เข้าเรื่องเลยไม่ท้าวความครับ อาจจะเป็นอีกแนวที่เห็นมา ใกล้เคียงกับอาจารย์ใหญ่ท่านหนึ่ง แต่ขอไม่อ้างนะครับ
ถ้ามีประโยชน์ก็เอาไปเผื่อใช้ ถ้าขัดหลักขัดธรรมก็ทิ้งไปครับ
สติปัฏฐาน 4 ตามที่พุทธองค์ท่านทรงแยกไว้เป็น กาย, เวทนา, จิต, ธรรม ตัวนี้บางที่บอกเกิดไม่เป็นลำดับ
อันนี้ยืนยันว่าจริง แต่เวลาดับเราต้องดับทีละหมวดไม่งั้นยุ่งตาย
อริยะสัจย่อ มี 4 คือ ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค เรียงลำดับคือ
ทุกข์ เห็นสิ่งนั้น(อย่าไปแปลว่าความทุกข์)
สมุทัย เห็นการเกิดสิ่งนั้น
นิโรธ เห็นการดับสิ่งนั้น
มรรค ทำให้ดับสิ่งนั้น
อานาปานสติ คือเอามาคูณกัน คือ
กาย+ทุกข์ : เห็นกาย(เรียกว่า Object จะเข้าใจง่ายกว่า)
กาย+สมุทัย : รู้ความเกิดของกาย(การเกิดหมายถึงการเกิด และเชื่อมต่อกับความยึดถือ)
กาย+นิโรธ : รู้ความดับของกาย(คือการดับการเชื่อมต่อ ไม่ใช่ดับกายให้หายไป)
กาย+มรรค : คำให้กายดับ(ดับการเชื่อมต่อ)
แล้วก็ไล่ลำดับไป เวทนา+ทุกข์, เวทนา+สมุทัย.....ธรรม+มรรค
ทีนี้เวลาเราไปเล่นที่ด่านอะไร เจ้าของด่านนั้นก็พยายามยื้อยุดเรา เช่น
ด่านกาย
เขา(อวิชชา)ก็ยื้อเราด้วยความรู้สึกที่ขึ้นอยู่กับกาย ทั้งความคิด การทำมาหากิน เรื่องชาวบ้านชาวช่อง
ทำให้เตลิดเปิดเปิง ดังจะเห็นได้ว่า 4 ด่านแรกเราจะไม่สงบเพราะความคิดเป็นส่วนแรก
ด่านเวทนา
เขา(อวิชชา)ก็ยึดเราด้วย เวทนา ที่แสบสุดไม่ใช่ทุกขเวทนาแต่เป็นสุขเวทนา ก็คือนิมิต
นิมิตเห็นตามแต่จริตคนไป เป็นการยื่นให้ของเวทนา เพื่อให้เราติด ซึ่งส่วนมากมาตายด่านนี้
แล้วก็ด่านจิตด่านธรรม เราก็ทำแค่ดับความเชื่อมแห่งจิต(หลงว่าจิตมีตัวตน) ดับความเชื่อมแห่งธรรม(หลงว่าธรรมมีตัวตน)
คร่าวๆมีประมาณเท่านี้ แล้วก็แตกรายละเอียดไปตามแต่คนจะอธิบายครับ
คนรู้น้อยขอลองอธิบาย อานาปานสติสูตร VS สติปัฏฐาน
ถ้ามีประโยชน์ก็เอาไปเผื่อใช้ ถ้าขัดหลักขัดธรรมก็ทิ้งไปครับ
สติปัฏฐาน 4 ตามที่พุทธองค์ท่านทรงแยกไว้เป็น กาย, เวทนา, จิต, ธรรม ตัวนี้บางที่บอกเกิดไม่เป็นลำดับ
อันนี้ยืนยันว่าจริง แต่เวลาดับเราต้องดับทีละหมวดไม่งั้นยุ่งตาย
อริยะสัจย่อ มี 4 คือ ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค เรียงลำดับคือ
ทุกข์ เห็นสิ่งนั้น(อย่าไปแปลว่าความทุกข์)
สมุทัย เห็นการเกิดสิ่งนั้น
นิโรธ เห็นการดับสิ่งนั้น
มรรค ทำให้ดับสิ่งนั้น
อานาปานสติ คือเอามาคูณกัน คือ
กาย+ทุกข์ : เห็นกาย(เรียกว่า Object จะเข้าใจง่ายกว่า)
กาย+สมุทัย : รู้ความเกิดของกาย(การเกิดหมายถึงการเกิด และเชื่อมต่อกับความยึดถือ)
กาย+นิโรธ : รู้ความดับของกาย(คือการดับการเชื่อมต่อ ไม่ใช่ดับกายให้หายไป)
กาย+มรรค : คำให้กายดับ(ดับการเชื่อมต่อ)
แล้วก็ไล่ลำดับไป เวทนา+ทุกข์, เวทนา+สมุทัย.....ธรรม+มรรค
ทีนี้เวลาเราไปเล่นที่ด่านอะไร เจ้าของด่านนั้นก็พยายามยื้อยุดเรา เช่น
ด่านกาย
เขา(อวิชชา)ก็ยื้อเราด้วยความรู้สึกที่ขึ้นอยู่กับกาย ทั้งความคิด การทำมาหากิน เรื่องชาวบ้านชาวช่อง
ทำให้เตลิดเปิดเปิง ดังจะเห็นได้ว่า 4 ด่านแรกเราจะไม่สงบเพราะความคิดเป็นส่วนแรก
ด่านเวทนา
เขา(อวิชชา)ก็ยึดเราด้วย เวทนา ที่แสบสุดไม่ใช่ทุกขเวทนาแต่เป็นสุขเวทนา ก็คือนิมิต
นิมิตเห็นตามแต่จริตคนไป เป็นการยื่นให้ของเวทนา เพื่อให้เราติด ซึ่งส่วนมากมาตายด่านนี้
แล้วก็ด่านจิตด่านธรรม เราก็ทำแค่ดับความเชื่อมแห่งจิต(หลงว่าจิตมีตัวตน) ดับความเชื่อมแห่งธรรม(หลงว่าธรรมมีตัวตน)
คร่าวๆมีประมาณเท่านี้ แล้วก็แตกรายละเอียดไปตามแต่คนจะอธิบายครับ