เอามาให้อ่านกันเล่นๆ (สารภาพว่ายังทำไม่ได้เลย TT)

สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนค่ะ



เป็นที่ทราบกันดีว่าการลดน้ำหนักจะต้องทานผักเเละผลไม้เป็นหลัก เเละหนึ่งในผักที่ประโยชน์รอบด้านทั้งการลดน้ำหนักเเละการดูเเลผิวพรรณคงจะหนีไม่พ้น “มะเขือเทศ”

มะเขือเทศแสนอร่อยที่เรามักพบในจานสลัด ยำ หรือส้มตำ แท้จริงแล้วมีประโยชน์อย่างมากทั้งในด้านความงาม และสุขภาพ หากคิดจะควบคุมน้ำหนัก มะเขือเทศเป็นผักอย่างหนึ่งที่ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่าง ดี เพราะในมะเขือเทศมีสารไลโคทีน ซึ่งเป็นสารสีแดง มีประโยชน์ช่วยป้องกันมะเร็ง หากกินสดจะช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้เสื่อมเร็วจากแสงแดดจ้า นอกจากจะมีสารไลโคทีนแล้ว ยังมีวิตามินเอ บี ซี เค และวิตามินอื่นๆ วิตามินเอนั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะในมะเขือเทศสีดา และมีสารที่ให้สีเหลืองส้ม ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก กรดผลไม้และสารอื่นๆมะเขือเทศสุกจะช่วยย่อยอาหาร และช่วยฟอกเลือด ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ บำรุงตับ

หากจะลดความอ้วนโดยใช้มะเขือเทศ เพื่อให้ได้ผลอย่างดียิ่ง ควรลดคาร์โบไฮเดรต หรือกลุ่มข้าว-แป้ง น้ำตาลลง 1/3 และให้ทดแทนมะเขือเทศเข้าไปแทน และหลังกินควรบ้วนปากหลาย ๆ ครั้งทันที ทิ้งไว้ประมาณ 60 นาทีจึงค่อยแปรงฟัน เพราะในมะเขือเทศมีฤทธิ์เป็นกรด อาจจะไปทำลายสารเคลือบฟันได้

หาก ใช้มะเขือเทศเพื่อบำรุงผิวหน้า เพื่อให้สวยใสผุดผ่อง ไร้ความหยาบกร้าน ให้ใช้มะเขือเทศสุก 3 ผลเล็ก และโยเกิร์ตไม่ผสมผลไม้ 3 ช้อนโต๊ะ ให้นำมะเขือเทศและโยเกิร์ตปั่นผสมกันจนเป็นเนื้อเดียว หลังล้างหน้าสะอาด ให้พอกครีมทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 15 นาที และค่อยล้างออก ควทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อผิวหน้าเนียนใส และ ช่วยลดสิวเสี้ยนลงได้อีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของมะเขือเทศ

มะเขือเทศ 100 กรัม ให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย แคลเซียม 9 มิลลิกรัม เหล็ก 0.48 มิลลิกรัม เส้นใย 1.7 กรัม เบต้า-แคโรทีน 65.30 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.09 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.04 มิลลิกรัม วิตามินซี 32 มิลลิกรัม

Credit:women.sanook.com, adirek.com





สาวๆหนุ่มๆทั้งหลายพึงระวัง การทำอะไรที่สุดโต่งจนเกินความพอดีอาจทำให้การลดลดน้ำหนักของเราทำร้ายร่างกายเราในระยะยาว

ร่างกายของคุณต้องการสารอาหารที่หลากหลายและพลังงานที่ เพียงพอเพื่อที่จะเป็นเชื้อเพลิงกระตุ้นให้คุณทำสิ่งต่างๆ ได้เป็นปกติ น่าเสียดายที่วิธี “ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว” มากมายในทุกวันนี้สนับสนุนให้เราบริโภคสารอาหารเพียงชนิดเดียวมากเกินไป และตัดเอาสารอาหารอื่นๆ ทิ้งไปโดยสิ้นเชิง

การรับประทานอาหารแบบที่เน้นโปรตีนหรือลดคาร์โบไฮเดรตอย่างสุดโต่งคือตัวอย่างที่สำคัญของการลดน้ำหนักแบบนี้

การ บริโภคที่เน้นโปรตีนหลายแบบมักมุ่งเน้นไปที่อาหารที่ได้จากสัตว์ ซึ่งมีโปรตีนและไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง อย่างเช่นเนื้อวัวและไข่ ในขณะที่ลดการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตจนสุดโต่ง อย่างเช่นซีเรียล ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนมชนิดไขมันต่ำ จริงอยู่ที่คุณอาจลดน้ำหนักได้ชั่วคราวจากการปฏิบัติแบบนี้ แต่การบริโภคอาหารที่ไขมันสูงเป็นจำนวนมากติดต่อกันนานๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดได้

ผลสรุปก็คือการ ลดอาหารแบบสุดโต่งเช่นนี้มักทำให้เราลดน้ำหนักลงได้รวดเร็วเพียงชั่วคราว และยังทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายลดลงเช่นกัน นี่เป็นสาเหตุที่นักโภชนาการยุคใหม่สนับสนุนการรับประทานอาหารที่ลากหลาย แต่เลือกชนิดอาหารที่ให้พลังงานน้อย แต่ยังคงช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม อย่างเช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด ผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำได้ไม่ยากแต่ให้ผลยั่งยืนเพื่อให้ได้การลดน้ำหนักในแบบ ที่ดีต่อสุขภาพ

จงใช้เวลากับมันซักหน่อยค่ะ อย่างน้อยผลลัพท์ที่จะเห็นได้ชัดเจนจะอยู่ที่ 3-5 เดือน ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป พยายามคัดอาหารให้เป็นเปอร์เซนที่เหมาะสม ผักผลไม้เป็น 50 เปอร์เซน โปรตีนไขมันไม่อิ่มตัวเช่น เนื้ออกไก่ ปลาทะเล เป็น 30 เปอร์เซน เเละ คาร์โปไฮเดรท จำพวก ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ เป็น 20 เปอร์เซน เเละการลดน้ำหนัก ไม่ควรอดหรือลดปริมาณพลังงานมากจนเกินไป ค่อยๆปรับลงเป็นขั้นบันได เเละออกกำลังกายควบคู่กันไปจะดีกว่าค่ะ
Credit:goodfoodgoodlife.in.th/





สำหรับ ผู้ที่ติดน้ำอัดลมแต่ต้องการควบคุมน้ำหนัก น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลหรือน้ำอัดลมไดเอท เป็นเสมือนเครื่องดื่มจากพระเจ้าที่ช่วยเติมเต็มความกระหายได้ แต่ความเชื่อ ดังกล่าวกำลังถูกสั่นคลอน ด้วยผลการวิจัยใหม่ ที่ทำให้เราต้องระมัดระวังในการรับประทานมาก

ศูนย์วิทยา ศาสตร์การแพทย์เทกซัส ได้ทำการเก็บข้อมูลและทำการวิจัยพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมประเภทไดเอท จากกลุ่มตัวอย่าง 474 คน ในช่วงอายุระหว่าง 65 – 74 ปี เป็นระยะเวลา 10 ปี พบ ว่ากลุ่มตัวอย่าง ที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอท 2 แก้ว (หรือ 2 กระป๋อง) ต่อวันอย่างสม่ำเสมอ น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มน้ำอัดลม

ตัวเลขก็น่าตกใจนะคะ ว่าแต่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

นักวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำตาลเทียมอาจหลอกลิ้นของเราได้ แต่มัน ไม่สามารถหลอก “สมอง” ของเราได้ จากการศึกษาภาพ MRI Scan ของ สมอง พวกเขาพบว่าสมองสามารถแยกแยะความแตกต่างและไม่มีความพอใจต่อรสชาติของน้ำตาล เทียม นั่นหมายความว่าเมื่อสมองยังไม่พึงพอใจต่อน้ำตาลเทียมก็มีแนวโน้มที่สมองจะ สั่งการให้เรากินอาหารอื่นเพิ่มขึ้นอีกเพื่อสนองความต้องการให้สมบูรณ์ ผลที่ตามมาก็คือ นอกเหนือจากมันไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้ว มันยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่นๆ ที่มากับการบริโภคน้ำตาล เช่น โรค หัวใจ โรคหลอดเลือด รวมทั้งโรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญอาหาร ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ระดับคอเลสเตอรอล และไขมันรอบเอวของคุณ

อย่าง ไรก็ดี นักวิจัยระบุว่า การดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทวันละไม่เกิน 2 กระป๋อง ไม่ส่งผลร้ายใดๆ และแน่นอนว่ามันดีกว่าการดื่มน้ำอัดลมธรรมดา และยังไม่พบความเกี่ยวข้องว่าสารทดแทนน้ำตาลเหล่านี้ก่อให้เกิดมะเร็งเหมือน ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้

จริงๆ ก่อนหน้านี้ 6 ปี ก็มีนักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัยในเรื่องนี้ พบว่า มีข้อมูลที่ยืนยันผลการวิจัยคล้ายๆ กันว่า มีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าประหลาดถึงความสัมพันธ์บางประการระหว่างผู้ดื่ม น้ำอัดลมไดเอท กับการเพิ่มของน้ำหนักตัว โดยพบว่าผู้ที่ดื่ม น้ำอัดลมประเภทไดเอทวันละ 1 กระป๋องจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วง 7-8 ปีข้างหน้าราวร้อยละ 65 และมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนร้อยละ 41 โดย ความเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการดื่มน้ำอัดลมไดเอทที่ดื่มในแต่ละ วัน คนที่ดื่มเกิน 2 กระป๋องต่อวันก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ

ขอแนะนำว่าทางที่ดีถ้าเลิกได้เลิกเลยดีกว่า น้ำอัดลมไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์อะไรนอกจากให้ความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง พยายามลด ละ เลิก หรือ ทานให้เป็นโอกาสๆไปจะดีกว่าค่ะ ทานเเต่น้อย ทานเเต่พอดีค่ะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการดื่มน้ำเปล่าเย็นๆอีกเเล้วนะคะ

Credit:blog.eduzones.com






หลังออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง การกินอาหารบางอย่างตามหลังกลับทำร้ายร่างกายที่เพิ่งออกกำลังกายมาวันนี้เราจึงมีเมนูอาหารต้องห้ามหลังออกกำลังกายมาฝากกันค่ะ

1. เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือเอเนอร์จี้บาร์

เอเนอร์จี้บาร์ให้พลังงานมากก็จริง แต่ไม่เหมาะจะกินหลังออกกำลังกาย อาจลองกินโยเกิร์ตจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ดีกว่า

2. ผักเเละผลไม้สด

แปลกใจที่เห็นผักสดเข้ามาอยู่กลุ่มนี้ใช่ไหมคะ นั่นเป็นเพราะวิตามินที่มีมากมายในผักสดไม่ช่วยเรียกพลังกลับมากลังออกกำลัง กายได้ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่างหากค่ะที่ร่างกายกำลังต้องการ

3. ชีส

ชีสเป็นอาหารที่มีไขมันสูงมาก โดยเฉพาะเชดด้าร์ชีส จึงเป็นตัวเลือกอาหารที่ไม่เหมาะหลังเพิ่งออกกำลังกาย เพราะอาหารที่ร่างกายต้องการคือโปรตีน

4. น้ำอัดลม น้ำปั่น และน้ำผลไม้

น้ำอัดลมเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงเสมอ และโดยเฉพาะหลังการออกกำลังกายเพราะมีน้ำตาลสูง ดังนั้น หากกระหายน้ำหลังออกกำลังกายควรดื่มน้ำเปล่าเป็นดีที่สุด

5. ขนมเค็มๆ

หลังการเสียเหงื่อจากการออกกำลัง การกินขนมเค็ม ๆ จะทำให้สมดุลที่ร่างกายกำลังดึงกลับคืนเสียไป จริงอยู่ว่าร่างกายต้องการโซเดียมไปทดแทนที่เสียไปกับเหงื่อ แต่เกลือจากขนมรสเค็มนับว่ามากเกินไป

6. ขนมปัง โดนัท แพนเค้ก และพิซซ่า

สำหรับขนมปังนั้นหากต้องรับประทาน แนะนำให้เลือกที่เป็นโฮลเกรนจะดีกว่าขนมปังขาว ยิ่งโดนัทด้วยแล้วมีไขมันเกินมาอีก จึงนับเป็นอาหารควรงด สำหรับส่วนพิซซ่าเป็นอาหารที่ใช้เกลือมากจึงควรหลีกเลี่ยงหลังการเสียเหงื่อ ไปมาก แต่หากพิซซ่านั้นคุณทำเอง ประกอบด้วยแป้งโฮลเกรน และหน้าพิซซ่าคุณภาพก็รับประทานได้

7. ลูกอม หรือช็อคโกแลต

ด้วยปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไปจึงไม่เหมาะจะรับประทานหลังออกกำลังกายทั้ง คู่ แต่หากเป็นดาร์กชอกโกแลต หรือนมชอกโกแลตล่ะก็ ขอสนับสนุน เพราะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้

8. ไข่เจียว ไข่ทอด

ยามปกติไข่นับเป็นอาหารที่ดี เหมาะกับการเป็นอาหารหลังออกกำลังกาย แต่เมื่อนำมาทอด น้ำมันที่มากเกินไปไม่ดีกับร่างกายหลังออกกำลังกาย จึงแนะนำให้ต้มจะดีกว่า

9. เฟรนช์ฟรายส์

ไม่บอกทุกท่านก็คงทราบดีว่าเป็นอาหารขยะที่มีไขมันไม่ดีจากน้ำมันที่ทอด และไม่มีโปรตีนให้ร่างกายที่เสียพลังงานไปดูดซึม

10. เบคอนและเนื้อที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสด

เบคอนนับเป็นเนื้อตัวร้ายที่มีทั้งไขมันและเกลือสูง ทำให้ย่อยยากขณะที่ร่างกายต้องการโปรตีน และคาร์โบไฮเดรตเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อจึงเป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังออก กำลังกาย

Credit: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสริมสุขภาพ (สสส.)






























Credit:http://www.lovefitt.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่