ทนายเขมรย้ำศาล ปักปันเขตแดนตาม MOU 43 ต้องใช้แผนที่ 1:200,000 (รัฐบาลพรรคไหน เซ็นต์ MOU 43 ครับ)

กระทู้ข่าว
นายฌองมาร์ค ซอร์เรล ทนายความชาวฝรั่งเศส ของกัมพูชา ได้ให้ถ้อยแถลงด้วยวาจากับคณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในรอบที่สองว่า คำโต้แย้งของฝ่ายไทยในการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารรอบนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา ในปี 2505 โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ศาลฯ ได้วินิจฉัยไว้ อีกทั้งในคำโต้แย้งนั้นมีลักษณะปะติดปะต่อ เพื่อให้เกิดความเป็นประโยชน์กับฝ่ายตนเอง และไม่ให้ความเป็นธรรมกับกัมพูชา ในประเด็นเรื่องเขตแดนที่ไทยได้สร้างเส้นเขตแดนที่เห็นว่าสมควร ทั้งที่ตามคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อปี 2505 ระบุว่าที่ตั้งปราสาทพระวิหารเป็นพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา แต่กลับไม่ได้คำนึงในข้อสรุปของเนื้อที่ หรือจุดสิ้นสุดของดินแดนว่าจะมีขอบเขตหรือจุดสิ้นสุดอยู่ตรงบริเวณใด โดยเมื่อปี 2543 ไทยได้ทำข้อตกลงเรื่องเขตแดนในพื้นที่ใกล้เคียงปราสาทพระวิหาร เท่ากับถือเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงในเขตแดน เพราะก่อนติดตั้งเครื่องหมายใดบนพื้นที่ต้องทำตามคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อปี 2505 (ค.ศ.1962)

นายฌองมาร์ค ให้ถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อไปว่า ในเรื่องของแผนที่ต้องพิจารณาว่าเส้นเขตแดนอยู่โดยแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ถือเป็นส่วนประกอบที่ศาลฯ ใช้ตัดสิน โดยในปี 2505 ในคำตัดสินของศาลได้ใช้คำว่า เส้นเขตแดนกว่า 100 คำ สำหรับแนวทางปฏิบัติที่ศาลได้จัดทำขึ้นมา ได้ระบุถึงการยอมรับแผนที่ดังกล่าว โดยไม่สามารถคัดค้าน หรือพูดถึงสถานะของสนธิสัญญา ในกรณีที่กัมพูชาให้ศาลฯ ตีความคำพิพากษา ไม่ได้ขอให้ศาลกำหนดเส้นเขตแดน แต่จะขอให้ตีความอาณาบริเวณของกัมพูชาที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ ตามที่อยู่ในคำตัดสินของศาลโลก ในปี 2505 อยู่ตรงไหน อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เรากำหนดเขตแดนแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่ปรึกษาคู่ความ จะเห็นว่า รั้วลวดหนามตามมติ ครม. ปี 2505 เป็นสิ่งที่ไทยได้ตีความเพียงฝ่ายเดียว และตัดสินใจกำหนดเส้นเขตแดนโดยขาดสามัญสำนึก โดยไม่ปรึกษากัมพูชาเลย เหมือนเป็นการละเมิดกฎ และไทยเองก็กำหนดเส้นเขตแดน และอธิปไตยเหนือดินแดนปราสาทพระวิหาร ที่ดูขัดแย้งคำพิพากษาศาลโลก แน่นอนว่า ศาลโลกคงเพิกเฉยไม่ได้ เพียงรั้วลวดหนามที่นำมากั้นเป็นเส้นเขตแดน ที่นำไปสู่ความขัดแย้งและอาจรุนแรงขั้นภาวะสงคราม รวมทั้งมีผลให้เกิดปัญหาการเจรจาปักปันเขตแดน

จากนั้นนายปีเตอร์ ทอมกา ประธานผู้พิพากษาได้กล่าวปิดท้ายว่า ศาลฯ จะนัดอีกครั้งในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย. โดยเป็นฝ่ายไทยที่จะเข้าชี้แจงด้วยวาจา และปิดการให้ถ้อยแถลงด้วยวาจาของฝ่ายกัมพูชา เมื่อเวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

จาก http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=678004&lang=T&cat=

ปล. รัฐบาลไหน ที่ไปเซ็นต์ MOU 43??????......

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่