คัดค้านกันจนลั่นทุ่งพระสุเมรุไปแล้ว ต่อไปก็เชิญชวนให้ออกความเห็นว่า จากการคัดค้าน พรบ. ฉบับสุดซอย หรือเหมาเข่งนั้น มีนัยบ่งบอกถึงความเห็นของประชาชนฯ ต่อสิ่งอันใดบ้าง
ส่วนตัวเห็นว่า
1) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้เกิดการล้างผิดของนักการเมืองในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตฯ และถึงที่สุดไปแล้ว แม้ว่า..กระบวนการพิจารณาความผิดกับผลที่ได้นั้น..จะขัดต่อหลักนิติธรรม..หรือไม่ ก็ตาม
2) ประชาชนฯ ต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อประชาชน และประเทศชาติ...ไปจนถึงที่สุด แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้น..จะเป็นแค่ผู้มาชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ.....กลับถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนพระราชกำหนดสถานะการณ์ฉุกฉินฯ..ก็ตาม
3) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้นิรโทษต่อผู้สั่งการ ผู้ก่อให้เกิดการชุมนุมฯ ไม่ว่าสีใดก็ตาม พวกเหล่านั้น..สมควรที่จะได้รับการพิจาณาและลงโทษตามโทษาณุโทษที่กระทำแต่ละบุคคลไป เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีและก่อให้เกิดประเพณีเกี่ยวกับการต่อต้านแบบการเมืองข้างถนน
4) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้ผู้ที่สั่งฆ่า หรือผู้ก่อการให้เกิดการฆ่า ที่กระทำผู้ชุมนุมเรียกร้องโดยปราศจากอาวุธ 90 กว่าศพ รวมถึงการกระทำที่มีต่อผู้บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แม้ว่า...ผลการพิจาารณาโทษ..จะดูเลื่อนลอยไร้ความหวัง..ก็ตาม
5) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้นักการเมือง มองว่า การใช้เสียงข้างมากโหวตผ่านกฎหมายแบบลักลอบ (ตอนตี 4) และแบบตีกินรวบรัด เป็นการกระทำที่ถูกต้อง สมควรระลึกไว้ในสมองอันน้อยนิดด้วย
6) ......................................
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทเรียนที่ได้ในครั้งนี้ จะทำให้นักการเมือง(ไม่ว่าฝ่ายใด) ได้ใช้เป็นเครื่องเตือนความจำ และอย่าได้กระทำการอันใดที่เป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชน
บทเรียนที่ได้จาก พรบ. นิรโทษกรรมฯ สุดซอย
ส่วนตัวเห็นว่า
1) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้เกิดการล้างผิดของนักการเมืองในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตฯ และถึงที่สุดไปแล้ว แม้ว่า..กระบวนการพิจารณาความผิดกับผลที่ได้นั้น..จะขัดต่อหลักนิติธรรม..หรือไม่ ก็ตาม
2) ประชาชนฯ ต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อประชาชน และประเทศชาติ...ไปจนถึงที่สุด แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้น..จะเป็นแค่ผู้มาชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ.....กลับถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนพระราชกำหนดสถานะการณ์ฉุกฉินฯ..ก็ตาม
3) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้นิรโทษต่อผู้สั่งการ ผู้ก่อให้เกิดการชุมนุมฯ ไม่ว่าสีใดก็ตาม พวกเหล่านั้น..สมควรที่จะได้รับการพิจาณาและลงโทษตามโทษาณุโทษที่กระทำแต่ละบุคคลไป เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีและก่อให้เกิดประเพณีเกี่ยวกับการต่อต้านแบบการเมืองข้างถนน
4) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้ผู้ที่สั่งฆ่า หรือผู้ก่อการให้เกิดการฆ่า ที่กระทำผู้ชุมนุมเรียกร้องโดยปราศจากอาวุธ 90 กว่าศพ รวมถึงการกระทำที่มีต่อผู้บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แม้ว่า...ผลการพิจาารณาโทษ..จะดูเลื่อนลอยไร้ความหวัง..ก็ตาม
5) ประชาชนฯ ไม่ต้องการให้นักการเมือง มองว่า การใช้เสียงข้างมากโหวตผ่านกฎหมายแบบลักลอบ (ตอนตี 4) และแบบตีกินรวบรัด เป็นการกระทำที่ถูกต้อง สมควรระลึกไว้ในสมองอันน้อยนิดด้วย
6) ......................................
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทเรียนที่ได้ในครั้งนี้ จะทำให้นักการเมือง(ไม่ว่าฝ่ายใด) ได้ใช้เป็นเครื่องเตือนความจำ และอย่าได้กระทำการอันใดที่เป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชน