วันนี้ 14 เม.ย.ที่กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีปัญหาความตึงเครียดสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย กัมพูชา ในช่วงพิจารณาคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกว่า ไม่ห่วงจะมีเหตุวุ่นวายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างการแถลงด้วยวาจาคดีปราสาทพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ ในวันที่15-19เม.ย.นี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ดูแลความเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ซึ่งตนได้ประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่พบว่า ประชาชนในพื้นที่ อ.กันทรลักษณ์ไม่ต้องให้เกิดความขัดแย้งขึ้นทั้งประชาชนในพื้นที่จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่ต้องการทำมาค้าขายกันและต้องการให้การตัดสินของโลกเกิดขึ้นโดยเร็ว ส่วนเรื่องของคดีก็ถือเป็นเรื่องการพิจารณาของศาลโลก นายจารุพงศ์ กล่าวว่ทางพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล มีความวิตกกังวลอยู่ด้วยหากผลการตัดสินใจช่วงปลายปีแล้วพบว่าไทยแพ้คดี มั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีการขยายผลเรียกร้องให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องออกมารับผิดชอบซึ่งเป็นเรื่องถนัดของฝ่ายนั้นอยู่แล้ว ตนเห็นว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกันเนื่องจากทีมทนายความเป็นชุดเดียวกับรัฐบาลขณะนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวแม้แต่คนเดียว
"ผมได้เรียกประชุมผู้ว่าฯทุกจังหวัดที่อยู่ติดกับพื้นท่ี่เขาพระวิหาร ซึ่งประชาขนเห็นตรงกันว่าไม่ต้องการเกิดการทะเลาะกัน ประชาชนต้องการค้าขาย คดีความศาลโลกตัดสิน เป็นแนวทางของอารยะชน ถ้าเราเคารพในศาลบ้านเมืองก็จะไม่เกิดความเดือดร้อน ใครก็ตามที่บอกว่าไม่ต้องไปขึ้นศาล และหากประชาขนไทยทั้งประเทศไม่ขึ้นศาลอะไรจะเกิดขึ้นในโลกนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประกาศปิดอุทยานเขาพระวิหารแล้วเราไม่ให้ประชาชนขึ้นไป ซึ่งขอความกรุณาให้ทุกคนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติตามกฎมาย ใครไม่เคารพไม่ได้และมีศาลโลกอยู่ต้องเคารพ เรื่องนี้เกิดเหตุมาเกิน 50 กว่าปีแล้วตัดสินไปแล้ว 25 มิ.ย 05 เขาตัดสินไปแล้ว ตั้งแต่คนไทยครึ่งประเทยังไม่เกิด สาเหตุใหญ่ครั้งนี้ในศาลโลกจะวินิจฉัยในกรณีปัญหาพื้นที่ 4.6 ต.ร.ม.พื้นที่รอบเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ มีความพยายามที่จะพูดคุยกับทางกัมพูชา เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตโนแมนสแลนด์ คือไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่บริหารร่วมกันได้ ระหว่างสองประเทศ ได้มีข้อตกลงให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทำมาหากินร่วมกัน มีการทำเอ็มโอยู รับรอง ขึ้นมา แต่พรรคประชาธิปัตย์ เอาเข้าสภา กล่าวหานายนพดล จนถูกปลดออก กลับกลายมาเป็นปัญหารุนแรงมีการสู้รับกันในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทางกัมพูชาจึงได้ ยื่นเรื่องศาลโลกเพื่อตัดสิน ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัย ให้ยุติรุนแรงไว้ก่อน จนมาถึงการแถลงสองฝ่ายในวันนนี้ ตัดสินอย่างไรก็ให้ประชาชนรู้ที่มาและข้อเท็จจริงว่ามีเรื่องอย่างนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ให้ร้ายป้ายสี รัฐบาลนี้ เราวิตกกังวลอยู่ อาจเกิดเรื่องบานปลายจากเรื่องที่ไม่ควรเกิดก็เกิด ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันกระจายข้อมูลที่เป็นความจริงให้กระจ่างชัดต่อสาธารณะ ถ้าเกิดความเสียหาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรัฐบาลนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวทนายเลยใช้ทีมเดิมทั้งหมด"นายจารุพงศ์ กล่าว
http://www.dailynews.co.th/politics/197313
=============================
จารุพงศ์ แฉ รัฐบาลอภิสิทธิ์ จุดชนวนให้เขมรฟ้องศาลโลก
"ผมได้เรียกประชุมผู้ว่าฯทุกจังหวัดที่อยู่ติดกับพื้นท่ี่เขาพระวิหาร ซึ่งประชาขนเห็นตรงกันว่าไม่ต้องการเกิดการทะเลาะกัน ประชาชนต้องการค้าขาย คดีความศาลโลกตัดสิน เป็นแนวทางของอารยะชน ถ้าเราเคารพในศาลบ้านเมืองก็จะไม่เกิดความเดือดร้อน ใครก็ตามที่บอกว่าไม่ต้องไปขึ้นศาล และหากประชาขนไทยทั้งประเทศไม่ขึ้นศาลอะไรจะเกิดขึ้นในโลกนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประกาศปิดอุทยานเขาพระวิหารแล้วเราไม่ให้ประชาชนขึ้นไป ซึ่งขอความกรุณาให้ทุกคนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติตามกฎมาย ใครไม่เคารพไม่ได้และมีศาลโลกอยู่ต้องเคารพ เรื่องนี้เกิดเหตุมาเกิน 50 กว่าปีแล้วตัดสินไปแล้ว 25 มิ.ย 05 เขาตัดสินไปแล้ว ตั้งแต่คนไทยครึ่งประเทยังไม่เกิด สาเหตุใหญ่ครั้งนี้ในศาลโลกจะวินิจฉัยในกรณีปัญหาพื้นที่ 4.6 ต.ร.ม.พื้นที่รอบเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ มีความพยายามที่จะพูดคุยกับทางกัมพูชา เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตโนแมนสแลนด์ คือไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่บริหารร่วมกันได้ ระหว่างสองประเทศ ได้มีข้อตกลงให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทำมาหากินร่วมกัน มีการทำเอ็มโอยู รับรอง ขึ้นมา แต่พรรคประชาธิปัตย์ เอาเข้าสภา กล่าวหานายนพดล จนถูกปลดออก กลับกลายมาเป็นปัญหารุนแรงมีการสู้รับกันในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทางกัมพูชาจึงได้ ยื่นเรื่องศาลโลกเพื่อตัดสิน ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัย ให้ยุติรุนแรงไว้ก่อน จนมาถึงการแถลงสองฝ่ายในวันนนี้ ตัดสินอย่างไรก็ให้ประชาชนรู้ที่มาและข้อเท็จจริงว่ามีเรื่องอย่างนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ให้ร้ายป้ายสี รัฐบาลนี้ เราวิตกกังวลอยู่ อาจเกิดเรื่องบานปลายจากเรื่องที่ไม่ควรเกิดก็เกิด ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันกระจายข้อมูลที่เป็นความจริงให้กระจ่างชัดต่อสาธารณะ ถ้าเกิดความเสียหาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรัฐบาลนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวทนายเลยใช้ทีมเดิมทั้งหมด"นายจารุพงศ์ กล่าว
http://www.dailynews.co.th/politics/197313
=============================