***ค่าสินไหมที่ผมเรียกร้องครั้งนี้ คือค่าเสียโอกาส ค่าเช่ารถ ค่าเสื่อมรถ ค่าทำขวัญ ซึ่งไม่เกี่ยวกับความรับผิดชอบในความเสียหายของตัวรถนะครับ***
จากอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 8.40 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2556 ซึ่ง มีรายละเอียดคร่าวๆ ตามกระทู้นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/31099171
ประกันทางฝั่งผม คือ เมืองไทยประกันภัย ได้พาผมไปลงบันทึกประจำวัน สน.ประชาชื่น และแจ้งมาว่า เคสของผม ถือว่าเป็นเคสที่มีความเสียหายเยอะพอสมควร คาดว่าจะต้องอยู่ที่อู่ซ่อมเป็นเวลานาน และแนะนำให้ผม เรียกร้องค่าสินไหม หรือค่าเสียโอกาสจากการไม่ได้ใช้รถ ผมจึงได้ไปติดต่อสาขาที่รับเรื่องไว้ครั้งนี้ นั่นคือ บมจ. สินมั่นคงสาขา หลักสี่ ภายในบริเวณ Max Value หลักสี่ ซึ่งเอกสารผมได้จัดเตรียม และนำส่งในวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ( ช้าเพราะผมเดินทางไปดูงานที่จีน 13-17 ) โดยทางสาขา แจ้งว่าใช้เวลาในการพิจารณา 7 วันทำการ (ไม่นับเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ซึ่งทางสาขา จะทำการส่งเอกสารไปยัง สำนักงานใหญ่ที่ ศรีนครินทร์ และจะแจ้งผ่านมาที่สาขา
เอกสารที่ผมจัดเตรียมคือ ใบปะหน้า อธิบายว่า ผมเรียกร้องอะไรจากการไม่มีรถยนต์ใช้ในครั้งนี้ อาทิ
1. ค่าเสียโอกาสจากการไม่ไดใช้รถ ซึ่งข้อนี้ จริงๆแล้วผมมองว่าถ้าได้เรื่องรถเช่ามาก็จบ โดยผมแบ่งเป็น
1.1 รถทดแทนระหว่างซ่อม ซึ่งเนื้อหาเปิดโอกาสให้ทาง บมจ. สินมั่นคงเป็นผู้จัดหาและรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือ
1.2 รถเช่าที่หาด้วยตัวผมเอง และสำรองจ่ายไปก่อน และนำบิลมาเบิกกับทางสินมั่นคง โดยตัดรอบทุกสิ้นเดือน ขอสินมั่นคงจ่ายคืน ภายใน วันที่ 5 ของเดือนถัดไป
โดยทั้ง 2 ข้อข้างต้น ผมเรียกร้องเพิ่มเติมไปว่า อยากได้รถที่ใช้ก๊าซ LPG หรือ NGV เพราะอาชีพพนักงานขายของผมใช้รถมาก ประมาณ เดือนนึง 3-4,000 กม. ถ้าหาไม่ได้ ผมจ่ายจริงแค่โลละประมาณ 1.2 บาท แต่ถ้าใช้ รถเบนซิน ผมอาจตต้องจ่ายที่โลละประมาณ 3-3.5 บาท ซึ่งผมไม่ควรเสีย ถ้าไม่มีอุบัติเหตุครั้งนี้
2.ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ ซึ่งผมมองว่า รถประกันคุณ ทำของของผมพัง เสียหาย และยากที่จะทำให้สภาพกลับมาเป็นเช่นเดิม
3. ค่าทำขวัญ อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บ ที่ไหล่ด้านซ้าย และ บริเวณลำคอ ซึ่งเกิดจากการกระแทก รวมถึงความไม่สะดวกในการติดต่อประสานงานต่างๆค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุครั้งนี้
4. หรือรับเป็นเงินก้อนงวดเดียว ซึ่งผมคำนวณจากข้อ 1-3 และประมาณการวันซ่อม รวมถึงสิ่งที่ผมสูญเสียประโยชน์ จากการไม่ได้ใช้รถคันนี้
เอกสารแนบท้าย ราวๆ 20แผ่น
1. สำเนาบัตรประชาชน เจ้าของรถ (น้องชายผม)
2. หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ (น้องชายผม)
3. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (ตัวผม)
4. สำเนาเอกสาร Mileage รถยนต์ เพื่อให้ทราบถึง กิโลเมตร ที่ใช้รถ เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปและความจำเป็นของการใช้รถ
5. สำเนาบันทึกประจำวัน
6. สำเนาหนังสือรับรถจากอู่ซ่อม เพื่อบอกจำนวนวันที่รถอาจจะอยู่ที่อู่ ซึ่งวันรับรถโดยคร่าวคือ 27 ธค. 56
7. สำเนาใบรับรองแพทย์
8. สำเนาทะเบียนรถ
9. ภาพเหตุการณ์ที่ผมและรถคู่กรณี เกิดอุบัติเหตุ
และวันนี้มีการตอบกลับมาแล้วครับ ว่าทาง บมจ. สินมั่นคงประกันภัย จะให้ผมเท่าไหร่ เสียงปลายสายแนะนำมาว่า “ผมจากสินมั่นคงนะครับ ที่พี่เขียนคำร้อง และแนบเอกสารมา ทางฝ่ายสินไหมแจ้งมาว่า พิจารณาให้ 5,000 บาทถ้วน” (ไม่รวมเรื่องความเสียหายจากรถ ที่เค้าเคลียอยู่แล้ว)
แว๊บแรก ผมคิดว่าผมหูฝาดครับ 5000 บาทถ้วนเนี่ยนะ ผมถามย้ำอีกที เค้าก็แจ้งมาตามนั้น พี่ต้องดำเนินการต่อเอาเอง ผมหมดหน้าที่แต่เพียงเท่านี้
ยอมรับครับ ว่าเหมือนโดนตอกหน้า ด้วยเงิน 5,000 บาท ผมโมโหสุดๆ ครับ แล้วย้อนกลับไปถามว่า เอาอะไรมาคิด ผมบอกเค้าว่าให้คนพิจารณาสินไหม ติดต่อกลับมาด้วย ถ้าคุณ (หมายถึงผู้ส่งเรื่องที่สาขา)ไม่สามารถตัดสินใจได้ เนื่องจากการโต้ตอบตรงนี้ ยาวนานมาก โดยสรุปแล้ว ผมต้องดำเนินการด้วย ตัวเองในการเรียกร้องสินไหมเพิ่มเติม
คิดง่ายๆนะครับ รถผมอาจจะต้องอยู่อู่ 3 เดือน ค่าเช่ารถอย่างเดียว 5,000 บาท พอหรือ คิดแค่นี้ ก็ไม่ต้องคิดถึงสินไหมข้ออื่นกันแล้ว
เหตุการณ์นี้ ผมเชื่อว่า จะทำให้ผม เดือดน้อยกว่านี้ ........ ถ้า ตัวเลขที่ขอไปไม่ได้รับการตอบสนอง แต่มีสามัญสำนึกมากกว่านี้ ในการคิดสินไหมหรือค่าเสียโอกาสทดแทน ที่พอจะ ให้ “ ต่อรองเพื่อประณีประนอม ” มากกว่า “ตัดบทแล้วไปฟ้องร้องกันเอาเอง”
การดำเนินการขั้นต่อไป คงจะต่อไปที่ คปภ. ตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ประกันฝ่ายผม ซึ่งเคสนี้ บอกได้เลยว่า ผมไม่ยอมง่ายๆ แน่ๆ
เคยคิดว่า ถ้าจบ 5,000 คงจะเอาเงินจำนวนนี้ในช่วงรออะไหล่ แล้วไปจ้างรถยก จอดรถผมไว้บนนั้น แล้วไปตั้งไว้ที่หน้า สนง. ของสินมั่นคง ทั้งที่สาขา และสำนักงานใหญ่ บอกว่าผมได้รับเงินชดเชยเพียงเท่านี้ กับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมาะสมแล้วหรือ ? เก็บภาพ และ ประกาศออกไป ให้สังคมได้ตัดสิน การชดเชยแก่ผู้เสียหายในครั้งนี้
ใครมีข้อแนะนำอะไร ผมรบกวนด้วยครับ คราวนี้ผมว่าผมไม่ยอมแน่ๆครับ วานท่านผู้รู้ อนุเคราะห์ และชี้ช่องให้ผมเดินต่อทีครับ
ขอบคุณครับ
Edited เพิ่มเนื้อหาที่ *** เหนือกระทู้
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น บมจ. สินมั่นคงประกันภัย ให้ค่าเสียโอกาสจากการไม่ได้ใช้รถและค่าเสียหายอื่นๆ 5,000 บาท
จากอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 8.40 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2556 ซึ่ง มีรายละเอียดคร่าวๆ ตามกระทู้นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/31099171
ประกันทางฝั่งผม คือ เมืองไทยประกันภัย ได้พาผมไปลงบันทึกประจำวัน สน.ประชาชื่น และแจ้งมาว่า เคสของผม ถือว่าเป็นเคสที่มีความเสียหายเยอะพอสมควร คาดว่าจะต้องอยู่ที่อู่ซ่อมเป็นเวลานาน และแนะนำให้ผม เรียกร้องค่าสินไหม หรือค่าเสียโอกาสจากการไม่ได้ใช้รถ ผมจึงได้ไปติดต่อสาขาที่รับเรื่องไว้ครั้งนี้ นั่นคือ บมจ. สินมั่นคงสาขา หลักสี่ ภายในบริเวณ Max Value หลักสี่ ซึ่งเอกสารผมได้จัดเตรียม และนำส่งในวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ( ช้าเพราะผมเดินทางไปดูงานที่จีน 13-17 ) โดยทางสาขา แจ้งว่าใช้เวลาในการพิจารณา 7 วันทำการ (ไม่นับเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ซึ่งทางสาขา จะทำการส่งเอกสารไปยัง สำนักงานใหญ่ที่ ศรีนครินทร์ และจะแจ้งผ่านมาที่สาขา
เอกสารที่ผมจัดเตรียมคือ ใบปะหน้า อธิบายว่า ผมเรียกร้องอะไรจากการไม่มีรถยนต์ใช้ในครั้งนี้ อาทิ
1. ค่าเสียโอกาสจากการไม่ไดใช้รถ ซึ่งข้อนี้ จริงๆแล้วผมมองว่าถ้าได้เรื่องรถเช่ามาก็จบ โดยผมแบ่งเป็น
1.1 รถทดแทนระหว่างซ่อม ซึ่งเนื้อหาเปิดโอกาสให้ทาง บมจ. สินมั่นคงเป็นผู้จัดหาและรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือ
1.2 รถเช่าที่หาด้วยตัวผมเอง และสำรองจ่ายไปก่อน และนำบิลมาเบิกกับทางสินมั่นคง โดยตัดรอบทุกสิ้นเดือน ขอสินมั่นคงจ่ายคืน ภายใน วันที่ 5 ของเดือนถัดไป
โดยทั้ง 2 ข้อข้างต้น ผมเรียกร้องเพิ่มเติมไปว่า อยากได้รถที่ใช้ก๊าซ LPG หรือ NGV เพราะอาชีพพนักงานขายของผมใช้รถมาก ประมาณ เดือนนึง 3-4,000 กม. ถ้าหาไม่ได้ ผมจ่ายจริงแค่โลละประมาณ 1.2 บาท แต่ถ้าใช้ รถเบนซิน ผมอาจตต้องจ่ายที่โลละประมาณ 3-3.5 บาท ซึ่งผมไม่ควรเสีย ถ้าไม่มีอุบัติเหตุครั้งนี้
2.ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ ซึ่งผมมองว่า รถประกันคุณ ทำของของผมพัง เสียหาย และยากที่จะทำให้สภาพกลับมาเป็นเช่นเดิม
3. ค่าทำขวัญ อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บ ที่ไหล่ด้านซ้าย และ บริเวณลำคอ ซึ่งเกิดจากการกระแทก รวมถึงความไม่สะดวกในการติดต่อประสานงานต่างๆค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุครั้งนี้
4. หรือรับเป็นเงินก้อนงวดเดียว ซึ่งผมคำนวณจากข้อ 1-3 และประมาณการวันซ่อม รวมถึงสิ่งที่ผมสูญเสียประโยชน์ จากการไม่ได้ใช้รถคันนี้
เอกสารแนบท้าย ราวๆ 20แผ่น
1. สำเนาบัตรประชาชน เจ้าของรถ (น้องชายผม)
2. หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ (น้องชายผม)
3. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (ตัวผม)
4. สำเนาเอกสาร Mileage รถยนต์ เพื่อให้ทราบถึง กิโลเมตร ที่ใช้รถ เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปและความจำเป็นของการใช้รถ
5. สำเนาบันทึกประจำวัน
6. สำเนาหนังสือรับรถจากอู่ซ่อม เพื่อบอกจำนวนวันที่รถอาจจะอยู่ที่อู่ ซึ่งวันรับรถโดยคร่าวคือ 27 ธค. 56
7. สำเนาใบรับรองแพทย์
8. สำเนาทะเบียนรถ
9. ภาพเหตุการณ์ที่ผมและรถคู่กรณี เกิดอุบัติเหตุ
และวันนี้มีการตอบกลับมาแล้วครับ ว่าทาง บมจ. สินมั่นคงประกันภัย จะให้ผมเท่าไหร่ เสียงปลายสายแนะนำมาว่า “ผมจากสินมั่นคงนะครับ ที่พี่เขียนคำร้อง และแนบเอกสารมา ทางฝ่ายสินไหมแจ้งมาว่า พิจารณาให้ 5,000 บาทถ้วน” (ไม่รวมเรื่องความเสียหายจากรถ ที่เค้าเคลียอยู่แล้ว)
แว๊บแรก ผมคิดว่าผมหูฝาดครับ 5000 บาทถ้วนเนี่ยนะ ผมถามย้ำอีกที เค้าก็แจ้งมาตามนั้น พี่ต้องดำเนินการต่อเอาเอง ผมหมดหน้าที่แต่เพียงเท่านี้
ยอมรับครับ ว่าเหมือนโดนตอกหน้า ด้วยเงิน 5,000 บาท ผมโมโหสุดๆ ครับ แล้วย้อนกลับไปถามว่า เอาอะไรมาคิด ผมบอกเค้าว่าให้คนพิจารณาสินไหม ติดต่อกลับมาด้วย ถ้าคุณ (หมายถึงผู้ส่งเรื่องที่สาขา)ไม่สามารถตัดสินใจได้ เนื่องจากการโต้ตอบตรงนี้ ยาวนานมาก โดยสรุปแล้ว ผมต้องดำเนินการด้วย ตัวเองในการเรียกร้องสินไหมเพิ่มเติม
คิดง่ายๆนะครับ รถผมอาจจะต้องอยู่อู่ 3 เดือน ค่าเช่ารถอย่างเดียว 5,000 บาท พอหรือ คิดแค่นี้ ก็ไม่ต้องคิดถึงสินไหมข้ออื่นกันแล้ว
เหตุการณ์นี้ ผมเชื่อว่า จะทำให้ผม เดือดน้อยกว่านี้ ........ ถ้า ตัวเลขที่ขอไปไม่ได้รับการตอบสนอง แต่มีสามัญสำนึกมากกว่านี้ ในการคิดสินไหมหรือค่าเสียโอกาสทดแทน ที่พอจะ ให้ “ ต่อรองเพื่อประณีประนอม ” มากกว่า “ตัดบทแล้วไปฟ้องร้องกันเอาเอง”
การดำเนินการขั้นต่อไป คงจะต่อไปที่ คปภ. ตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ประกันฝ่ายผม ซึ่งเคสนี้ บอกได้เลยว่า ผมไม่ยอมง่ายๆ แน่ๆ
เคยคิดว่า ถ้าจบ 5,000 คงจะเอาเงินจำนวนนี้ในช่วงรออะไหล่ แล้วไปจ้างรถยก จอดรถผมไว้บนนั้น แล้วไปตั้งไว้ที่หน้า สนง. ของสินมั่นคง ทั้งที่สาขา และสำนักงานใหญ่ บอกว่าผมได้รับเงินชดเชยเพียงเท่านี้ กับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมาะสมแล้วหรือ ? เก็บภาพ และ ประกาศออกไป ให้สังคมได้ตัดสิน การชดเชยแก่ผู้เสียหายในครั้งนี้
ใครมีข้อแนะนำอะไร ผมรบกวนด้วยครับ คราวนี้ผมว่าผมไม่ยอมแน่ๆครับ วานท่านผู้รู้ อนุเคราะห์ และชี้ช่องให้ผมเดินต่อทีครับ
ขอบคุณครับ
Edited เพิ่มเนื้อหาที่ *** เหนือกระทู้