ปชช.สะท้อนผ่านสวนดุสิตโพล เชื่อ "ศาลโลก"ตัดสิน"พระวิหาร" ผลดีทั้ง2ฝ่าย ต้องยอมรับ
วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:45:11 น.
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นหัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรกับการตัดสินของศาลโลก กรณี ปราสาทเขาพระวิหาร" โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,477 คน ระหว่างวันที่ 15-19 ตุลาคม
สำหรับหัวข้อการเตรียมตัวเตรียมใจของคนไทยกรณีที่ศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ร้อยละ 46.23 ระบุว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ควรยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลโลก ร้อยละ 23.58 ระบุ หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ต้องทำใจไว้บ้าง ร้อยละ 16.98 ระบุว่าจะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจและภาวนาให้ประเทศไทยชนะคดีนี้ และร้อยละ 13.21ระบุ จะคอยติดตามรับฟังข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ในเรื่องนี้โดยตลอด
ส่วนคำถามที่ว่า ประชาชนคิดว่าผลการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ร้อยละ 66.50 เชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินคงจะชั่งน้ำหนัก ผลดี-ผลเสียมาก่อนแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทต่อกัน ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 17.74 เชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายไทย เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลและทีมทนายความของไทย ข้อมูล เอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะแผนที่ประกอบการชี้แจงที่ไทยเคยส่งไปน่าจะมีน้ำหนักพอ ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 15.76 เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายกัมพูชา เพราะทางกัมพูชาน่าจะหาทางออกหรือมีแผนรับมือไว้แล้ว และประเทศกัมพูชาเป็นผู้ยื่นขอตีความเอง
ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลกรณีที่ศาลโลกจะนัดฟังคำตัดสินคดีดังกล่าว ร้อยละ 33.90 ระบุ ห่วงความไม่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์หรือการปะทะกันที่รุนแรง ร้อยละ 29.66 กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียพื้นที่ให้กับกัมพูชา ร้อยละ 2.34 กังวลว่าส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน และร้อยละ 16.10 กังวลว่าจะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีกันไปมา ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
ขณะที่ความมั่นใจของประชาชนต่อศาลโลก ร้อยละ 49.51 ระบุ ค่อนข้างมั่นใจ เพราะการตัดสินของศาลโลกจะต้องผ่านการพิจารณา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ร้อยละ 24.76 ระบุ ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะกระแสข่าวจากสื่อต่างๆ และการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้รู้ทั้งหลายทำให้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร ร้อยละ 15.54 ระบุ มั่นใจมาก เพราะเชื่อมั่นในความยุติธรรม การทำหน้าที่ของศาลโลกจะต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง ทั้งนี้ ร้อยละ 10.19 ระบุไม่มั่นใจ เพราะกลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ศาลโลกถูกแทรกแซง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับหลายฝ่าย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382247754&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
เมื่อ "ศาลโลก" ตัดสิน "คดีปราสาทเขาพระวิหาร" ท่านพร้อมจะยอมรับ หรือไม่?
ปชช.สะท้อนผ่านสวนดุสิตโพล เชื่อ "ศาลโลก"ตัดสิน"พระวิหาร" ผลดีทั้ง2ฝ่าย ต้องยอมรับ
วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:45:11 น.
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นหัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรกับการตัดสินของศาลโลก กรณี ปราสาทเขาพระวิหาร" โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,477 คน ระหว่างวันที่ 15-19 ตุลาคม
สำหรับหัวข้อการเตรียมตัวเตรียมใจของคนไทยกรณีที่ศาลโลกจะตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ร้อยละ 46.23 ระบุว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ควรยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลโลก ร้อยละ 23.58 ระบุ หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ต้องทำใจไว้บ้าง ร้อยละ 16.98 ระบุว่าจะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจและภาวนาให้ประเทศไทยชนะคดีนี้ และร้อยละ 13.21ระบุ จะคอยติดตามรับฟังข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ในเรื่องนี้โดยตลอด
ส่วนคำถามที่ว่า ประชาชนคิดว่าผลการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ร้อยละ 66.50 เชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินคงจะชั่งน้ำหนัก ผลดี-ผลเสียมาก่อนแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทต่อกัน ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 17.74 เชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายไทย เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลและทีมทนายความของไทย ข้อมูล เอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะแผนที่ประกอบการชี้แจงที่ไทยเคยส่งไปน่าจะมีน้ำหนักพอ ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 15.76 เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายกัมพูชา เพราะทางกัมพูชาน่าจะหาทางออกหรือมีแผนรับมือไว้แล้ว และประเทศกัมพูชาเป็นผู้ยื่นขอตีความเอง
ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลกรณีที่ศาลโลกจะนัดฟังคำตัดสินคดีดังกล่าว ร้อยละ 33.90 ระบุ ห่วงความไม่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์หรือการปะทะกันที่รุนแรง ร้อยละ 29.66 กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียพื้นที่ให้กับกัมพูชา ร้อยละ 2.34 กังวลว่าส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน และร้อยละ 16.10 กังวลว่าจะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีกันไปมา ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
ขณะที่ความมั่นใจของประชาชนต่อศาลโลก ร้อยละ 49.51 ระบุ ค่อนข้างมั่นใจ เพราะการตัดสินของศาลโลกจะต้องผ่านการพิจารณา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ร้อยละ 24.76 ระบุ ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะกระแสข่าวจากสื่อต่างๆ และการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้รู้ทั้งหลายทำให้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร ร้อยละ 15.54 ระบุ มั่นใจมาก เพราะเชื่อมั่นในความยุติธรรม การทำหน้าที่ของศาลโลกจะต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง ทั้งนี้ ร้อยละ 10.19 ระบุไม่มั่นใจ เพราะกลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ศาลโลกถูกแทรกแซง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับหลายฝ่าย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382247754&grpid=03&catid=01&subcatid=0100