ต้องแบ่งกัน


จับตาวันนี้ (11 พ.ย.) ศาลโลกจะอ่านทำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาร้องศาลโลกให้ขุดคดีเก่าเมื่อ 50 ปีก่อนมาตีความใหม่อีกที

ถ้าศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้คดี ต้องสูญเสียพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม.ให้กัมพูชา
วิกฤติการเมืองจะพุ่งกระฉูดทะลุจุดทะลักเดือดแน่นอน

ม็อบประชาธิปัตย์ และม็อบแช่แข็งประเทศไทย จะใช้ประเด็นนี้ทิ้งระเบิดปูพรมถล่มรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้บัญชาการม็อบสูงสุด ประกาศเชิญแขกล่วงหน้าว่าเย็นนี้จะตั้งศาลประชาชนตัดสินลงโทษ 2 พี่น้อง “ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ฐานทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดน

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าผลการตัดสินศาลโลกจะเป็นเงื่อนไขยกระดับการชุมนุม จากต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษเหมาเข่ง เป็นขับไล่รัฐบาลเหมาเข่งทันที

แต่ถ้ามองกันอย่างแฟร์ๆ หากศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้คดีจริง...พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีส่วนรับผิดชอบ 50 เปอร์เซ็นต์

“แม่ลูกจันทร์” ไม่ได้กล่าวหาสุ่มสี่สุ่มหก แต่มีเหตุผลยืนยัน 5 ประการ ดังนี้ คือ...

1,ต้นเหตุของความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายกลายเป็นคดีศาลโลกเกิดจากความไม่พอใจกรณี “ฮุนเซน” แต่งตั้ง “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา

ความขัดแย้งระดับบุคคลขยายผลเป็นความขัดแย้งระดับประเทศจนเกิดเหตุบานปลาย

2,เมื่อเกิดปัญหาขัดแย้งเขตแดนแทนที่รัฐบาลไทยจะใช้นโยบายทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับเลือกเล่นของแข็ง ขนปืนใหญ่ ขนรถถัง ยิงถล่มใส่กันวินาศสันตะโร

3,กรณี สส.ปชป. พนิช วิกิตเศรษฐ์ นำคณะคนไทย 7 คน เดินทางไปสำรวจ หลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ที่บ้านหนองจาน อ.โคกกรวด จังหวัดสระแก้ว (29 ธ.ค. 2553) ถูกทหารกัมพูชาจับกุม (ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในเขตประเทศไทย)

แทนที่รัฐบาลไทยจะยืนยันว่าพื้นที่ตรงนั้นอยู่ในเขตแดนของไทย นายกฯอภิสิทธิ์ กลับแถลงออกทีวี ว่าคนไทยล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาโดยไม่เจตนา

ผลคือ “วีระ สมความคิด” ต้องติดคุกเขมรมาแล้ว 3 ปี

4,ทีมทนายฝ่ายไทยที่ต่อสู้คดีนี้ในศาลโลกก็เป็นทีมทนายที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นผู้แต่งตั้งไว้เอง
ถ้าไทยแพ้คดี “อภิสิทธิ์” จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างไร??

5,จุดเสียเปรียบของไทยจุดเดียวคือแผนที่ฝรั่งเศส (1 ต่อ 200,000) ซึ่งเป็นหลักฐานที่ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา
และเป็นหลักฐานสำคัญที่กัมพูชายื่นให้ศาลโลกรื้อฟื้นคดี

รัฐบาลประชาธิปัตย์ เป็นผู้ลงนามเอ็มโอยู (2542) ยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสฉบับนี้เป็นแนวทางเจรจาปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา

ฉะนั้น ถ้าไทยต้องแพ้คดี เพราะแผนที่ (ห่วยแตก) ฉบับนี้ ใครคือ ฝ่ายที่ ควรรับผิดชอบมากกว่ากัน??

“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นมาทั้งหมดไม่ต้องการสาวไส้ให้กากิน

แต่ไม่เห็นด้วยที่ใครจะบิดเบือนข้อ เท็จจริงเพื่อโยนความผิดทั้งหมดให้รัฐบาลปัจจุบัน

อ้อ...พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหารัฐบาลทักษิณ–ยิ่งลักษณ์ว่าสมคบคิดกับ “ฮุนเซน” แบ่งผลประโยชน์แหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย

รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับแอบส่ง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” บินเงียบไปพบ “ฮุนเซน” ขอเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทยเหมือนกัน

ฉะนั้น ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินออกมาอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทุกประตู

เอวังก็มีประการฉะนี้แลแฮ.



แม่ลูกจันทร์
ไทยรัฐออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/381826


                                          ??????????????????????????????????????????????



"...1,ต้นเหตุของความขัดแย้ง....เกิดจากความไม่พอใจกรณี “ฮุนเซน” แต่งตั้ง “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษา

2,เมื่อเกิดปัญหาขัดแย้ง....
รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับเลือกเล่นของแข็ง ขนปืนใหญ่ ขนรถถัง ยิงถล่มใส่กันวินาศสันตะโร

3,กรณี สส.ปชป. พนิช วิกิตเศรษฐ์ นำคณะคนไทย 7 คน เดินทางไปสำรวจ หลักเขตแดนที่ 46 และ 47
.... นายกฯอภิสิทธิ์ กลับแถลงออกทีวี ว่าคนไทยล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาโดยไม่เจตนา
ผลคือ “วีระ สมความคิด” ต้องติดคุกเขมรมาแล้ว 3 ปี

4,ทีมทนายฝ่ายไทยที่ต่อสู้คดีนี้ในศาลโลกก็เป็นทีมทนายที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นผู้แต่งตั้งไว้เอง
ถ้าไทยแพ้คดี “อภิสิทธิ์” จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างไร??

5,จุดเสียเปรียบของไทยจุดเดียวคือแผนที่ฝรั่งเศส (1 ต่อ 200,000)......
รัฐบาลประชาธิปัตย์ เป็นผู้ลงนามเอ็มโอยู (2542) ยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสฉบับนี้....
ฉะนั้น ถ้าไทยต้องแพ้คดี เพราะแผนที่ (ห่วยแตก) ฉบับนี้ ใครคือ ฝ่ายที่ ควรรับผิดชอบมากกว่ากัน??...."



เข้าเนื้อ  เข้าตัวพันหัวพันหางตัวเองเห็นๆตามข้อมูลจากสื่อระดับประเทศ
มาคอยดูซิว่าพวกกินแกลบเหล่านี้จะมีกี่ตัวที่ถูกฆาตกรขี้โกงปั่นหัวหลอกใช้ให้ออกมาเต้นเย้วๆด้วยความไร้สติได้....

โง่กันนักก็ปล่อยให้บ้ากันไปให้พอ  แล้วเรามานั่งมองคนเหล่านี้ด้วยความสมเพชเวทนาด้วยกันดีไหม
เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีผล   เนื่องจากฝ่ายที่เราสนับสนุนยังไงก็ยังเป็นรัฐบาลอยู่วันยันค่ำ....(ฮา....แล้วก็..ฮา...อีก...)....