[Spoil Light Novel] Heavy Object ยุทธการอาวุธมหาปะลัย

กระทู้สนทนา
ระหว่างต่อคิวยาวเป็นกิโลฯ ของบู๊ทเซนชู ก็ไปสะดุดตากับปกของเรื่องนี้เข้า และมือก็เอื้อมไปหยิบมาก่อนที่สมองจะได้คิด
เพราะลายเส้นดันเหมือนกับเกมซีรีย์หนึ่งที่ผมชอบ .. Ar tonelico ซึ่งก็ใช่จริง ๆ ด้วย คนเดียวกัน
ผมชอบลายเส้นของอาจารย์ Nagi ตรงที่วาดได้สะอาด ไม่รุงรัง ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผม ดูเรียบง่าย แต่ก็สวยงามน่ารัก

เข้าเรื่อง
**ทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ**

[Size doesn't matter]
...Really?


Object คืออะไร?

คืออาวุธสงครามขนาดยักษ์ที่เฉพาะตัวเครื่องอย่างเดียวก็ 50 เมตรแล้ว เมื่อรวมแขนขาและอาวุธเข้าไปด้วยก็ไม่ต่ำกว่า 100 เมตร
ความแข็งแรงทนทานนั้นไม่ต้องพูดถึง นิวเคลียร์สองสามลูกอัดใส่ยังไม่สะเทือน
ออบเจ็ค จึงกลายเป็น "ตัวแทน" ของสงครามในเรื่องนี้

ลองมีอาวุธใหญ่ขนาดนี้ แถมเคลื่อนที่ได้เร็ว 200 - 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกราะที่แข็งแกร่งขนาดนั้น แถมอาวุธเลเซอร์ที่ทำให้การบินแม้จะเร็วหลายมัคไร้ค่า เพราะหนีความเร็วเลเซอร์ไม่พ้น โดนล็อคปุ๊บ ก็ร่วงทันที
รถถัง เครื่องบินรบ และทหารเดินเท้า ก็กลายเป็นแค่ไม้ประดับที่วัน ๆ ก็เอาแต่อยู่โยงเฝ้าฐาน

หน้าที่ต่อสู้ เป็นของออบเจ็ค และนักบินที่เรียกว่า "เอลีท"

แต่สองคู่หูคู่ฮา (มันฮาจริง ๆ นะ) ของเรื่อง เควนเซอร์ กับเฮเวีย ได้ทำให้กฎของสงครามที่ตัดสินด้วยออบเจ็คยักษ์เปลี่ยนไป
ยังไง? ไปอ่านเอง (5555)

สำหรับเรื่องนี้เป็นนิยายไซไฟ กึ่งทหาร และที่สำคัญคือ "จริงจัง" ไม่ได้ตลกโปกฮาหรือฮาเร็มชวนเอียน รบจริง ยิงจริง ตายจริง
...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซีเรียสทั้งหมดหรอกนะ แต่ มุขที่สอดแทรกมานั้น คล้องจองกับการเดินของเรื่องจนแนบเนียนเป็นธรรมชาติมาก ๆ
โดยเฉพาะตอน "ยะฮู้ ไม่ได้เจอกันซะนานนะ" เล่นเอาผมหลุดก๊ากออกมาเลย (ไปอ่านดูเอง)

ชอบครับ ชอบมากอันดับตัน ๆ ของ LN ที่เก็บมาใหม่เลย

เฮเวียกับเควนเซอร์ เป็นสองคู่หูคู่ฮาที่เหมือนจะต่างกัน แต่กลับเข้ากันได้ดีผิดคาด ไม่มีใครถ่วงใคร แต่หนุนจุดเด่นของกันและกัน
รวมถึงบทสนทนาที่แม้จะยาว แต่ก็ไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ เป็นธรรมชาติ
ผู้หญิงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เปลืองเนื้อเปลืองตัว "องค์หญิง" ก็ออกอาการหึงเล็ก ๆ แบบพองาม น่ารักมาก
ผบ.สาว "โฟรเรเทีย" ก็มาดคูล และก็ยียวนได้ดี แต่กระนั้นก็มีความจริงจังต่อหน้าที่ในฐานะทหารและผบ. (นึกถึงจิฟุยุใน IS วางมาดคูลดีมาก)

และที่จะลืมไม่ได้
ขอชื่นชม "คนแปล" เรื่องนี้จริง ๆ
แปลได้ดีมาก ๆ อ่านไม่มีสะดุด เลือกคำได้เข้ากับสถานการณ์ อารมณ์ ได้ถูกจังหวะดีมาก เวลาคุยเป็นการเป็นงาน ๆ ก็ดี เวลาสติแตกเพราะต้องฟัดกับออบเจ็คก็ใส่อารมณ์ได้ดี

แต่เรื่องมันมีอะไรมากกว่าคนตัวเล็ก ๆ อาจอาจสู้กับออบเจ็คใหญ่เท่าเยเกอร์

แม้จะไม่เยอะ
แต่ผมก็เห็นแนวคิดที่ผู้เขียนแทรกเข้ามา

แนวคิดของผู้ที่เกิดและเติบโตอยู่ในเขตปลอดภัย โลกสวยและพร่ำเพ้อแต่สันติภาพโดยไม่ดูภาพรวม
กับพวกตัวเอกที่ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงอยู่แนวหน้า พลาดนิดเดียวก็โดนเหยียบแบน ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า
ข้อตกลงเมื่อเกิดการยอมแพ้ หรือสนธิสัญญาเกี่ยวกับเชลยสงคราม ... ของพวกนั้นไร้ค่าสิ้นดีในสนามรบ
แล้วก็ความเป็นไปทางด้านการเมืองที่ต้องเกี่ยวเนื่องกับการทหารอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผมไม่รู้ว่าช่วงกลาง ๆ หรือหลัง ๆ จะเป็นยังไง แต่ดูจะมีปมให้ชวนปวดตับได้อยู่ ถ้าคนเขียนคิดจะทำ

ใครที่เบื่อหน่ายกับแนวเลิฟ ๆ ฮาเร็ม ล่ะก็ เรื่องนี้ ผมแนะนำเลย
ปล. เรื่องนี้ผมสมัครกองอวย โฟรเรเทีย จุ๊บๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ใครอ่านแล้วจะเพิ่มเติมก็ตามสะดวกครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่