ไม่เป็นกลาง
ต้องยอมรับตรงๆ ว่า
ศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยทำให้ผิดหวังซักครั้งเดียว
ไม่ผิดหวังจริงๆ
เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้นักกฎหมายต้องเผาตำราทิ้งไปตามกัน
โดยเฉพาะการที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ชี้ว่าการคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของรัฐ เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
แถมศาลรัฐธรรมนูญยั
งชี้ว่าระบบ ส.ว.ลากตั้ง ซึ่งให้อำนาจคน 7 คน เอาอำนาจประชาชน 65 ล้านคนไปลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ เป็นความถูกต้องชอบธรรม
แต่
ที่ฮากันตึง คือ
ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเองว่าไม่มีอำนาจก้าวก่ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภา
แต่อยู่ๆก็อ้างเองเออเองว่าตัวเองมีอำนาจแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โอ้แม่เจ้า...ไปกันใหญ่ซะแล้วโยม
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองศาลรัฐธรรมนูญให้ลึกซึ้งถึงที่มาที่ไป สาธุชนจะเข้าใจศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ได้ชัดเป๊ะเหมือนเข้าเครื่องเอกซเรย์
เพราะ
ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ คลอดจากมดลูกเผด็จการ
การกำเนิดจากรังไข่เผด็จการ อาจไม่เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตย กลัวว่าถ้าให้อำนาจประชาชนเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง จะกลายเป็นสภาพี่สภาน้อง สภาครอบครัว สภาผัวสภาเมีย
นี่คือการมองประชาชนต่ำกว่าความเป็นจริง
ประกอบกับ
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่อท่ออำนาจเผด็จการเอาไว้ทุกซอกทุกมุม
ถ้าปล่อยให้แก้รัฐธรรมนูญสำเร็จอาจทำให้ท่ออำนาจเผด็จการ อุดตัน??
ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงขนาดต้องหาประเด็นหยุมๆหยิมๆมาเป็นเหตุล้มกระดาน
เช่น...ชี้ว่าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส. ส.ว.ฉบับที่ยื่นต่อประธานสภาฯ กับ ฉบับที่พิจารณาในวาระ 1
ตัวอักษรไม่เหมือนกัน
หรือ ชี้ว่าการที่ประธานสภา
ไม่เปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว. ใช้สิทธิอภิปรายครบถ้วนตามต้องการ
ไอ้พวกนี้เป็นประเด็นปลีกย่อยที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรเอามาอ้างอิง
ยกเว้น ประเด็นเดียวที่ “แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญ
คือ
กรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
เพราะการเสียบบัตรแทนกัน เป็นความผิดร้ายแรง ทำให้การออกเสียงลงมติไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง
ถือว่าลูกเข้าตีนศาลรัฐธรรมนูญเต็มใบ
แต่การที่ศาลรัฐธรรมนูญลง
มติ 5 ต่อ 4 ชี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจประชาชนให้เลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยมัน
ไร้เหตุผลสิ้นดี
แถมทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
ข้อสำคัญ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 4 คน จาก 5 คน ที่โหวตประเด็นนี้
ยังเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยตรง
1,
นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะเป็น 1 ใน 7 คน ที่ใช้อำนาจประชาชน
ลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ
2,นายจรัญ ภักดีธนากุล 3,นายนุรักษ์ มาประณีต 4,นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ทั้ง 3 คน มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะ
เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากับมือ
ถ้ายึดข้อบังคับจริยธรรมตุลาการ และยึดหลักความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด
ตุลาการทั้ง 4 คน ไม่มีสิทธิ์ลงมติ ไม่มีสิทธิ์วินิจฉัยคดี
ถ้าตัดตุลาการ 4 คนนี้ออกไป มติศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็น 1 ต่อ 4 คือมีมติยกคำร้องข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อืมม์...
อายุปูนนี้แล้วน่าจะรู้อะไรควร? อะไรไม่ควร?
แม่ลูกจันทร์
ไทยรัฐออนไลน์23 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/384597
????????????????????????????????????????
อย่างที่ว่าไว้ว่าผม "กลุ้มใจ"
ปกติผมจะนำข้อความจากคอลัมน์นั้นๆมาเน้นย้ำอีกรอบ
แต่ครั้งนี้ไม่รู้จะเน้นท่อนไหนดี
เพราะ
"โดน" ล้วนๆ......
ผมอ่านไป 2 รอบ
อ่านแล้ว "อึ้ง" ตลึงกับพฤติกรรมของเหล่าไดโนเสารณ์กากเดนเผด็จการเหล่านี้
ผมไม่น่าเกิดมาร่วมแผ่นดินกับเหล่าผู้ดีมีคุณธรรมจอมปลอมเหล่านี้เลย
เสียดายชาติเกิดเหลือเกิน....
กระทู้นี้ไม่มีอะไรจะบอก - เน้น
นอกจากขอแนะนำให้ช่วยผมเผยแพร่คอลัมน์นี้ต่อๆไปด้วย
หรือนำไปใช้ในที่ต่างๆด้วย....
ส่วนผม...ขอนั่งอึ้งอีกสักพักก่อนครับ...
แม่ลูกจันทร์ไทยรัฐ กระหน่ำประจานความชอบธรรมของตลกจนไม่เหลือซาก กลุ้มใจเพราะเนื้อๆทั้งนั้นจนไม่รู้จะเน้นข้อความใดซ้ำ
ต้องยอมรับตรงๆ ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยทำให้ผิดหวังซักครั้งเดียว
ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้นักกฎหมายต้องเผาตำราทิ้งไปตามกัน
โดยเฉพาะการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่าการคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของรัฐ เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
แถมศาลรัฐธรรมนูญยังชี้ว่าระบบ ส.ว.ลากตั้ง ซึ่งให้อำนาจคน 7 คน เอาอำนาจประชาชน 65 ล้านคนไปลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ เป็นความถูกต้องชอบธรรม
แต่ที่ฮากันตึง คือศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเองว่าไม่มีอำนาจก้าวก่ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภา
แต่อยู่ๆก็อ้างเองเออเองว่าตัวเองมีอำนาจแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โอ้แม่เจ้า...ไปกันใหญ่ซะแล้วโยม
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองศาลรัฐธรรมนูญให้ลึกซึ้งถึงที่มาที่ไป สาธุชนจะเข้าใจศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ได้ชัดเป๊ะเหมือนเข้าเครื่องเอกซเรย์
เพราะศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ คลอดจากมดลูกเผด็จการ
การกำเนิดจากรังไข่เผด็จการ อาจไม่เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตย กลัวว่าถ้าให้อำนาจประชาชนเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง จะกลายเป็นสภาพี่สภาน้อง สภาครอบครัว สภาผัวสภาเมีย
นี่คือการมองประชาชนต่ำกว่าความเป็นจริง
ประกอบกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่อท่ออำนาจเผด็จการเอาไว้ทุกซอกทุกมุม
ถ้าปล่อยให้แก้รัฐธรรมนูญสำเร็จอาจทำให้ท่ออำนาจเผด็จการ อุดตัน??
ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงขนาดต้องหาประเด็นหยุมๆหยิมๆมาเป็นเหตุล้มกระดาน
เช่น...ชี้ว่าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส. ส.ว.ฉบับที่ยื่นต่อประธานสภาฯ กับ ฉบับที่พิจารณาในวาระ 1 ตัวอักษรไม่เหมือนกัน
หรือ ชี้ว่าการที่ประธานสภาไม่เปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว. ใช้สิทธิอภิปรายครบถ้วนตามต้องการ
ไอ้พวกนี้เป็นประเด็นปลีกย่อยที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรเอามาอ้างอิง
ยกเว้น ประเด็นเดียวที่ “แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญ
คือ กรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
เพราะการเสียบบัตรแทนกัน เป็นความผิดร้ายแรง ทำให้การออกเสียงลงมติไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง
ถือว่าลูกเข้าตีนศาลรัฐธรรมนูญเต็มใบ
แต่การที่ศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 5 ต่อ 4 ชี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจประชาชนให้เลือกตั้ง ส.ว.โดยตรง เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยมันไร้เหตุผลสิ้นดี
แถมทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
ข้อสำคัญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 4 คน จาก 5 คน ที่โหวตประเด็นนี้ยังเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยตรง
1,นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะเป็น 1 ใน 7 คน ที่ใช้อำนาจประชาชนลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ
2,นายจรัญ ภักดีธนากุล 3,นายนุรักษ์ มาประณีต 4,นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ทั้ง 3 คน มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากับมือ
ถ้ายึดข้อบังคับจริยธรรมตุลาการ และยึดหลักความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ตุลาการทั้ง 4 คน ไม่มีสิทธิ์ลงมติ ไม่มีสิทธิ์วินิจฉัยคดี
ถ้าตัดตุลาการ 4 คนนี้ออกไป มติศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็น 1 ต่อ 4 คือมีมติยกคำร้องข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อืมม์...อายุปูนนี้แล้วน่าจะรู้อะไรควร? อะไรไม่ควร?
แม่ลูกจันทร์
ไทยรัฐออนไลน์23 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/384597
????????????????????????????????????????
อย่างที่ว่าไว้ว่าผม "กลุ้มใจ"
ปกติผมจะนำข้อความจากคอลัมน์นั้นๆมาเน้นย้ำอีกรอบ
แต่ครั้งนี้ไม่รู้จะเน้นท่อนไหนดี
เพราะ"โดน" ล้วนๆ......
ผมอ่านไป 2 รอบ
อ่านแล้ว "อึ้ง" ตลึงกับพฤติกรรมของเหล่าไดโนเสารณ์กากเดนเผด็จการเหล่านี้
ผมไม่น่าเกิดมาร่วมแผ่นดินกับเหล่าผู้ดีมีคุณธรรมจอมปลอมเหล่านี้เลย
เสียดายชาติเกิดเหลือเกิน....
กระทู้นี้ไม่มีอะไรจะบอก - เน้น
นอกจากขอแนะนำให้ช่วยผมเผยแพร่คอลัมน์นี้ต่อๆไปด้วย
หรือนำไปใช้ในที่ต่างๆด้วย....
ส่วนผม...ขอนั่งอึ้งอีกสักพักก่อนครับ...