“มาร์ค”เมินร่วมรับผิดชอบคดีปราสาทพระวิหาร ยันสมัยรัฐบาลปชป.เกาะติดปัญหามาตลอด ซัดรัฐจ้องโยนผิดจนลืมปกป้องอธิปไตยประเทศ ลั่น “นพดล”ต้นตอปัญหา
วันจันทร์ 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 13:12 น.
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชแนลถึงคดีปราสาทพระวิหาร ที่มีการระบุให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องร่วมรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง ว่า แสดงให้เห็นว่าแนวคิดของรัฐบาล หรือคนฝ่ายรัฐบาลไม่ได้คิดจะเอาชนะกัมพูชาในทางคดี คิดแต่เพียงว่า ถ้ามันมีปัญหาขึ้น จะมาโยนความผิดให้กับคนอื่นได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องแปล เรื่องคอขาดบาดตายถึงอธิปไตยของประเทศกลับไม่คิดแต่มาคิดในมุมนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ต้นเหตุของปัญหานี้มาจากการที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม ยอมรับให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว และเมื่อเกิดความขัดแย้ง รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้ส่งทหารขึ้นไปในพื้นที่ พอมาถึงรัฐบาลของตน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปถอนทหาร และเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้น มาจากกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงเข้ามา ทางทหารเราเพียงแต่ตอบโต้ให้เขาหยุด โดยที่เราไม่ได้ไปรุกราน หรือใช้ความรุนแรงกับทางกัมพูชาก่อน สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยู่ร่วมประชุมเพื่อดูแนวทางการต่อสู้ให้รัดกุมมาตลอด ขณะที่รัฐบาลชุดนี้มีแต่บั่นทอนคนที่ทำงาน อย่างไรก็ตามอยากให้คนไทยร่วมติดตามฟังและทำความเข้าใจในคำตัดสินของศาลโลก และตั้งสติว่าจะรับมืออย่างไรเพื่อประโยชน์กับประเทศชาติและส่วนรวมมากที่สุด.
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=194016
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้มีการปลุกปั่นจากพรรคพวกและคนในรัฐบาล(เช่น กรณีส.ส.ปชป.พาวีระ ราตรีไปมีเรื่องในพื้นที่ชายแดน) จนมีปัญหาที่ชายแดน มีการสู้รบกัน จนเขมรมันมีข้ออ้างไปฟ้องศาลโลก ศาลโลกรับคำฟ้อง
ที่นี้การตัดสินต้องใช้เวลา และมาตัดสินที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มาวันนี้อภิสิทธิ์ปัดความรับผิดชอบซะงั้น ทั้งที่รัฐบาลตัวเองก่อเรื่องให้เขมรฟ้องได้ (ถ้าไม่มีเรื่องชายแดนตอนนั้น ใครมันจะฟ้องร้องได้ ถูกมะ)
“มาร์ค”เมินร่วมรับผิดชอบคดีปราสาทพระวิหาร
วันจันทร์ 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 13:12 น.
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชแนลถึงคดีปราสาทพระวิหาร ที่มีการระบุให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องร่วมรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง ว่า แสดงให้เห็นว่าแนวคิดของรัฐบาล หรือคนฝ่ายรัฐบาลไม่ได้คิดจะเอาชนะกัมพูชาในทางคดี คิดแต่เพียงว่า ถ้ามันมีปัญหาขึ้น จะมาโยนความผิดให้กับคนอื่นได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องแปล เรื่องคอขาดบาดตายถึงอธิปไตยของประเทศกลับไม่คิดแต่มาคิดในมุมนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ต้นเหตุของปัญหานี้มาจากการที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม ยอมรับให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว และเมื่อเกิดความขัดแย้ง รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้ส่งทหารขึ้นไปในพื้นที่ พอมาถึงรัฐบาลของตน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปถอนทหาร และเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้น มาจากกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงเข้ามา ทางทหารเราเพียงแต่ตอบโต้ให้เขาหยุด โดยที่เราไม่ได้ไปรุกราน หรือใช้ความรุนแรงกับทางกัมพูชาก่อน สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยู่ร่วมประชุมเพื่อดูแนวทางการต่อสู้ให้รัดกุมมาตลอด ขณะที่รัฐบาลชุดนี้มีแต่บั่นทอนคนที่ทำงาน อย่างไรก็ตามอยากให้คนไทยร่วมติดตามฟังและทำความเข้าใจในคำตัดสินของศาลโลก และตั้งสติว่าจะรับมืออย่างไรเพื่อประโยชน์กับประเทศชาติและส่วนรวมมากที่สุด.
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=194016
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้มีการปลุกปั่นจากพรรคพวกและคนในรัฐบาล(เช่น กรณีส.ส.ปชป.พาวีระ ราตรีไปมีเรื่องในพื้นที่ชายแดน) จนมีปัญหาที่ชายแดน มีการสู้รบกัน จนเขมรมันมีข้ออ้างไปฟ้องศาลโลก ศาลโลกรับคำฟ้อง
ที่นี้การตัดสินต้องใช้เวลา และมาตัดสินที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
มาวันนี้อภิสิทธิ์ปัดความรับผิดชอบซะงั้น ทั้งที่รัฐบาลตัวเองก่อเรื่องให้เขมรฟ้องได้ (ถ้าไม่มีเรื่องชายแดนตอนนั้น ใครมันจะฟ้องร้องได้ ถูกมะ)