ไม่เจตนา
ควันหลงคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกยังมีประเด็นติดค้างลำกล้องต้องขยายต่อกันอีกวัน
สำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์สอดคล้องกันว่าศาลโลกตัดสินได้อย่างเหมาะสมเป็นกลาง
โดย
ศาลโลกให้กัมพูชาได้พื้นที่ใกล้ตัวปราสาทบางส่วน แต่ไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตัวเอง
กัมพูชาได้เค้กชิ้นเล็ก ไทยไม่ต้องเสียเค้กชิ้นโตทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งได้ทั้งเสียกลั้วเกลี้ยสูสีกัน
สื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินของศาลโลกครั้งแรก (พ.ศ.2505) ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 200,000 อย่างมาก แต่
การตีความของศาลโลกครั้งนี้ ศาลไม่ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ
คำพิพากษาศาลโลก
จึงไม่เอน-เอียงฝ่ายกัมพูชา
มุมมองของสำนักข่าวต่างประเทศ ชี้ว่าการที่ศาลโลกเปิดโอกาสให้ไทย–กัมพูชา เจรจากำหนดเขตพื้นที่กันเองจะคลี่คลายความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาหลายปี และสลายความรู้สึกเกลียดชังของคน 2 ชาติ (ที่เกิดจากการปลุกกระแสชาตินิยม) ไปพร้อมกัน
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า
แม้คดีพิพาทปราสาทพระวิหารก็จบลงด้วยดีแต่ยังมีนักการเมืองบางคน หรือแกนนำม็อบบางกลุ่มพยายามใช้คำตัดสินศาลโลกเป็นเงื่อนไขปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาล
ปลุกกระแสโจมตีรัฐบาลว่าทำให้ ไทยเสียดินแดน
ปลุกกระแสต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ว่าเป็นแผนขายสมบัติชาติให้กัมพูชา??
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า
การใช้ประเด็นนี้ปลุกกระแสคลั่งชาติเพื่อหวังผลทางการเมืองจะไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน
เพราะสังคมไทยได้รับข้อมูลพอเพียงที่จะไม่เป็นเหยื่อการปลุกระดม
ข้อสำคัญ สังคมไทยเบื่อหน่ายการศึกสงคราม ไม่ต้องการให้เกิดการรบราฆ่าฟัน ต้องการให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นปกติ พี่น้องประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย จะได้ติดต่อค้าขายกันอย่างสบายใจ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่
“ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย” หัวหน้าทีมทนายฝ่ายไทยที่อภิปรายเตือนสติ ส.ส. และ ส.ว. ให้หลีกเลี่ยงการตีความคำตัดสินศาลโลกเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศในภาพรวม
เพราะมีนักการเมือง นักวิชาการ สื่อมวลชน (รวมทั้งแม่ลูกจันทร์) ออกมาพูดถึงพื้นที่ที่ไทยต้องเฉือนให้กัมพูชาว่ามีขนาดพื้นที่เท่าใด??
บางคนชี้ว่าไม่เกิน 300 ไร่ บางคนเชื่อว่าประมาณ 600 ไร่ บางคนเชื่อว่าจะเกิน 1,400 ไร่ ไปโน่นเลย
ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนถึงกับเอาแผนที่ไปขีดเส้นแบ่งเขตกันอึกทึกครึกโครม
การวิพากษ์วิจารณ์กันเปรอะโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอาจเกิดผลเสียหายต่อประเทศโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะการนำประเด็นเส้นเขตแดนไปอภิปรายที่ประชุมรัฐสภา
จะเป็นหลักฐานที่กัมพูชานำไปใช้อ้างอิง
ซึ่งจะมีผลผูกพันไปถึงการเจรจาต่อรองในขั้นตอนต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยว่าในขณะที่คนไทยเอาเรื่องพื้นที่มาพูดกันปาวๆ แต่
ฝ่ายกัมพูชาเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย
เพราะรู้ว่า
ถ้าพูดถึงขนาดพื้นที่เมื่อไหร่ ฝ่ายไทยจะเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อประโยชน์ในการต่อรอง
สรุปว่า
จากนี้ไป “แม่ลูกจันทร์” จะไม่ทะลุกลางปล้องออกมาพูดถึงพื้นที่และเส้นเขตแดนจนกว่าจะมีความชัดเจน
ส่วนที่ได้เผลอพูดไปแล้วข้าน้อยขออภัย จะไม่พูดอีกแล้ว รูดซิปปากลูกเดียว.
แม่ลูกจันทร์
ไทยรัฐออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2556,
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/383000
?????????????????????????????????????????????
"....สำนักข่าวต่างประเทศ
วิเคราะห์สอดคล้องกันว่าศาลโลกตัดสินได้อย่างเหมาะสมเป็นกลาง
โดยศาลโลกให้กัมพูชาได้พื้นที่ใกล้ตัวปราสาทบางส่วน แต่ไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตัวเอง
กัมพูชาได้เค้กชิ้นเล็ก ไทยไม่ต้องเสียเค้กชิ้นโตทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งได้ทั้งเสียกลั้วเกลี้ยสูสีกัน...."
"....สื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินของศาลโลก
ครั้งแรก (พ.ศ.2505) ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 200,000 อย่างมาก
แต่การตีความของศาลโลก
ครั้งนี้ ศาลไม่ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ...."
"....แม้คดีพิพาทปราสาทพระวิหารก็จบลงด้วยดี
แต่ยังมีนักการเมืองบางคน หรือแกนนำม็อบบางกลุ่มพยายามใช้คำตัดสินศาลโลกเป็นเงื่อนไขปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาล...."
"....การวิพากษ์วิจารณ์กันเปรอะโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอาจเกิดผลเสียหายต่อประเทศโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะการนำประเด็นเส้นเขตแดนไปอภิปรายที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นหลักฐานที่กัมพูชานำไปใช้อ้างอิง
ซึ่ง
จะมีผลผูกพันไปถึงการเจรจาต่อรองในขั้นตอนต่อไป...."
"...ในขณะที่คนไทยเอาเรื่องพื้นที่มาพูดกันปาวๆ
แต่ฝ่ายกัมพูชาเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย..."
เพลียฮาร์ตเสียจริง....กับพวกสมองใสแต่ไร้สติ
คนไทยบางเหล่าทำไมจึงโง่กว่าเขมรนักหนา
ผมว่าน่าจะเอาไปตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร แล้วขังไว้ในนรกขุมที่ลึกที่สุดชั่วกัปล์ชั่วกัลป์
และ - หรือตัดปากมันทิ้งไปด้วย ไม่ให้มีโอกาสพูดได้อีกเลยถ้าเจือกเกิดมาเป็นมนุษย์ได้อีก.....
กรณีเขาพระวิหาร แม่ลูกจันทร์ตอกหน้านักวิชาเกินและนักการเมืองสิ้นคิดว่าโง่กว่าเขมรอย่างเทียบกันไม่ติด มาดูกันว่าเพราะอะไร
ควันหลงคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกยังมีประเด็นติดค้างลำกล้องต้องขยายต่อกันอีกวัน
สำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์สอดคล้องกันว่าศาลโลกตัดสินได้อย่างเหมาะสมเป็นกลาง
โดยศาลโลกให้กัมพูชาได้พื้นที่ใกล้ตัวปราสาทบางส่วน แต่ไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตัวเอง
กัมพูชาได้เค้กชิ้นเล็ก ไทยไม่ต้องเสียเค้กชิ้นโตทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งได้ทั้งเสียกลั้วเกลี้ยสูสีกัน
สื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินของศาลโลกครั้งแรก (พ.ศ.2505) ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 200,000 อย่างมาก แต่การตีความของศาลโลกครั้งนี้ ศาลไม่ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ
คำพิพากษาศาลโลกจึงไม่เอน-เอียงฝ่ายกัมพูชา
มุมมองของสำนักข่าวต่างประเทศ ชี้ว่าการที่ศาลโลกเปิดโอกาสให้ไทย–กัมพูชา เจรจากำหนดเขตพื้นที่กันเองจะคลี่คลายความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาหลายปี และสลายความรู้สึกเกลียดชังของคน 2 ชาติ (ที่เกิดจากการปลุกกระแสชาตินิยม) ไปพร้อมกัน
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าแม้คดีพิพาทปราสาทพระวิหารก็จบลงด้วยดีแต่ยังมีนักการเมืองบางคน หรือแกนนำม็อบบางกลุ่มพยายามใช้คำตัดสินศาลโลกเป็นเงื่อนไขปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาล
ปลุกกระแสโจมตีรัฐบาลว่าทำให้ ไทยเสียดินแดน
ปลุกกระแสต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ว่าเป็นแผนขายสมบัติชาติให้กัมพูชา??
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการใช้ประเด็นนี้ปลุกกระแสคลั่งชาติเพื่อหวังผลทางการเมืองจะไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน
เพราะสังคมไทยได้รับข้อมูลพอเพียงที่จะไม่เป็นเหยื่อการปลุกระดม
ข้อสำคัญ สังคมไทยเบื่อหน่ายการศึกสงคราม ไม่ต้องการให้เกิดการรบราฆ่าฟัน ต้องการให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นปกติ พี่น้องประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย จะได้ติดต่อค้าขายกันอย่างสบายใจ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ “ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย” หัวหน้าทีมทนายฝ่ายไทยที่อภิปรายเตือนสติ ส.ส. และ ส.ว. ให้หลีกเลี่ยงการตีความคำตัดสินศาลโลกเพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศในภาพรวม
เพราะมีนักการเมือง นักวิชาการ สื่อมวลชน (รวมทั้งแม่ลูกจันทร์) ออกมาพูดถึงพื้นที่ที่ไทยต้องเฉือนให้กัมพูชาว่ามีขนาดพื้นที่เท่าใด??
บางคนชี้ว่าไม่เกิน 300 ไร่ บางคนเชื่อว่าประมาณ 600 ไร่ บางคนเชื่อว่าจะเกิน 1,400 ไร่ ไปโน่นเลย
ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนถึงกับเอาแผนที่ไปขีดเส้นแบ่งเขตกันอึกทึกครึกโครม
การวิพากษ์วิจารณ์กันเปรอะโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอาจเกิดผลเสียหายต่อประเทศโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะการนำประเด็นเส้นเขตแดนไปอภิปรายที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นหลักฐานที่กัมพูชานำไปใช้อ้างอิง
ซึ่งจะมีผลผูกพันไปถึงการเจรจาต่อรองในขั้นตอนต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยว่าในขณะที่คนไทยเอาเรื่องพื้นที่มาพูดกันปาวๆ แต่ฝ่ายกัมพูชาเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย
เพราะรู้ว่าถ้าพูดถึงขนาดพื้นที่เมื่อไหร่ ฝ่ายไทยจะเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อประโยชน์ในการต่อรอง
สรุปว่าจากนี้ไป “แม่ลูกจันทร์” จะไม่ทะลุกลางปล้องออกมาพูดถึงพื้นที่และเส้นเขตแดนจนกว่าจะมีความชัดเจน
ส่วนที่ได้เผลอพูดไปแล้วข้าน้อยขออภัย จะไม่พูดอีกแล้ว รูดซิปปากลูกเดียว.
แม่ลูกจันทร์
ไทยรัฐออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2556,
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/383000
?????????????????????????????????????????????
"....สำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์สอดคล้องกันว่าศาลโลกตัดสินได้อย่างเหมาะสมเป็นกลาง
โดยศาลโลกให้กัมพูชาได้พื้นที่ใกล้ตัวปราสาทบางส่วน แต่ไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตัวเอง
กัมพูชาได้เค้กชิ้นเล็ก ไทยไม่ต้องเสียเค้กชิ้นโตทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งได้ทั้งเสียกลั้วเกลี้ยสูสีกัน...."
"....สื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินของศาลโลกครั้งแรก (พ.ศ.2505) ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 200,000 อย่างมาก
แต่การตีความของศาลโลกครั้งนี้ ศาลไม่ให้น้ำหนักแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ...."
"....แม้คดีพิพาทปราสาทพระวิหารก็จบลงด้วยดีแต่ยังมีนักการเมืองบางคน หรือแกนนำม็อบบางกลุ่มพยายามใช้คำตัดสินศาลโลกเป็นเงื่อนไขปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาล...."
"....การวิพากษ์วิจารณ์กันเปรอะโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอาจเกิดผลเสียหายต่อประเทศโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะการนำประเด็นเส้นเขตแดนไปอภิปรายที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นหลักฐานที่กัมพูชานำไปใช้อ้างอิง
ซึ่งจะมีผลผูกพันไปถึงการเจรจาต่อรองในขั้นตอนต่อไป...."
"...ในขณะที่คนไทยเอาเรื่องพื้นที่มาพูดกันปาวๆ แต่ฝ่ายกัมพูชาเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย..."
เพลียฮาร์ตเสียจริง....กับพวกสมองใสแต่ไร้สติ
คนไทยบางเหล่าทำไมจึงโง่กว่าเขมรนักหนา
ผมว่าน่าจะเอาไปตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร แล้วขังไว้ในนรกขุมที่ลึกที่สุดชั่วกัปล์ชั่วกัลป์
และ - หรือตัดปากมันทิ้งไปด้วย ไม่ให้มีโอกาสพูดได้อีกเลยถ้าเจือกเกิดมาเป็นมนุษย์ได้อีก.....