นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีประชาชนบางกลุ่มจะเดินทางไปยังบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ เพื่อปักหลักชุมนุมในช่วงที่มีการแถลงด้วยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก) ระหว่างวันที่ 15 - 19 เม.ย.นี้ ในคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำพิพากษาของศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี พ.ศ.2505 ว่า การชุมนุมดังกล่าวจะไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลโลกในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม แม้การชุมนุมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ควรเป็นไปโดยสันติ และอย่าก่อเรื่องที่สร้างความเข้าใจผิดระหว่างกัน ขณะที่การที่ฝ่ายไทยชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลกครั้งสุดท้ายนี้จะยังไม่มีการตัดสินใดๆ เพราะศาลโลกจะตัดสินเรื่องนี้ในเดือน ก.ย.หรือ ต.ค.นี้ ทั้งนี้ตนคิดว่าประชาชนควรรับฟังการถ่ายทอดสดการแถลงด้วยวาจาของฝ่ายไทยและกัมพูชาว่าแต่ละฝ่ายได้หยิบยกประเด็นใดมาบ้าง โดยตนเชื่อว่าถ้าประชาชนคนไทยได้ฟังการชี้แจงต่อสู้คดีในศาลโลกแล้ว ก็เข้าใจเรื่องต่างๆมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่ไปชุมนุมควรระมัดระวังไม่ยุงยง ไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือทำให้เกิดความวุ่นวายตามแนวชายแดน
เพราะประชาชนในพื้นที่นี้ก็อยู่อาศัยด้วยความสุข ตนจึงไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นมูลเหตุเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว
สุรพงษ์วอนกลุ่มชุมนุมที่ภูมิซรอลอย่าสร้างความวุ่นวาย (ทหารตรึงกำลังไม่ยอมให้กลุ่มคนไทยรักชาติขึ้นเขาพระวิหาร)
อย่างไรก็ตาม แม้การชุมนุมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ควรเป็นไปโดยสันติ และอย่าก่อเรื่องที่สร้างความเข้าใจผิดระหว่างกัน ขณะที่การที่ฝ่ายไทยชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลกครั้งสุดท้ายนี้จะยังไม่มีการตัดสินใดๆ เพราะศาลโลกจะตัดสินเรื่องนี้ในเดือน ก.ย.หรือ ต.ค.นี้ ทั้งนี้ตนคิดว่าประชาชนควรรับฟังการถ่ายทอดสดการแถลงด้วยวาจาของฝ่ายไทยและกัมพูชาว่าแต่ละฝ่ายได้หยิบยกประเด็นใดมาบ้าง โดยตนเชื่อว่าถ้าประชาชนคนไทยได้ฟังการชี้แจงต่อสู้คดีในศาลโลกแล้ว ก็เข้าใจเรื่องต่างๆมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่ไปชุมนุมควรระมัดระวังไม่ยุงยง ไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือทำให้เกิดความวุ่นวายตามแนวชายแดน เพราะประชาชนในพื้นที่นี้ก็อยู่อาศัยด้วยความสุข ตนจึงไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นมูลเหตุเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว