราต้องช่วยกัน ล้มล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก...เอิ๊ก ๆ ๆ
ศึกแตกหักวัดพลังมหาประชาชน หรือจะปล่อยทรราชยึดบ้านโกงเมือง!
ขณะที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณใช้กลไกอำนาจรัฐและสารพัดวิชามารบ่อนทำลายความชอบธรรม กลั่นแกล้ง ดำเนินคดี และสกัดกั้นแกนนำและพลังมหาประชาชนจากทั่วประเทศที่หลั่งไหลเดินทางเข้ากรุงเพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ว่า รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดชุดนี้หมดแล้วซึ่งความชอบธรรมที่จะอยู่บริหารประเทศต่อไป ด้วยพฤติกรรมสารพัดชั่วร้ายตลอดกว่า 2 ปีที่เข้ามาบริหารประเทศ
ทั้งการย่ามใจลุแก่อำนาจทำตัวไม่ต่างอะไรจากเผด็จการรัฐสภาทรราชในคราบประชาธิปไตยด้วยการออกกฎหมายเพื่อตัวเองอันเป็นทำลายหลักนิติรัฐและระบบศาล และยังวางแผนแก้ไขรัฐธรรมนูญมุ่งปูทางไปสู่การสถาปนาระบอบทักษิณยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬารชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำลายหลักธรรมาภิบาลระบบราชการโดยกลั่นแกล้งโยกย้ายข้าราชการน้ำดีที่ซื่อสัตย์สุจริตมีความรู้ความสามารถแล้วตั้งข้าราชการชั่วที่ยอมเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณขึ้นคุมอำนาจแทน อีกทั้งโกหกบิดเบือนหลอกลวงกะล่อนปลิ้นปล้อนมาตลอด เป็นรัฐบาลของทักษิณ โดยทักษิณและเพื่อทักษิณจนเป็นชนวนสร้างความแตกแยกในชาติอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งสร้างความวิบัติให้ประเทศมาเกือบ 10 ปี ซึ่งที่เลวร้ายก็คือพฤติการณ์จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
นอกจากนี้ ยังมือเติบก่อหนี้ให้ประเทศมูลค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ทำให้คนรุ่นหลังต้องแบกภาระหนี้นับตั้งแต่เกิดไปอีกนานกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และแม้จะถลุงเงินแผ่นดินก่อหนี้มากมายมหาศาลจนประเทศใกล้ล่มจม แต่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดกลับยังตะแบงเดินหน้าผลาญเงินแผ่นดินอย่างไม่สะทกสะท้านเพราะถือว่าไม่ใช่เงินของตัวเองโดยหวังโกงกินกันอย่างมูมมามย่ามใจ
รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยังพยายามยึดกุมทุกหน่วยราชการและทุกองคาพยพของประเทศเป็นทาสรับใช้ อาทิ การสถาปนารัฐตำรวจ การครอบงำสำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองไม่ต่างอะไรจากรัฐบาลพรรคนาซีของอดีตจอมเผด็จการทรราช อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ของเยอรมันในอดีต
แม้รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดจะเดินเกมแกล้งทำเป็นถอยแบบสุดซอย แต่นั่นก็เป็นแค่เล่ห์สร้างภาพตึสองหน้าเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองเหมือนชำเราประเทศจนใกล้สำเร็จความใคร่แล้วเผอิญถูกจับได้ไล่ทันก็เลยแก้เกี้ยวทำทีเป็นยอมเลิกราเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งคนชั่วถึงอย่างไรก็ไม่เลิกทำชั่วเพียงแต่จ้องรอโอกาสทำชั่วรอบใหม่ ซึ่งรัฐบาลหุ่นเชิดด้านหนึ่งสร้างภาพทำเป็นถอย แต่อีกด้านหนึ่งกลับเจ้าเล่ห์ใช้กลไกอำนาจรัฐทำทุกวิถีทางเพื่อรุกกลับหวังสู้กับพลังมหาประชาชน โดยเฉพาะการใช้ม็อบชนม็อบโดยไฟเขียวให้จัดตั้งม็อบเสื้อแดงออกมาข่มขู่คุกคามการชุมนุมของพลังมหาประชาชน เลยเถิดไปถึงขั้นข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินชี้ขาดกรณีคำร้อง 312 สส. พรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภา (สว.)เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสว. ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่อาจมีโทษถึงขั้นยุบพรรคและถอดถอนพ้นสส. และ สว. อันจะนำไปสู่สุญญากาศทางการเมือง
การที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดเดิมเกมรุกกลับถือเป็นการเผยธาตุแท้ตลบตะแลงเชื่อถืออะไรไม่ได้และท้าทายพลังมหาประชาชน ฉะนั้นศึกแตกหักเพื่อขับไล่ระบอบทรราชหุ่นเชิดที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงถือเป็นการวัดใจพลังประชาชนซึ่งจำนวนพลังมหาประชาชนจะมีความสำคัญและเป็นตัวชี้ขาดชัยชนะ ซึ่งหากพลังมหาประชาชนมากันอย่างมืดฟ้ามัวดินหลายแสนคนจนเต็มถนนราชดำเนินชัยชนะย่อมตกเป็นของฝ่ายประชาชนแน่นอน แต่หากมีจำนวนมวลชนเข้าร่วมไม่มากเพียงพอก็ถือเป็นเคราะห์กรรมของประเทศที่คงต้องปล่อยให้ระบอบทักษิณยึดประเทศครองบ้านกินเมืองอย่างถาวร
ที่มา:http://www.naewna.com/creative/77633
ปล.นี่แหล่ะครับที่เราต้องช่วยกัน ล้มล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก...เอิ๊ก ๆ ๆ