"ประยุทธ์" กร้าว! ทหารพร้อมรบหากเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รอดูผลการตัดสินของศาลโลก เชื่อยุติด้วยแนวทางสันติ พูดคุยทวิภาคี ชี้รบกันมันง่าย แต่ชาวบ้านจะเดือดร้อน
...
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษ์แผ่นดิน ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลโลกกรณีเขาพระวิหาร ว่า ก็ชุมนุมกันไป ทุกคนรักชาติ แต่อยากให้รักอย่างถูกต้อง ปัญหาคือเขายังไม่เข้าใจ ตนคงไปห้ามไม่ได้ เพราะจะตำหนิตนว่าไม่รักชาติ ทั้งนี้ มีสิทธิ์จะแสดงความคิดเห็นได้ แต่อย่าให้เกิดความรุนแรง อย่าให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย หรือให้ใครนำไปใช้ประโยชน์ โดยอย่านำไปเป็นคดีการเมือง เขารักชาติโดยบริสุทธิ์ใจไปห้ามไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องแยกเป็น 2 เรื่องคือ กระบวนการของศาลโลก ซึ่งเขามีสิทธิ์ฟ้องต่อศาล เราก็ต้องรอคำตัดสินว่าจะออกมาอย่างไร เพราะเป็นคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับอาณาเขตศาลจะรับพิจารณาหรือไม่เป็นสิทธิ์ของศาล ซึ่งหากรับแล้วจะตัดสินอย่างไร ก็ต้องต่อสู้กันตามกระบวนการ ขณะนี้ทุกคนร่วมกันต่อสู้ จะชนะหรือแพ้ก็ต้องรอฟัง บางอย่างพูดไม่ได้ อีกเรื่องคือ มาตรการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งตนจำเป็นต้องพูด เพราะมีผลกระทบกับทหาร โดยมาตรการดังกล่าวเกิดจากการละเมิดข้อ 5 ของเอ็มโอยู 43 ที่ระบุว่าพื้นที่ใดที่มีปัญหาต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เมื่อฝ่ายใดละเมิดก็ประท้วงกันไป ซึ่งเอ็มโอยูไม่ได้ระบุว่า ต้องยอมรับเส้นเขตแดน
"ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่เราอยากให้พูดคุยกันสองประเทศแบบทวิภาคี มากกว่าที่มาบอกว่าเราไปยอมรับความจริงเราไม่ยอมรับ สำคัญคือจะอยู่ร่วมกันอย่างไรโดยไม่ละเมิดกติกา ขณะนี้เรารอคำพิพากษาของศาลโลก และการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่ออกมาเพราะมีการรบกัน ฉะนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงการรบกันได้ก็ดี ทหารเราพร้อมทุกเรื่องแต่ถ้ารบกันจะบานปลายหรือเปล่า เป็นเรื่องที่เราต้อง ตัดสินใจกัน เพราะเราพร้อมรบทุกอย่างถ้าตัดสินใจว่ารบก็คือรบ แต่ผมว่า มีกติกาอยู่ ต้องรอให้ชัดเจนก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าได้เตรียมพร้อมหรือไม่ หากศาลโลกตัดสินว่าพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พร้อมมาตลอด แต่ตนคาดว่าจะไม่ตัดสินออกมาอย่างนั้น เพราะจะเป็นปัญหา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะตัดสินด้วยอะไร เพราะไทยก็ถือแผนที่ของเราถ้าเขาถือแผนที่ของเขา แล้วเราต้องปฏิบัติตามหรือไม่ ก็ต้องไปว่ากัน รัฐบาลต้องเรียกฝ่ายความมั่นคงมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ขณะนี้ตนอยากให้ทุกคนร่วมกันคิดร่วมกันทำเช่นนั้นอยู่ อย่ามากล่าวหาว่า ตนเลือกข้างอย่างที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด บอกแล้วว่า แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ของตนก็ทำไป
"เขาพระวิหารเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องดูแล เป็นจุดที่สำคัญ และเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ถือเป็นพื้นที่ความขัดแย้ง อย่าเรียกเป็นอย่างอื่น ต่างคนก็ต้องต่อสู้ในหนทางที่สันติ ถ้ารบกันมันง่าย แต่คนที่ได้รับความสูญเสียคือ ประชาชน แล้วจะทำอย่างไรตามแนวชายแดนก็ไม่สงบ ก็ต้องถามเขาว่าจะเอาอย่างไร แต่ท้ายสุดแผ่นดินเป็นส่วนที่เราต้องรักษาไว้ให้ ได้ ต้องเริ่มด้วยกฎหมายก่อนเรื่องกำลังใช้เมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องห่วง เราพร้อมอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
"ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด" คือ ข้อความที่ เขมร ควรรับรู้ไว้..
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษ์แผ่นดิน ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลโลกกรณีเขาพระวิหาร ว่า ก็ชุมนุมกันไป ทุกคนรักชาติ แต่อยากให้รักอย่างถูกต้อง ปัญหาคือเขายังไม่เข้าใจ ตนคงไปห้ามไม่ได้ เพราะจะตำหนิตนว่าไม่รักชาติ ทั้งนี้ มีสิทธิ์จะแสดงความคิดเห็นได้ แต่อย่าให้เกิดความรุนแรง อย่าให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย หรือให้ใครนำไปใช้ประโยชน์ โดยอย่านำไปเป็นคดีการเมือง เขารักชาติโดยบริสุทธิ์ใจไปห้ามไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องแยกเป็น 2 เรื่องคือ กระบวนการของศาลโลก ซึ่งเขามีสิทธิ์ฟ้องต่อศาล เราก็ต้องรอคำตัดสินว่าจะออกมาอย่างไร เพราะเป็นคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับอาณาเขตศาลจะรับพิจารณาหรือไม่เป็นสิทธิ์ของศาล ซึ่งหากรับแล้วจะตัดสินอย่างไร ก็ต้องต่อสู้กันตามกระบวนการ ขณะนี้ทุกคนร่วมกันต่อสู้ จะชนะหรือแพ้ก็ต้องรอฟัง บางอย่างพูดไม่ได้ อีกเรื่องคือ มาตรการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งตนจำเป็นต้องพูด เพราะมีผลกระทบกับทหาร โดยมาตรการดังกล่าวเกิดจากการละเมิดข้อ 5 ของเอ็มโอยู 43 ที่ระบุว่าพื้นที่ใดที่มีปัญหาต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เมื่อฝ่ายใดละเมิดก็ประท้วงกันไป ซึ่งเอ็มโอยูไม่ได้ระบุว่า ต้องยอมรับเส้นเขตแดน
"ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่เราอยากให้พูดคุยกันสองประเทศแบบทวิภาคี มากกว่าที่มาบอกว่าเราไปยอมรับความจริงเราไม่ยอมรับ สำคัญคือจะอยู่ร่วมกันอย่างไรโดยไม่ละเมิดกติกา ขณะนี้เรารอคำพิพากษาของศาลโลก และการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ที่ออกมาเพราะมีการรบกัน ฉะนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงการรบกันได้ก็ดี ทหารเราพร้อมทุกเรื่องแต่ถ้ารบกันจะบานปลายหรือเปล่า เป็นเรื่องที่เราต้อง ตัดสินใจกัน เพราะเราพร้อมรบทุกอย่างถ้าตัดสินใจว่ารบก็คือรบ แต่ผมว่า มีกติกาอยู่ ต้องรอให้ชัดเจนก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าได้เตรียมพร้อมหรือไม่ หากศาลโลกตัดสินว่าพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พร้อมมาตลอด แต่ตนคาดว่าจะไม่ตัดสินออกมาอย่างนั้น เพราะจะเป็นปัญหา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะตัดสินด้วยอะไร เพราะไทยก็ถือแผนที่ของเราถ้าเขาถือแผนที่ของเขา แล้วเราต้องปฏิบัติตามหรือไม่ ก็ต้องไปว่ากัน รัฐบาลต้องเรียกฝ่ายความมั่นคงมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ขณะนี้ตนอยากให้ทุกคนร่วมกันคิดร่วมกันทำเช่นนั้นอยู่ อย่ามากล่าวหาว่า ตนเลือกข้างอย่างที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด บอกแล้วว่า แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ของตนก็ทำไป
"เขาพระวิหารเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องดูแล เป็นจุดที่สำคัญ และเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ถือเป็นพื้นที่ความขัดแย้ง อย่าเรียกเป็นอย่างอื่น ต่างคนก็ต้องต่อสู้ในหนทางที่สันติ ถ้ารบกันมันง่าย แต่คนที่ได้รับความสูญเสียคือ ประชาชน แล้วจะทำอย่างไรตามแนวชายแดนก็ไม่สงบ ก็ต้องถามเขาว่าจะเอาอย่างไร แต่ท้ายสุดแผ่นดินเป็นส่วนที่เราต้องรักษาไว้ให้ ได้ ต้องเริ่มด้วยกฎหมายก่อนเรื่องกำลังใช้เมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องห่วง เราพร้อมอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.