ยังหนักใจ
เหลืออีก 9 วัน ศาลโลกจะอ่านคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารที่คาราคาซังค้างลำกล้องมา 3 ปี
จันทร์ที่ 11พฤศจิกายน องค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกจะฟันธงว่า พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ยังเป็นพื้นที่ของไทย...
หรือกลายเป็นของกัมพูชา??
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนซ้ำอีกครั้งว่า คดีนี้หวยศาลโลกออกได้ 5 ประตู
1, ไม่รับฟ้องคดี
2, ให้กัมพูชาชนะคดี
3, ให้ไทยชนะคดี
4, ให้คู่กรณีใช้ประโยชน์พื้นที่พิพาทร่วมกัน และ
5, ให้คู่กรณีไปเจรจาตกลงกันเอง
หวยศาลโลกจะออกประตูไหน ยังลุ้นเสียวได้อีก 9 วัน
แต่วันนี้ (2 พ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ จะออกทีวีรายการ “ยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ชี้แจงเบื้องหลังเบื้องหน้า ที่ไปที่มาคดีพิพาทไทย-กัมพูชา ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง
การออกทีวีอุ่นเครื่องครั้งนี้จะมีการเปิดเผย “เอกสารลับ” ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และเป็นเหตุให้กัมพูชายื่นคำร้องให้ศาลโลกขุดคดีเก่าที่ตัดสินไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2505 กลับมาตีความใหม่ให้ชัดเจน
เอกสารลับฉบับนี้เป็นอย่างไร เชิญสาธุชนผู้สนใจล้างหูรอฟัง
“แม่ลูกจันทร์” ยังมองโลกในแง่ดี (เหมือนเดิม) เชื่อว่า คำตัดสินศาลโลกจะไม่ทำให้ความขัดแย้งบานปลาย
คำตัดสินศาลโลกจะไม่สร้างเงื่อนไขให้ไทย-กัมพูชา ต้องเปิดสงครามรบราฆ่าฟันกันระเบิดเถิดเทิง
เนื่องจากแนวทางที่ศาลโลกได้ตัด สินคดีขัดแย้งกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในช่วงที่ผ่านมา
ศาลโลกลงมติ “ไม่รับตีความ” ไปแล้วหลายคดี
ข้อสำคัญ ศาลโลกไม่เคยขุดคดีเก่าที่ตัดสินไปแล้วหลายสิบปี ขึ้นมาตีความใหม่ หรือขยายความเพิ่มเติม
แต่ประเด็นที่ทำให้เส้นกระตุกเล็ก น้อยคือ การที่ศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามคำขอของกัมพูชา
มองได้ว่าศาลโลกให้น้ำหนักฝ่ายกัมพูชามากกว่าฝ่ายไทย??
แต่ถ้ามองอีกมุม คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกมีเจตนาป้องกันความรุนแรง โดยแยกกองกำลังทหาร 2 ฝ่าย เพื่อตัดเงื่อนไขไม่ให้ความขัดแย้งบานปลาย
เท่ากับยืนยันว่าศาลโลกมุ่งยุติความขัดแย้งอย่างสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม เหรียญมี 2 ด้าน “แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้มองโลกสวยร้อยเปอร์เซ็นต์
ยังมองว่ากัมพูชาได้เปรียบไทยครึ่งช่วงตัว
เพราะก่อนที่กัมพูชาจะตัดสินใจยื่นฟ้องไทยต่อศาลโลก ย่อมต้องประเมินล่วงหน้าว่ากัมพูชาได้เปรียบแบเบอร์
ถ้าไม่ได้เปรียบจะยื่นฟ้องศาล โลกให้เมื่อยตุ้มทำไม??
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าหลักฐานสำคัญชิ้นเดียวที่จะทำให้กัมพูชาชนะคดีได้สะง่อมพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม.ไปครอบครอง
คือ แผนที่ภาคผนวก อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งทำไว้ในยุคฝรั่งเศสยังเป็นเจ้าอาณานิคมอินโดจีน
ฝรั่งเศสเจ้าเล่ห์เป็นผู้จัดทำ “แผนที่ระวางดงรัก” ฉบับนี้ฝ่ายเดียว
แล้วก็ตีขลุมว่าเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนเขมร-ไทย
โดยตีเส้นเขตแดนล้ำเข้ามากินพื้นที่ของไทยเต็มเปา
แผนที่เฮงซวยฉบับนี้คือกุญแจสำคัญที่กัมพูชาอ้างเป็นหลักฐานยื่นฟ้องศาลโลก และศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้คดีเมื่อ 51 ปีที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธง ถ้าไทยจะแพ้คดีซ้ำอีกกระทอกก็เพราะแผนที่ฉบับเดียว
แถมรัฐบาลประชาธิปัตย์ พ.ศ.2543 ไปทำเอ็มโอยู ยอมรับแผนที่ “ระวางดงรัก” เป็นแนวทางปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา
เท่ากับประทับตรา “สำเนาถูกต้อง” ซ้ำเข้าไปอีกที
เฮ้อ...พูดแล้วก็ปวดกบาล.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/379934
ยังหนักใจ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
เหลืออีก 9 วัน ศาลโลกจะอ่านคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารที่คาราคาซังค้างลำกล้องมา 3 ปี
จันทร์ที่ 11พฤศจิกายน องค์คณะผู้พิพากษาศาลโลกจะฟันธงว่า พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ยังเป็นพื้นที่ของไทย...
หรือกลายเป็นของกัมพูชา??
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนซ้ำอีกครั้งว่า คดีนี้หวยศาลโลกออกได้ 5 ประตู
1, ไม่รับฟ้องคดี
2, ให้กัมพูชาชนะคดี
3, ให้ไทยชนะคดี
4, ให้คู่กรณีใช้ประโยชน์พื้นที่พิพาทร่วมกัน และ
5, ให้คู่กรณีไปเจรจาตกลงกันเอง
หวยศาลโลกจะออกประตูไหน ยังลุ้นเสียวได้อีก 9 วัน
แต่วันนี้ (2 พ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ จะออกทีวีรายการ “ยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ชี้แจงเบื้องหลังเบื้องหน้า ที่ไปที่มาคดีพิพาทไทย-กัมพูชา ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง
การออกทีวีอุ่นเครื่องครั้งนี้จะมีการเปิดเผย “เอกสารลับ” ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และเป็นเหตุให้กัมพูชายื่นคำร้องให้ศาลโลกขุดคดีเก่าที่ตัดสินไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2505 กลับมาตีความใหม่ให้ชัดเจน
เอกสารลับฉบับนี้เป็นอย่างไร เชิญสาธุชนผู้สนใจล้างหูรอฟัง
“แม่ลูกจันทร์” ยังมองโลกในแง่ดี (เหมือนเดิม) เชื่อว่า คำตัดสินศาลโลกจะไม่ทำให้ความขัดแย้งบานปลาย
คำตัดสินศาลโลกจะไม่สร้างเงื่อนไขให้ไทย-กัมพูชา ต้องเปิดสงครามรบราฆ่าฟันกันระเบิดเถิดเทิง
เนื่องจากแนวทางที่ศาลโลกได้ตัด สินคดีขัดแย้งกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในช่วงที่ผ่านมา
ศาลโลกลงมติ “ไม่รับตีความ” ไปแล้วหลายคดี
ข้อสำคัญ ศาลโลกไม่เคยขุดคดีเก่าที่ตัดสินไปแล้วหลายสิบปี ขึ้นมาตีความใหม่ หรือขยายความเพิ่มเติม
แต่ประเด็นที่ทำให้เส้นกระตุกเล็ก น้อยคือ การที่ศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามคำขอของกัมพูชา
มองได้ว่าศาลโลกให้น้ำหนักฝ่ายกัมพูชามากกว่าฝ่ายไทย??
แต่ถ้ามองอีกมุม คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกมีเจตนาป้องกันความรุนแรง โดยแยกกองกำลังทหาร 2 ฝ่าย เพื่อตัดเงื่อนไขไม่ให้ความขัดแย้งบานปลาย
เท่ากับยืนยันว่าศาลโลกมุ่งยุติความขัดแย้งอย่างสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม เหรียญมี 2 ด้าน “แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้มองโลกสวยร้อยเปอร์เซ็นต์
ยังมองว่ากัมพูชาได้เปรียบไทยครึ่งช่วงตัว
เพราะก่อนที่กัมพูชาจะตัดสินใจยื่นฟ้องไทยต่อศาลโลก ย่อมต้องประเมินล่วงหน้าว่ากัมพูชาได้เปรียบแบเบอร์
ถ้าไม่ได้เปรียบจะยื่นฟ้องศาล โลกให้เมื่อยตุ้มทำไม??
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าหลักฐานสำคัญชิ้นเดียวที่จะทำให้กัมพูชาชนะคดีได้สะง่อมพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม.ไปครอบครอง
คือ แผนที่ภาคผนวก อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งทำไว้ในยุคฝรั่งเศสยังเป็นเจ้าอาณานิคมอินโดจีน
ฝรั่งเศสเจ้าเล่ห์เป็นผู้จัดทำ “แผนที่ระวางดงรัก” ฉบับนี้ฝ่ายเดียว
แล้วก็ตีขลุมว่าเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนเขมร-ไทย
โดยตีเส้นเขตแดนล้ำเข้ามากินพื้นที่ของไทยเต็มเปา
แผนที่เฮงซวยฉบับนี้คือกุญแจสำคัญที่กัมพูชาอ้างเป็นหลักฐานยื่นฟ้องศาลโลก และศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้คดีเมื่อ 51 ปีที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธง ถ้าไทยจะแพ้คดีซ้ำอีกกระทอกก็เพราะแผนที่ฉบับเดียว
แถมรัฐบาลประชาธิปัตย์ พ.ศ.2543 ไปทำเอ็มโอยู ยอมรับแผนที่ “ระวางดงรัก” เป็นแนวทางปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา
เท่ากับประทับตรา “สำเนาถูกต้อง” ซ้ำเข้าไปอีกที
เฮ้อ...พูดแล้วก็ปวดกบาล.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/379934