"สุรพงษ์-สุกำพล" ยกคณะบินกรุงเฮก เตรียมขึ้นแจงศาลโลกปมเขาพระวิหาร ลั่นหลักฐานพร้อม มั่นใจชนะคดี
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 12:29:16 น.
วันนี้ (13 เม.ย.) เวลา 10.30 น. .ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.วรวิทย์ ดรุณชู เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมคณะได้เดินทางไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อร่วมฟังถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) กรณีที่กัมพูชายื่นให้ศาลโลกตีความพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้
ทั้งนี้นายสุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า ทีมทนายความของฝ่ายไทยได้เตรียมความพร้อมทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ส่งคณะล่วงหน้าของฝ่ายไทยไปกรุงเฮกด้วยก่อนหน้านี้ นำโดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้ต้องบอกเลยว่าเราพร้อมขึ้นแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกครั้งสุดท้ายและ คิดว่าข้อต่อสู้ทั้งหมดในประเด็นต่างๆ เราได้เตรียมการไว้ครอบคลุมทุกประเด็น สำหรับข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะของแต่ละฝ่ายที่หยิบยกขึ้นมาให้ทีมทนายของ เราได้นำไปสู้ในชั้นศาลนั้นได้เตรียมความพร้อมทั้งหมดทุกประเด็นไว้เรียบร้อย ขึ้นอยู่กับศาลโลกว่าจะหยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมา และเราจะนำประเด็นอะไรไปยืนยันกับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 ให้ศาลโลกได้รับทราบ
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้อยากให้ประชาชนได้ติดตามการถ่ายทอดสดการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง11 คลื่นเอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิร์ต คลื่นเอเอ็ม891 เมกะเฮิร์ต และสถานีวิทยุสราญรมย์ก็จะมีการถ่านทอดอยู่ตลอด หากประชาชนที่ติดตามอยู่แล้วเกิดข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ โดยทีมงานกองสารนิเทศและทีมสนธิสัญญาต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศที่จะคอยชี้แจงปัญหาและข้อสงสัยให้กับประชาชนในเวปไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ทีมฝ่ายไทยที่เดินทางไปกรุงเฮก ทั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญา ทูตไทยประจำกรุงเฮก ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนพล.อ.อ.สุกำพล และตน พร้อมติดตามและนำประเด็นต่างๆมานำเสนอให้กับประชาชนในส่วนที่ไม่ชัดเจนในขณะที่มีการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยช่วงเวลากลางวัน โดยจะนำมาสรุปและชี้แจงอีกครั้งในช่วงเวลากลางคืนของกรุงเฮก ซึ่งตรงกับช่วงเช้าของประเทศไทย
"ผมอยากให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามและใช้สติในการรับฟัง เพราะจะมีนักวิชาการผู้รอบรู้ต่างๆในไทยคอยวิจารณ์อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปขึ้นศาลเพื่อให้ถ้อยแถลงด้วยวาจา ซึ่งยังไม่มีการตัดสินใดๆทั้งสิ้น และในการตัดสินคดีนั้น ผู้พิพากษาจะต้องกลับไปเขียนประเด็นสรุปของผู้พิพากษาของศาลแต่ละคน เช่นเดียวกับกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไทย เพื่อหาข้อคำตัดสินในอีก6 เดือนข้างหน้า ประมาณก.ย.-ต.ค. และศาลก็จะออกนั่งบัลลังก์ตัดสินอีกครั้งหนึ่ง ผมอยากให้คนไทยได้ฟังการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้งประเทศ เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และผู้ที่วิจารณ์จะได้วิจารณ์ไม่ถนัด หากวิจารณ์ผิดพลาดก็จะเป็นผู้เสียหายเอง" นายสุรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีความมั่นใจแค่ไหน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรามั่นใจว่าจะชนะคดี เพราะทีมทนายได้เตรียมข้อมูลไว้ทุกประเด็นเรียบร้อย และเรามั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมของศาลโลกจะให้ความเป็นธรรมกับเรา เพราะศาลโลกเคยตัดสินคดีในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งศาลโลกต้องมองถึงความสงบของคู่กรณีด้วย ตนเชื่อมั่นว่าศาลโลกจะให้ความยุติธรรมในกรณีนี้ด้วย ทั้งนี้ทางด้านนายกฯไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ โดยจะคิดตามการถ่ายทอดที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกฯได้ให้กำลังใจกับทีมทนายและคณะว่าให้พวกเราสู้กันอย่างเต็มที่ ถ้ามีประเด็นใดที่ประชาชนคนไทยสงสัย ทางคณะที่อยู่กรุงเฮกจะต้องตอบขึ้นมาด้วย ทุกคนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ การไปสู้คดีครั้งนี้ทุกคนสู้เพื่อประเทศไทยและคนไทยทุกคน เราจะไปปกป้องประเทศเป็นหลัก บอกกับประชาชนได้เลยว่าเราสู้เต็มที่
ด้านพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีความห่วงใยว่าจะเกิดปัญหาบริเวณเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาระหว่างนี้นั้น ตนบอกเลยว่าไม่มีอะไร อย่าไปมองว่าสถานการณ์ตึงเครียด เพราะมันไม่มีอะไรทั้งนั้น สถานการณ์เป็นปกติเหมือนทุกวัน อย่าไปเพ็งเล็งและอย่าไปคาดว่าอาจจะเกิดอะไรต่างๆนานาขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ดี ตนยืนยันว่าชายแดนเป็นปกติเหมือนทุกวัน และทางประชาชนของทั้งสองประเทศก็ทราบดีว่าช่วงนี้เป็นช่วงการพิจารณาของศาลโลก ก็ไม่ควรที่จะทำอะไรที่เป็นปัญหาชายแดน อย่างไรก็ตามตนก็ไม่ได้มีการสั่งมาตรการดูแลเพิ่มเติม เพราะทุกอย่างเป็นปกติ ส่วนที่มีกลุ่มมวลชนชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านในพื้นที่นั้น ตนคิดว่ากลุ่มมวลชนที่เข้าไปก็เป็นกลุ่มเดิมและมีกลุ่มเดียว สิ่งที่เขาต้องการทางรัฐบาลก็ได้อธิบายไปหมดแล้ว เช่นการไม่รับคำตัดสินของศาลโลก ตนบอกไปเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เราอธิบายหมดแล้วก็ไม่เข้าใจ ซึ่งก็ได้สั่งการให้ทหารเข้าไปดูแล เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น และจัดให้อยู่ในส่วนที่สามารถเข้าไปได้ หากต้องการแสดงออกก็ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ตามตนไม่มีความเป็นห่วงสถานการณ์ชายแดนช่วงนี้ เพราะเหตุการณ์ปกติ และทหารคุยกันรู้เรื่อง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365831073&grpid=&catid=01&subcatid=0100
"สุรพงษ์-สุกำพล" ยกคณะบินกรุงเฮก เตรียมขึ้นแจงศาลโลกปมเขาพระวิหาร ลั่นหลักฐานพร้อม มั่นใจชนะคดี
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 12:29:16 น.
วันนี้ (13 เม.ย.) เวลา 10.30 น. .ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.วรวิทย์ ดรุณชู เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมคณะได้เดินทางไปยังกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อร่วมฟังถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) กรณีที่กัมพูชายื่นให้ศาลโลกตีความพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้
ทั้งนี้นายสุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า ทีมทนายความของฝ่ายไทยได้เตรียมความพร้อมทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ส่งคณะล่วงหน้าของฝ่ายไทยไปกรุงเฮกด้วยก่อนหน้านี้ นำโดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้ต้องบอกเลยว่าเราพร้อมขึ้นแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกครั้งสุดท้ายและ คิดว่าข้อต่อสู้ทั้งหมดในประเด็นต่างๆ เราได้เตรียมการไว้ครอบคลุมทุกประเด็น สำหรับข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะของแต่ละฝ่ายที่หยิบยกขึ้นมาให้ทีมทนายของ เราได้นำไปสู้ในชั้นศาลนั้นได้เตรียมความพร้อมทั้งหมดทุกประเด็นไว้เรียบร้อย ขึ้นอยู่กับศาลโลกว่าจะหยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมา และเราจะนำประเด็นอะไรไปยืนยันกับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 ให้ศาลโลกได้รับทราบ
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้อยากให้ประชาชนได้ติดตามการถ่ายทอดสดการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง11 คลื่นเอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิร์ต คลื่นเอเอ็ม891 เมกะเฮิร์ต และสถานีวิทยุสราญรมย์ก็จะมีการถ่านทอดอยู่ตลอด หากประชาชนที่ติดตามอยู่แล้วเกิดข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ โดยทีมงานกองสารนิเทศและทีมสนธิสัญญาต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศที่จะคอยชี้แจงปัญหาและข้อสงสัยให้กับประชาชนในเวปไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ทีมฝ่ายไทยที่เดินทางไปกรุงเฮก ทั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญา ทูตไทยประจำกรุงเฮก ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนพล.อ.อ.สุกำพล และตน พร้อมติดตามและนำประเด็นต่างๆมานำเสนอให้กับประชาชนในส่วนที่ไม่ชัดเจนในขณะที่มีการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยช่วงเวลากลางวัน โดยจะนำมาสรุปและชี้แจงอีกครั้งในช่วงเวลากลางคืนของกรุงเฮก ซึ่งตรงกับช่วงเช้าของประเทศไทย
"ผมอยากให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามและใช้สติในการรับฟัง เพราะจะมีนักวิชาการผู้รอบรู้ต่างๆในไทยคอยวิจารณ์อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปขึ้นศาลเพื่อให้ถ้อยแถลงด้วยวาจา ซึ่งยังไม่มีการตัดสินใดๆทั้งสิ้น และในการตัดสินคดีนั้น ผู้พิพากษาจะต้องกลับไปเขียนประเด็นสรุปของผู้พิพากษาของศาลแต่ละคน เช่นเดียวกับกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไทย เพื่อหาข้อคำตัดสินในอีก6 เดือนข้างหน้า ประมาณก.ย.-ต.ค. และศาลก็จะออกนั่งบัลลังก์ตัดสินอีกครั้งหนึ่ง ผมอยากให้คนไทยได้ฟังการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้งประเทศ เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และผู้ที่วิจารณ์จะได้วิจารณ์ไม่ถนัด หากวิจารณ์ผิดพลาดก็จะเป็นผู้เสียหายเอง" นายสุรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีความมั่นใจแค่ไหน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรามั่นใจว่าจะชนะคดี เพราะทีมทนายได้เตรียมข้อมูลไว้ทุกประเด็นเรียบร้อย และเรามั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมของศาลโลกจะให้ความเป็นธรรมกับเรา เพราะศาลโลกเคยตัดสินคดีในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่างประเทศ ซึ่งศาลโลกต้องมองถึงความสงบของคู่กรณีด้วย ตนเชื่อมั่นว่าศาลโลกจะให้ความยุติธรรมในกรณีนี้ด้วย ทั้งนี้ทางด้านนายกฯไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ โดยจะคิดตามการถ่ายทอดที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกฯได้ให้กำลังใจกับทีมทนายและคณะว่าให้พวกเราสู้กันอย่างเต็มที่ ถ้ามีประเด็นใดที่ประชาชนคนไทยสงสัย ทางคณะที่อยู่กรุงเฮกจะต้องตอบขึ้นมาด้วย ทุกคนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ การไปสู้คดีครั้งนี้ทุกคนสู้เพื่อประเทศไทยและคนไทยทุกคน เราจะไปปกป้องประเทศเป็นหลัก บอกกับประชาชนได้เลยว่าเราสู้เต็มที่
ด้านพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีความห่วงใยว่าจะเกิดปัญหาบริเวณเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาระหว่างนี้นั้น ตนบอกเลยว่าไม่มีอะไร อย่าไปมองว่าสถานการณ์ตึงเครียด เพราะมันไม่มีอะไรทั้งนั้น สถานการณ์เป็นปกติเหมือนทุกวัน อย่าไปเพ็งเล็งและอย่าไปคาดว่าอาจจะเกิดอะไรต่างๆนานาขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ดี ตนยืนยันว่าชายแดนเป็นปกติเหมือนทุกวัน และทางประชาชนของทั้งสองประเทศก็ทราบดีว่าช่วงนี้เป็นช่วงการพิจารณาของศาลโลก ก็ไม่ควรที่จะทำอะไรที่เป็นปัญหาชายแดน อย่างไรก็ตามตนก็ไม่ได้มีการสั่งมาตรการดูแลเพิ่มเติม เพราะทุกอย่างเป็นปกติ ส่วนที่มีกลุ่มมวลชนชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านในพื้นที่นั้น ตนคิดว่ากลุ่มมวลชนที่เข้าไปก็เป็นกลุ่มเดิมและมีกลุ่มเดียว สิ่งที่เขาต้องการทางรัฐบาลก็ได้อธิบายไปหมดแล้ว เช่นการไม่รับคำตัดสินของศาลโลก ตนบอกไปเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เราอธิบายหมดแล้วก็ไม่เข้าใจ ซึ่งก็ได้สั่งการให้ทหารเข้าไปดูแล เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น และจัดให้อยู่ในส่วนที่สามารถเข้าไปได้ หากต้องการแสดงออกก็ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ตามตนไม่มีความเป็นห่วงสถานการณ์ชายแดนช่วงนี้ เพราะเหตุการณ์ปกติ และทหารคุยกันรู้เรื่อง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365831073&grpid=&catid=01&subcatid=0100