สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
พริกไทย นั้นแต่เดิมเรียกว่า "พริก"เฉยๆนะ แต่พอ พริกเม็ดแดงๆเข้ามา มันดันกระโดดถีบพริกบ้านเม็ดกลมๆพวงๆ กลายเป็น"พริกไทย"เสียฉิบ
ไม่พอ ดีปลี(เครื่องเทศรสคล้ายพริกไทยมีลักษณะคล้ายปมเชือก)ที่นิยมทางใต้ของสยาม
ก็โดน พริกแดงๆ ถีบตกจนต้องเรียกใหม่ว่า"ดีปลีเชือก"
แต่ส่วนทางอีสานเช่นทางลาว ยังเรียก "หมากเผ็ด"แบบเดิมอยู่
ซึ่งความเป็นไปได้ของภาษาจึงอยู่ที่ "อะไรเผ็ดสุดในบ้านกู กูเรียกพริก"ว่างั้นไป
ดังนั้นไอ้ "พริกเทศ" นี่หละ ตัวดีเลย ทำเอาอาหารทั้งภูมิภาคเอเชียใต้กระเทือนไปหมด
พริก เนี่ยมีต้นกำเนิดมาจาก อเมริกาใต้
เก่าสุดที่เจอก็ในหลุมศพของชาวเปรู พอโคลัมบัสไปหาอินเดียแต่ทะลึ่งแล่นเรือไปทางตะวันตก เพื่อหาเครื่องเทศ ได้ประเทศใหม่กลับมา แถมเจอ พริก ข้าวโพด มะเขือเทศ ก็เลยเอาติดกลับมาด้วย แถมปลูกง่าย กลายพันธุ์ดี เลยเอาเหน็บไปทุกที่หละ พอโคลัมบัสกลับมาสเปน ก็เอามาปลูกเล่นคราวนี้ก็เลยนิยมไปทั่วยุโรป เขาไปถึง อังกฤษ แล้วทีนี้โปรตุเกสช่วงล่าอาณานิคมแอบแฝงด้วยการใช้หมอสอนศาสนา(รักษา ครอบงำ ยึดประเทศ -ทรีอินวัน) ซึ่งเรือโปรตุเกสก็เอาพริกไปแจกในอินเดียก่อน แล้วก็ลามไปถึงเอเชียกลาง เข้ายุโรปตอนใน ส่วนจีนที่มีบันทึกไว้นี่เข้ามาสมัยปลายๆราชวงศ์ชิง แต่ในทางคู่ขนาน น่าจะแอบมาทางพรมแดนติดกับอินเดียบ้างแล้ว เพราะทางเสฉวนอาหารก็เผ็ดเอาเรื่องอยู่
จากนั้นก็ไปทางญี่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นพอไปรบเกาหลี ก็เอาไปแพร่ในเกาหลีอีก เห็นมะ พริกนี่ยังกะโรคติดต่อ
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ประเทศทางยุโรป ก็ไม่ได้ชื่นชอบมากนัก ปลูกเอาสวย เอาประดับบ้าน ทำยาบ้าง ไม่เห็นกินจริงจังเท่าไหร่
ส่วนของสยามประเทศ น่ะมีหลักฐานแน่ๆก็สมัย พระเอกาทศรถ แต่โปรตุเกสเข้าไทยมาตั้งแต่สมัยพระรามาธิบดีที่สองแล้ว แต่ก็คงไม่ได้นิยมเท่าไหร่หละ เผลอๆพระนเรศวร อดกินน้ำพริก
แล้วไอ้ที่เข้ามาเป็นหลักฐานครั้งแรกก็อยู่ในสูตรปรุงไก่เสียเลย
ไก่ กระเทียม ข่า กระชาย หอม ตะไคร้ พริกเทด ให้สูตรละไปทำกันเอาเอง
กลับมาเรื่องพริกต่อ หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่า คนสยามมันซาดิสต์รูปากเป็นอาจิณหรืออย่างไร พริกเทศเป็นที่นิยมมาก มากถึงขั้น ถ้าบ้านไหนไม่มีไรกิน มีแค่พริกกะเกลือ ก็พอแล้ว
พริกกะเกลือ ของชาวเขา เป็น พริก กะ เกลือ จริงๆ
ไม่ใช่แบบของที่ลุ่มที่เป็นมะพร้าวคั่วตำกับเกลือ ซึ่งอันนั้นเป้นสูตรเก่า เข้าพริกไทย ซึ่งก็ยังเป็น พริกกะเกลือ อยู่ดี
ด้วยความสะดวก ปลูกง่ายลูกดก กลายพันธุ์่ง่าย เก็บง่าย เอาว่าสะดวกเหอะ
เลยกระจายไปทุกหย่อมหญ้า รสชาติทรมานรูปากมันทำให้คนสยามเสพย์ติดรสเผ็ด
อีกทั้ง มันเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา ดังนั้นการกินอาหารรสจัด มันจะขับเหงื่อได้ดี เลยนิยมกันไปใหญ่
คราวนี้เลยเกิดการทำ น้ำพริก หลากหลาย
ก็อย่างว่าหละ คนไปทำนา พกหม้อไหไปหุงข้าวก็ลำบากพอแล้ว เอาว่าตำน้ำพริกปาดใส่ใบตองไว้ จับปลา ควานหาใบไม้ตามที่นั่ง ก็ได้กับข่าวประทังมื้อแล้ว
แถมไอ้รสเผ็ด มันช่วยประหยัดกับข้าวไปอีกพะเรอเกวียน
บังก้องเคยกล่าวไว้ใน https://www.facebook.com/photo.php?fbid=173841962665557&set=a.173841952665558.34433.173838555999231&type=3&theater
ไม่พอ ดีปลี(เครื่องเทศรสคล้ายพริกไทยมีลักษณะคล้ายปมเชือก)ที่นิยมทางใต้ของสยาม
ก็โดน พริกแดงๆ ถีบตกจนต้องเรียกใหม่ว่า"ดีปลีเชือก"
แต่ส่วนทางอีสานเช่นทางลาว ยังเรียก "หมากเผ็ด"แบบเดิมอยู่
ซึ่งความเป็นไปได้ของภาษาจึงอยู่ที่ "อะไรเผ็ดสุดในบ้านกู กูเรียกพริก"ว่างั้นไป
ดังนั้นไอ้ "พริกเทศ" นี่หละ ตัวดีเลย ทำเอาอาหารทั้งภูมิภาคเอเชียใต้กระเทือนไปหมด
พริก เนี่ยมีต้นกำเนิดมาจาก อเมริกาใต้
เก่าสุดที่เจอก็ในหลุมศพของชาวเปรู พอโคลัมบัสไปหาอินเดียแต่ทะลึ่งแล่นเรือไปทางตะวันตก เพื่อหาเครื่องเทศ ได้ประเทศใหม่กลับมา แถมเจอ พริก ข้าวโพด มะเขือเทศ ก็เลยเอาติดกลับมาด้วย แถมปลูกง่าย กลายพันธุ์ดี เลยเอาเหน็บไปทุกที่หละ พอโคลัมบัสกลับมาสเปน ก็เอามาปลูกเล่นคราวนี้ก็เลยนิยมไปทั่วยุโรป เขาไปถึง อังกฤษ แล้วทีนี้โปรตุเกสช่วงล่าอาณานิคมแอบแฝงด้วยการใช้หมอสอนศาสนา(รักษา ครอบงำ ยึดประเทศ -ทรีอินวัน) ซึ่งเรือโปรตุเกสก็เอาพริกไปแจกในอินเดียก่อน แล้วก็ลามไปถึงเอเชียกลาง เข้ายุโรปตอนใน ส่วนจีนที่มีบันทึกไว้นี่เข้ามาสมัยปลายๆราชวงศ์ชิง แต่ในทางคู่ขนาน น่าจะแอบมาทางพรมแดนติดกับอินเดียบ้างแล้ว เพราะทางเสฉวนอาหารก็เผ็ดเอาเรื่องอยู่
จากนั้นก็ไปทางญี่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นพอไปรบเกาหลี ก็เอาไปแพร่ในเกาหลีอีก เห็นมะ พริกนี่ยังกะโรคติดต่อ
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ประเทศทางยุโรป ก็ไม่ได้ชื่นชอบมากนัก ปลูกเอาสวย เอาประดับบ้าน ทำยาบ้าง ไม่เห็นกินจริงจังเท่าไหร่
ส่วนของสยามประเทศ น่ะมีหลักฐานแน่ๆก็สมัย พระเอกาทศรถ แต่โปรตุเกสเข้าไทยมาตั้งแต่สมัยพระรามาธิบดีที่สองแล้ว แต่ก็คงไม่ได้นิยมเท่าไหร่หละ เผลอๆพระนเรศวร อดกินน้ำพริก
แล้วไอ้ที่เข้ามาเป็นหลักฐานครั้งแรกก็อยู่ในสูตรปรุงไก่เสียเลย
ไก่ กระเทียม ข่า กระชาย หอม ตะไคร้ พริกเทด ให้สูตรละไปทำกันเอาเอง
กลับมาเรื่องพริกต่อ หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่า คนสยามมันซาดิสต์รูปากเป็นอาจิณหรืออย่างไร พริกเทศเป็นที่นิยมมาก มากถึงขั้น ถ้าบ้านไหนไม่มีไรกิน มีแค่พริกกะเกลือ ก็พอแล้ว
พริกกะเกลือ ของชาวเขา เป็น พริก กะ เกลือ จริงๆ
ไม่ใช่แบบของที่ลุ่มที่เป็นมะพร้าวคั่วตำกับเกลือ ซึ่งอันนั้นเป้นสูตรเก่า เข้าพริกไทย ซึ่งก็ยังเป็น พริกกะเกลือ อยู่ดี
ด้วยความสะดวก ปลูกง่ายลูกดก กลายพันธุ์่ง่าย เก็บง่าย เอาว่าสะดวกเหอะ
เลยกระจายไปทุกหย่อมหญ้า รสชาติทรมานรูปากมันทำให้คนสยามเสพย์ติดรสเผ็ด
อีกทั้ง มันเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา ดังนั้นการกินอาหารรสจัด มันจะขับเหงื่อได้ดี เลยนิยมกันไปใหญ่
คราวนี้เลยเกิดการทำ น้ำพริก หลากหลาย
ก็อย่างว่าหละ คนไปทำนา พกหม้อไหไปหุงข้าวก็ลำบากพอแล้ว เอาว่าตำน้ำพริกปาดใส่ใบตองไว้ จับปลา ควานหาใบไม้ตามที่นั่ง ก็ได้กับข่าวประทังมื้อแล้ว
แถมไอ้รสเผ็ด มันช่วยประหยัดกับข้าวไปอีกพะเรอเกวียน
บังก้องเคยกล่าวไว้ใน https://www.facebook.com/photo.php?fbid=173841962665557&set=a.173841952665558.34433.173838555999231&type=3&theater
แสดงความคิดเห็น
ทำไมถึงเรียกพริกไทยว่าพริกไทยครับ??