การประกาศ..จะปฏิรูปการเมือง
ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ถือว่าเป็นสัญญาประชาคม..ว่า
จะไม่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง
หรือ..เพื่อพรรคประชาธิปปัตย์
แต่..เพื่อประโยชน์ของประเทศ
และจะก้าวข้ามปัญหาความขัดแย้งเรื้อรัง..ที่เป็นอยู่
ถ้าทำสำเร็จ..
จะเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยอีกขั้น..
นักการเมืองจะต้องทำเพื่อชาติบ้านเมือง..มากขึ้น
ธุรกิจการเมือง การโกงชาติ..จะลดน้อยลง
ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ..มากขึ้น
ไม่ว่าเสื้อสีใด..จะมีความเป็นเจ้าของประเทศ..มากขึ้น
หวังว่านี่คือเป้าหมายสูงสุด..ของการทำม็อบ..ครั้งนี้
ปี 40 เรามี รธน.ฉบับที่ให้อำนาจประชาชน
ให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง แต่ประเทศเรา
ต้องเจอกับ ธุรกิจการเมืองอย่าง ระบอบทักษิณ
ที่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ระบบตรวจสอบไม่ทำงาน
ระบบถ่วงดุลไม่ทำหน้าที่ นี่คือประชาธิปไตยโลกสวย
เราคิดว่าให้อำนาจแก่คน คนๆนั้นจะดี รู้หน้าที่ มีศีลธรรม
ยอมรับกฏกติกา แต่เขากลับใช้ช่องว่างเพื่อประโยชน์
จึงเกิดก่อต่อต้าน และรัฐประหารในปี 49 และมี รธน.50
สิ่งที่ประชาชนได้จากม็อบสนธิคือ
ประชาชนคนไทยตื่นตัวทางการเมือง
มีเสื้อเหลือง
เกิดเสื้อแดง
ประชาชนสนใจเหตุบ้านการเมืองมากขึ้น
แต่ก็แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนเพราะ
เลือกแต่รับสื่อด้านของตัวเอง
เหตุการณ์เผาบ้านเมืองปี 53 คือการปลูกฝีของคนไทย
ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
และจะเป็นวัคซีนชั้นดีที่จะทำให้คนไทย
ตระหนักถึงการแก้ปัญหาได้มากขึ้น
ปี 56 เมื่อจะมีการออก พรบ.ล้างผิด
ประชาชนในสังคมรวมตัวกัน
เพื่อจะบอกผู้มีอำนาจว่า
การ set zero เพื่อให้ลืมกันไป
ไม่ต้องหาคนผิด
ในปี 53 เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ใครทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการ
ซึ่งถ้าเป็นในอดีตแทบจะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย
เพราะ
เรายังอยู่เพื่อตัวของเราเอง
แต่วันนี้เรารวมกันเพื่อแสดงให้เห็นว่า
มีความพยายามสร้างบรรทัดฐาน
สร้างมาตรฐานของสังคมประชาธิปไตย
ให้ดีขึ้นครับ
และถ้าสามารถปฏิรูปการเมืองสำเร็จ
คนไทยมีความตื่นตัว ระบบถ่วงดุลย์เดินหน้า
ระบบตรวจสอบทำงาน
คนที่เข้ามาเล่นการเมืองในอนาคต
ก็จะทำแย่ๆ ชั่วๆอย่างที่เคยเจอ จะน้อยลง
หวังไว้อย่างนั้น
ปฏิรูปการเมืองกันเถิด
ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ถือว่าเป็นสัญญาประชาคม..ว่า
จะไม่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง
หรือ..เพื่อพรรคประชาธิปปัตย์
แต่..เพื่อประโยชน์ของประเทศ
และจะก้าวข้ามปัญหาความขัดแย้งเรื้อรัง..ที่เป็นอยู่
ถ้าทำสำเร็จ..
จะเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยอีกขั้น..
นักการเมืองจะต้องทำเพื่อชาติบ้านเมือง..มากขึ้น
ธุรกิจการเมือง การโกงชาติ..จะลดน้อยลง
ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ..มากขึ้น
ไม่ว่าเสื้อสีใด..จะมีความเป็นเจ้าของประเทศ..มากขึ้น
หวังว่านี่คือเป้าหมายสูงสุด..ของการทำม็อบ..ครั้งนี้
ปี 40 เรามี รธน.ฉบับที่ให้อำนาจประชาชน
ให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง แต่ประเทศเรา
ต้องเจอกับ ธุรกิจการเมืองอย่าง ระบอบทักษิณ
ที่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ระบบตรวจสอบไม่ทำงาน
ระบบถ่วงดุลไม่ทำหน้าที่ นี่คือประชาธิปไตยโลกสวย
เราคิดว่าให้อำนาจแก่คน คนๆนั้นจะดี รู้หน้าที่ มีศีลธรรม
ยอมรับกฏกติกา แต่เขากลับใช้ช่องว่างเพื่อประโยชน์
จึงเกิดก่อต่อต้าน และรัฐประหารในปี 49 และมี รธน.50
สิ่งที่ประชาชนได้จากม็อบสนธิคือ
ประชาชนคนไทยตื่นตัวทางการเมือง
มีเสื้อเหลือง
เกิดเสื้อแดง
ประชาชนสนใจเหตุบ้านการเมืองมากขึ้น
แต่ก็แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนเพราะ
เลือกแต่รับสื่อด้านของตัวเอง
เหตุการณ์เผาบ้านเมืองปี 53 คือการปลูกฝีของคนไทย
ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
และจะเป็นวัคซีนชั้นดีที่จะทำให้คนไทย
ตระหนักถึงการแก้ปัญหาได้มากขึ้น
ปี 56 เมื่อจะมีการออก พรบ.ล้างผิด
ประชาชนในสังคมรวมตัวกัน
เพื่อจะบอกผู้มีอำนาจว่า
การ set zero เพื่อให้ลืมกันไป
ไม่ต้องหาคนผิด
ในปี 53 เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ใครทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการ
ซึ่งถ้าเป็นในอดีตแทบจะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย
เพราะ
เรายังอยู่เพื่อตัวของเราเอง
แต่วันนี้เรารวมกันเพื่อแสดงให้เห็นว่า
มีความพยายามสร้างบรรทัดฐาน
สร้างมาตรฐานของสังคมประชาธิปไตย
ให้ดีขึ้นครับ
และถ้าสามารถปฏิรูปการเมืองสำเร็จ
คนไทยมีความตื่นตัว ระบบถ่วงดุลย์เดินหน้า
ระบบตรวจสอบทำงาน
คนที่เข้ามาเล่นการเมืองในอนาคต
ก็จะทำแย่ๆ ชั่วๆอย่างที่เคยเจอ จะน้อยลง
หวังไว้อย่างนั้น