13 ตุลาคม 2556
วันนี้ไปเดินซื้อของ ที่ uniqlo ที่ เดอะมอลล์บางกะปิ
ประมาณว่าเออวันอาทิตที่สดใส
สามีพาไปช้อป ดิฉันก็เออดีมีเจ้ามือพามาช้อป ก็เลือกซื้อของไป ลัลล้า
ก็ไม่ได้สังเกตเหนว่า ยามเดินตาม เดินมอง
แต่ออมสังเกตเห็น (กรณียามเดินตามเป็นอะไรที่ปรกติของทุกร้าน ก็ไม่ได้สนใจอะไร ทุกคนคงเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน)
และแล้วก็เจอกางเกงใส่นอนเคยเปิดดูในเว็บแล้วสนใจก็เลยไปลอง ตอนเอาไปลองก็แค่กางเกงตัวเดียว
พนักงานห้องลองก็เป็นประมาณเกย์ก็เห็นอยู่ว่าเอาไปลองตัวเดียวก็เอาป้ายลองสินค้าให้เรา
หลังจากนั้นพอเลือกเสร็จก็ไปจ่ายตัง สินค้าที่ซื้อวันนี้คือ
กางเกงขาสั้นใส่นอน 2 ตัว
เสื้อใน Wirless bra Light 1 ตัว
เสื้อยืด Color T shirt อีก 1 1 ตัว
สามีได้ยินพนักงานหน้าเค้าเตอร์ก็วอคุยกับพนักงาน และยามที่ร้านอะไรกันซักอย่างไม่ได้สนใจ แต่ดิฉันแค่สังเกตุว่า อะไรวะ คิดเงินนานจัง
จากนั้น พนักงานก็ถามว่า "เสื้อของ uniqlo รึป่าวคะ" เราก็ตอบไปอย่างภูมิใจ "ใช่ค่ะ" (คิดว่าเออเก๋นะ พนักงานจำเสื้อได้ด้วย โลกสวยว่ะ)
เดินออกจากร้าน เครื่องตรวจบาร์โค้ดก็ดังจ้า
ยามที่เดิมตามมาอยู่แล้วตั้งนานก็ตรงมาขอดูของในถุง
แล้วก็ถามซ้ำอีกว่า เสื้อที่เราใส่วันนี้ของ uniqlo รึป่าว? เราก็ตอบใช่ ซื้อนานแล้ว สงสัยอะไรหรอคะ?
พี่ยามรื้อถุงไม่เจออะไรก็ปล่อยไปแล้วก็บอกว่า สงสัยคงผิดพลาดที่การคีย์บาร์โค้ด อืมมมม นะ ก็เป็นได้ เจอบ่อยเหมือนกันแบบนี้
ก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินออกมา
พอออกจากร้าน สามีดิฉันก็บอก
"แกรู้รึป่าว พนักงานสามสี่คนมันวอคุยกันเหมือนเราไปขโมยของ ตอนที่แกเดินไปลอง ฉันได้ยินพนักงานวอคุยกันอ่ะ" ส่วนรายละเอียดจำไม่ได้ละว่าสามีบอกว่าอะไรบ้าง
ออกมาจากร้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แล้วลองนึกๆ ดู เอ๊ะ พนักงานหน้าเค้าเตอร์จะมาถามทำไมว่าเสื้อที่เราใส่วันนี้มันของ uniqlo รึป่าว? เอ๊ะหรือว่าเค้าคิดว่าเราใส่เสื้อในร้านเค้าออกจากร้าน ก็คุยกับสามีจนแน่ใจว่า เออมันคงสงสัยเราสองคนมั้ง
ออกมาสักพักแล้วดิฉันกับสามีก็ข้องใจมาก สามีถามว่า นี่จะมาซื้อของร้านมันอีกรึป่าว ดิฉันก็บอกไปว่า ซื้อสิ่ ของเค้าดีจริง เราต้องแยกแยะระหว่างสินค้า กับพวกพนักงานพวกนั้น ตอนแรกฉันจะเดินกลับไปแล้วเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นเลย คือเวลาเราข้องใจอะไรเราคิดว่าเราจะซื้อของเค้าตลอดเราก็ต้องเคลียร์ป่ะวะ เพื่อไม่ให้เป็นการติดใจอะไรในครั้งต่อๆ ไปที่มาซื้ออีก เลยเดินกลับไปที่ร้านอีกครั้งดิฉันพุ่งเป้าไปที่พนักงานแคชเชียร์ที่ถามดิฉันว่า เสื้อที่ดิฉันใส่เป็นของ uniqlo รึป่าว? แต่หาไม่เจอ เดินวนรอบๆ ร้านเจอพี่ยามคนเดิม
เดินตรงไปที่ยาม สามีดิฉันโกรธจัด ถามยามคนนั้นว่า "เมื่อกี้คุณสงสัยอะไรผมกับภรรยารึป่าว ถ้าสงสัยทำไมคุณไม่เปิดกล้องดูล่ะ ผมเห็นพนักงานสองสามคนวอคุยกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว คุณคิดว่าผมจะมาขโมยของร้านคุณหรอ ทำไมคุณไม่ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนค่อยมาเปิดถุงสินค้าของลูกค้า คุณทำแบบนี้ผมเสียหายนะ ลูกค้าคนอื่นเค้าจะมองผมยังไง? " ส่วนฉันก็บอกต่อไปว่า "ที่พี่ค้นของในถุงเนี่ยพี่ไ่ม่ดู สลิปใบเสร็จหรอ ว่ามีของกี่ชิ้น สมมุติว่าเราขโมยจริงๆ พี่จะรู้ได้ยังไง?" (ตอนนั้นฉันไม่ได้โกรดอะไรมาก แค่อยากรู้ว่ามันคืออะไรกันวะ)
พี่ยามตอบ "ขอโทษครับ ผมทำตามหน้าที่"
หลังจากที่สามีดิฉันสวดพี่ยามไปแล้ว 1 จบ นั้นดิฉันก็สวดต่อไปด้วยความที่ว่าอยากจะแค่บอกเค้าเพื่อทำความเข้าใจซะใหม่ ว่า "คุณทำแบบนี้คุณจะรู้ได้ยังไงว่าฉันขโมยหรือไม่ แค่คุณค้นของทั้งๆที่ไม่เช็คจากใบเสร็จเลย (ควักใบเสร็จออกมาโชว์) แล้วดิฉันมาซื้อของที่สาขานี้ประจำ ซื้อทีละไม่ต่ำกว่า พันบาททุกครั้ง ตอนเดินเข้ามาคุณเห็นฉันใส่เสื้อต้วนี้เข้าร้าน แต่คุณกลับมาสงสัย พนักงานแคชเชียร์ก็มาสงสัยทำไม ฉันรู้สึกแย่มากเหมือนคุณไม่ให้เกียรติลูกค้าเลยนะ เราทำงานมีเงินเดิน แล้วทำไมไม่ไปสงสัยลูกค้าคนอื่นๆ บ้าง? ฝากบอกพนักงานในร้านด้วยว่าถ้าจะสงสัยอะไรช่วยรอบคอบนิดนึงกล้องวงจรปิดก็มีทำไมไม่ไปดู"
ลูกค้าคนอื่นๆ ก็มองกันใหญ่ (แต่ดิฉันกับสามีไ่ม่ได้ตะโกนเสียงดัง เราไม่ทำแบบนั้น เราแค่คุยน้ำเสียงปรกติ)
ส่วนตัวฉันไม่ได้โกรธยามอะไรมากมายนัก แค่เดินกลับไปหาพนักงานแคชเชียร์เพราะว่าอยากรู้ว่าที่ถามว่าเสื้อที่ฉันใส่วันนี้ของ uniqlo รึป่าวไปทำไม?
ประเด็นในการที่มาเล่าให้ฟังในวันนี้ที่ยังสงสัยอยู่คือ
1. กรณีที่ร้านสงสัยลูกค้า ทำไมไม่เปิดกล้องวงจรปิดดู
2. กรณีที่จะตรวจสอบสินค้าในถุงสินค้าของลูกค้า ทำไมไม่ตรวจนับดูจำนวนในถุง กับใบเสร็จ
3. เมื่อพนักงานแคชเชียร์ในร้าน ได้รับเงินจากลูกค้า ปิดถุงแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาขอรื้อค้นของในถุง
4. ลูกค้าที่ใส่เสื้อแบรนด์ของคุณ เข้าไปซื้อสินค้าของคุณ มันไม่จำเป็นว่าเค้าจะเป็นขโมย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราไม่ควรใส่เสื้อแบรนด์เค้าไปเลือกซื้อของ เพราะอาจทำให้เค้าคิดว่าเราไปขโมยเค้าใส่
ณ 18 ตค 56
ดิฉันได้ email ข้อความข้างต้นให้ทางบริษัทใหญ่ แต่ณ ปัจจุบันไม่มีการตอบกลับ หรือโทรกลับใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ.... จบข่าว
เหตุเกิดที่ Uniqlo สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ
วันนี้ไปเดินซื้อของ ที่ uniqlo ที่ เดอะมอลล์บางกะปิ
ประมาณว่าเออวันอาทิตที่สดใส
สามีพาไปช้อป ดิฉันก็เออดีมีเจ้ามือพามาช้อป ก็เลือกซื้อของไป ลัลล้า
ก็ไม่ได้สังเกตเหนว่า ยามเดินตาม เดินมอง
แต่ออมสังเกตเห็น (กรณียามเดินตามเป็นอะไรที่ปรกติของทุกร้าน ก็ไม่ได้สนใจอะไร ทุกคนคงเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน)
และแล้วก็เจอกางเกงใส่นอนเคยเปิดดูในเว็บแล้วสนใจก็เลยไปลอง ตอนเอาไปลองก็แค่กางเกงตัวเดียว
พนักงานห้องลองก็เป็นประมาณเกย์ก็เห็นอยู่ว่าเอาไปลองตัวเดียวก็เอาป้ายลองสินค้าให้เรา
หลังจากนั้นพอเลือกเสร็จก็ไปจ่ายตัง สินค้าที่ซื้อวันนี้คือ
กางเกงขาสั้นใส่นอน 2 ตัว
เสื้อใน Wirless bra Light 1 ตัว
เสื้อยืด Color T shirt อีก 1 1 ตัว
สามีได้ยินพนักงานหน้าเค้าเตอร์ก็วอคุยกับพนักงาน และยามที่ร้านอะไรกันซักอย่างไม่ได้สนใจ แต่ดิฉันแค่สังเกตุว่า อะไรวะ คิดเงินนานจัง
จากนั้น พนักงานก็ถามว่า "เสื้อของ uniqlo รึป่าวคะ" เราก็ตอบไปอย่างภูมิใจ "ใช่ค่ะ" (คิดว่าเออเก๋นะ พนักงานจำเสื้อได้ด้วย โลกสวยว่ะ)
เดินออกจากร้าน เครื่องตรวจบาร์โค้ดก็ดังจ้า
ยามที่เดิมตามมาอยู่แล้วตั้งนานก็ตรงมาขอดูของในถุง
แล้วก็ถามซ้ำอีกว่า เสื้อที่เราใส่วันนี้ของ uniqlo รึป่าว? เราก็ตอบใช่ ซื้อนานแล้ว สงสัยอะไรหรอคะ?
พี่ยามรื้อถุงไม่เจออะไรก็ปล่อยไปแล้วก็บอกว่า สงสัยคงผิดพลาดที่การคีย์บาร์โค้ด อืมมมม นะ ก็เป็นได้ เจอบ่อยเหมือนกันแบบนี้
ก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินออกมา
พอออกจากร้าน สามีดิฉันก็บอก
"แกรู้รึป่าว พนักงานสามสี่คนมันวอคุยกันเหมือนเราไปขโมยของ ตอนที่แกเดินไปลอง ฉันได้ยินพนักงานวอคุยกันอ่ะ" ส่วนรายละเอียดจำไม่ได้ละว่าสามีบอกว่าอะไรบ้าง
ออกมาจากร้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แล้วลองนึกๆ ดู เอ๊ะ พนักงานหน้าเค้าเตอร์จะมาถามทำไมว่าเสื้อที่เราใส่วันนี้มันของ uniqlo รึป่าว? เอ๊ะหรือว่าเค้าคิดว่าเราใส่เสื้อในร้านเค้าออกจากร้าน ก็คุยกับสามีจนแน่ใจว่า เออมันคงสงสัยเราสองคนมั้ง
ออกมาสักพักแล้วดิฉันกับสามีก็ข้องใจมาก สามีถามว่า นี่จะมาซื้อของร้านมันอีกรึป่าว ดิฉันก็บอกไปว่า ซื้อสิ่ ของเค้าดีจริง เราต้องแยกแยะระหว่างสินค้า กับพวกพนักงานพวกนั้น ตอนแรกฉันจะเดินกลับไปแล้วเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นเลย คือเวลาเราข้องใจอะไรเราคิดว่าเราจะซื้อของเค้าตลอดเราก็ต้องเคลียร์ป่ะวะ เพื่อไม่ให้เป็นการติดใจอะไรในครั้งต่อๆ ไปที่มาซื้ออีก เลยเดินกลับไปที่ร้านอีกครั้งดิฉันพุ่งเป้าไปที่พนักงานแคชเชียร์ที่ถามดิฉันว่า เสื้อที่ดิฉันใส่เป็นของ uniqlo รึป่าว? แต่หาไม่เจอ เดินวนรอบๆ ร้านเจอพี่ยามคนเดิม
เดินตรงไปที่ยาม สามีดิฉันโกรธจัด ถามยามคนนั้นว่า "เมื่อกี้คุณสงสัยอะไรผมกับภรรยารึป่าว ถ้าสงสัยทำไมคุณไม่เปิดกล้องดูล่ะ ผมเห็นพนักงานสองสามคนวอคุยกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว คุณคิดว่าผมจะมาขโมยของร้านคุณหรอ ทำไมคุณไม่ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนค่อยมาเปิดถุงสินค้าของลูกค้า คุณทำแบบนี้ผมเสียหายนะ ลูกค้าคนอื่นเค้าจะมองผมยังไง? " ส่วนฉันก็บอกต่อไปว่า "ที่พี่ค้นของในถุงเนี่ยพี่ไ่ม่ดู สลิปใบเสร็จหรอ ว่ามีของกี่ชิ้น สมมุติว่าเราขโมยจริงๆ พี่จะรู้ได้ยังไง?" (ตอนนั้นฉันไม่ได้โกรดอะไรมาก แค่อยากรู้ว่ามันคืออะไรกันวะ)
พี่ยามตอบ "ขอโทษครับ ผมทำตามหน้าที่"
หลังจากที่สามีดิฉันสวดพี่ยามไปแล้ว 1 จบ นั้นดิฉันก็สวดต่อไปด้วยความที่ว่าอยากจะแค่บอกเค้าเพื่อทำความเข้าใจซะใหม่ ว่า "คุณทำแบบนี้คุณจะรู้ได้ยังไงว่าฉันขโมยหรือไม่ แค่คุณค้นของทั้งๆที่ไม่เช็คจากใบเสร็จเลย (ควักใบเสร็จออกมาโชว์) แล้วดิฉันมาซื้อของที่สาขานี้ประจำ ซื้อทีละไม่ต่ำกว่า พันบาททุกครั้ง ตอนเดินเข้ามาคุณเห็นฉันใส่เสื้อต้วนี้เข้าร้าน แต่คุณกลับมาสงสัย พนักงานแคชเชียร์ก็มาสงสัยทำไม ฉันรู้สึกแย่มากเหมือนคุณไม่ให้เกียรติลูกค้าเลยนะ เราทำงานมีเงินเดิน แล้วทำไมไม่ไปสงสัยลูกค้าคนอื่นๆ บ้าง? ฝากบอกพนักงานในร้านด้วยว่าถ้าจะสงสัยอะไรช่วยรอบคอบนิดนึงกล้องวงจรปิดก็มีทำไมไม่ไปดู"
ลูกค้าคนอื่นๆ ก็มองกันใหญ่ (แต่ดิฉันกับสามีไ่ม่ได้ตะโกนเสียงดัง เราไม่ทำแบบนั้น เราแค่คุยน้ำเสียงปรกติ)
ส่วนตัวฉันไม่ได้โกรธยามอะไรมากมายนัก แค่เดินกลับไปหาพนักงานแคชเชียร์เพราะว่าอยากรู้ว่าที่ถามว่าเสื้อที่ฉันใส่วันนี้ของ uniqlo รึป่าวไปทำไม?
ประเด็นในการที่มาเล่าให้ฟังในวันนี้ที่ยังสงสัยอยู่คือ
1. กรณีที่ร้านสงสัยลูกค้า ทำไมไม่เปิดกล้องวงจรปิดดู
2. กรณีที่จะตรวจสอบสินค้าในถุงสินค้าของลูกค้า ทำไมไม่ตรวจนับดูจำนวนในถุง กับใบเสร็จ
3. เมื่อพนักงานแคชเชียร์ในร้าน ได้รับเงินจากลูกค้า ปิดถุงแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาขอรื้อค้นของในถุง
4. ลูกค้าที่ใส่เสื้อแบรนด์ของคุณ เข้าไปซื้อสินค้าของคุณ มันไม่จำเป็นว่าเค้าจะเป็นขโมย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราไม่ควรใส่เสื้อแบรนด์เค้าไปเลือกซื้อของ เพราะอาจทำให้เค้าคิดว่าเราไปขโมยเค้าใส่
ณ 18 ตค 56
ดิฉันได้ email ข้อความข้างต้นให้ทางบริษัทใหญ่ แต่ณ ปัจจุบันไม่มีการตอบกลับ หรือโทรกลับใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ.... จบข่าว