อันดับแรกเลย
อยากทราบถึงหลักการทำงานของไทยพาณิชย์ลิชซิ่ง นี้ทำงานกันแบบไหนค่ะ ได้มีการอบรมหลักการบริการบ้างหรือเปล่า การพูดจากับลูกค้ารายย่อยๆๆๆๆๆ ถึงได้เป็นอย่างที่รู้กันดี
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ (อาจจะยาวนิดนึงค่ะ ยาวเกือบเขียนเป็นหนังสือได้เลยนะเนี่ย)
เรื่องมีอยู่ว่า น้าชายของดิชั้น(เป็นเจ้าของรถคันที่กล่าวถึงค่ะ) ได้เสียชีวิตลงประมาณเดือน สิงหาคม ปี54 ซึ่งขณะนั้นยังผ่อนรถไม่หมด ทางคุณป้าของดิชั้นจึงรับช่วงผ่อนรถต่อจนหมดค่ะ ผ่อนหมดเมื่อเดือนตุลาคม ปี55 หลังจากหมดแล้วได้ติดต่อกับทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งไปค่ะ ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้างกับกรณีเจ้าของรถได้เสียชีวิต ทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งได้ให้คำตอบกลับมาว่า "ต้องทำการฟ้องร้อต่อศาลเพื่อจัดตั้งผู้จัดการมรดก" ครั้งนี้ผู้จัดการมรดกคือ ภรรยาของน้าชายค่ะ ได้ทำเรื่องต่อศาล ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะเสร็จสิ้นก็กินเวลามาถึงเดือนพฤษภาคม ปี56 ค่ะ (นานจริงๆ เนื่องจากภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่รถทะเบียน กทม.)
เมื่อได้เอกสารจากศาลมา ก็ได้ส่งเอกสารทั้งหมดที่ทางลิสซิ่งขอมาไปให้ทางลิสซิ่งทันที พอส่งแล้วจะโทรแจ้ง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด โทรติดแต่ไม่มีคนรับบ้าง(สงสัยลูกค้าจะเยอะเกินไป) สายหลุดระหว่างรอบ้าง(อันนี้ไม่โทษใคร โทษสัญญาณโทรศัพท์ดีกว่า) เมื่อมีพนักงานcall center รับสายพอแจ้งเรื่องก็บอกจะให้ทางฝ่ายทะเบียนติดต่อกลับภายใน3วันทำการ(โทรไปเมื่อไหร่ก็แจ้งแบบนี้แหละ) เวลาก็ล่วงเลยมาเป็นครึ่งเดือน ไม่คืบหน้าซักที(เงินค่าดำเนินการโอนเล่มทะเบียนก็ชำระเรียบร้อย) จึงโทรกลับไปกลับสอบถาม ได้รับคำตอบว่า "หาเอกสารไม่เจอ ให้ส่งมาให้อีกชุด" (ดีนะที่ส่งเป็นตัวสำเนาไป ไม่งั้นแย่แน่ๆ)
จนมีวันอยู่วันหนึ่งได้รับความคืบหน้า(ดีใจจนบอกไม่ถูก) "ถ้าเจ้าของรถเสียชีวิตต้องนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนโอน" (เฮ้ยทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก) ตัวรถขณะนั้นอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ ก็ติดต่อให้นำรถเข้าตรวจสภาพ พร้อมกับมีพนักงานของไทยพาณิชย์ลิสซิ่งพาไปดำเนินการค่ะ จำนวนเงินที่ต้องจ่าย ณ วันตรวจสภาพคือ "600กว่าบาท" จ่ายกับพนักงานไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง(ทางพนักงานไม่ยอมให้ไปจ่ายที่ขนส่งโดยตรง) ซิ่งได้รับใบเสร็จรับเงินมาแค่ 25บาท (คืออะไร???)
หลังจากวันตรวจสภาพรถแล้ว ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ไม่มีการโทรมาแจ้งความคืบหน้า จึงได้โทรสอบถามเอง โทรสอบถามทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งสาขาเชียงใหม่ แจ้งว่าส่งเอกสารมาแล้ว หลังจากตรวจ 2 วัน และโทรสอบถามทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งที่กทม. พอมีพนักงานรับสายแจ้งว่า "จะให้ฝ่ายทะเบียนติดต่อกลับ" ครั้งนี้โทรกลับมาหลังจากนั้นอีก1 วัน แจ้งว่า "พึ่งได้รับเอกสารวันนี้" แจ้งต่ออีกว่า "ทางบริษัทฯ รับผิดชอบงานในส่วนนี้อยู่แล้ว ระบุไว้ในสัญญา ทางลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาเอง หลังจากดำเนินการเรียบร้อยจะจัดส่งเล่มทะเบียนไปให้ถึงที่บ้าน ถ้าเป็นกทม. ถึงภายใน7วัน ต่างจังหวัด 7-10วัน"
หลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งเดือน โทรสอบถามทางลิสซิ่ง คือวันที่ 15 ตุลาคม ปี56 โทรไปสอบถามเองเช่นเคย เป็นcall center ไปตามพนักงานมารับสาย รอประมาณ 20นาที (ไปตามที่ไหนเนี่ย) พนักงานที่มารับสาย(ผู้ชาย คุณมงคล ฝ่ายทะเบียน) แจ้งว่า "ได้ทำการโอนเรียบร้อยแล้วครับ อีก 3 วันโทรมาสอบถามใหม่นะครับ" (ให้ถามเรื่องอะไรนะ???) อีกสักประมาณ 20นาที(อ่านไม่ผิดค่ะ 20นาที จริง) มีพนักงาน(ผู้หญิง คุณรัตติยากร ฝ่ายทะเบียน) แจ้งว่า "ให้ส่งเอกสารที่ได้จากศาลเป็นตัวจริงมาให้กับทางลิสซิ่งค่ะ" (แล้วทำไมคุณพนักงานผู้ชาย คุณมงคล เมื่อสักครู่บอกว่าทำการโอนเสร็จเรียบร้อยแล้วไง นี่เค้าทำงานที่เดียวกันหรือเปล่าค่ะเนี่ย งงงงง)
สรุป ยังไม่คืบหน้าเลยค่ะ อีกทั้งกลัวว่าถ้าส่งเอกสารตัวจริงที่ได้จากศาลไปแล้ว เกิดสูญหาย(เหมือนครั้งแรก) จะมีใครรับผิดชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ (คิดว่าไม่น่าจะมี คงโทษลูกค้าว่าเป็นฝ่ายผิด) อยากจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ค่ะ ว่ากรณีแบบนี้เราควรทำยังไงดี (ภาษีรถ หมดแล้ว ต้องไปต่อเอง ทั้งๆที่ยังไม่ได้เล่มทะเบียนเลย) ตอนนี้ก็เวลาก็ล่วงเลย นับตั้งแต่ผ่อนรถงวดสุดท้าย มาถึงปัจจุบันก็นาน เป็นปีแล้วค่ะ
บรรยายมาซะยืดยาว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะค่ะ
ส่วนใครมีวิธีแนะนำมาได้ค่ะ
และอยากให้ SCB Thailand เข้ามาตอบคำถามด้วยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
มาตอกย้ำถึงการบริการของ ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง กันค่ะว่าจะสมคำล่ำลือขนาดไหน
อยากทราบถึงหลักการทำงานของไทยพาณิชย์ลิชซิ่ง นี้ทำงานกันแบบไหนค่ะ ได้มีการอบรมหลักการบริการบ้างหรือเปล่า การพูดจากับลูกค้ารายย่อยๆๆๆๆๆ ถึงได้เป็นอย่างที่รู้กันดี
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ (อาจจะยาวนิดนึงค่ะ ยาวเกือบเขียนเป็นหนังสือได้เลยนะเนี่ย)
เรื่องมีอยู่ว่า น้าชายของดิชั้น(เป็นเจ้าของรถคันที่กล่าวถึงค่ะ) ได้เสียชีวิตลงประมาณเดือน สิงหาคม ปี54 ซึ่งขณะนั้นยังผ่อนรถไม่หมด ทางคุณป้าของดิชั้นจึงรับช่วงผ่อนรถต่อจนหมดค่ะ ผ่อนหมดเมื่อเดือนตุลาคม ปี55 หลังจากหมดแล้วได้ติดต่อกับทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งไปค่ะ ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้างกับกรณีเจ้าของรถได้เสียชีวิต ทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งได้ให้คำตอบกลับมาว่า "ต้องทำการฟ้องร้อต่อศาลเพื่อจัดตั้งผู้จัดการมรดก" ครั้งนี้ผู้จัดการมรดกคือ ภรรยาของน้าชายค่ะ ได้ทำเรื่องต่อศาล ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะเสร็จสิ้นก็กินเวลามาถึงเดือนพฤษภาคม ปี56 ค่ะ (นานจริงๆ เนื่องจากภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่รถทะเบียน กทม.)
เมื่อได้เอกสารจากศาลมา ก็ได้ส่งเอกสารทั้งหมดที่ทางลิสซิ่งขอมาไปให้ทางลิสซิ่งทันที พอส่งแล้วจะโทรแจ้ง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด โทรติดแต่ไม่มีคนรับบ้าง(สงสัยลูกค้าจะเยอะเกินไป) สายหลุดระหว่างรอบ้าง(อันนี้ไม่โทษใคร โทษสัญญาณโทรศัพท์ดีกว่า) เมื่อมีพนักงานcall center รับสายพอแจ้งเรื่องก็บอกจะให้ทางฝ่ายทะเบียนติดต่อกลับภายใน3วันทำการ(โทรไปเมื่อไหร่ก็แจ้งแบบนี้แหละ) เวลาก็ล่วงเลยมาเป็นครึ่งเดือน ไม่คืบหน้าซักที(เงินค่าดำเนินการโอนเล่มทะเบียนก็ชำระเรียบร้อย) จึงโทรกลับไปกลับสอบถาม ได้รับคำตอบว่า "หาเอกสารไม่เจอ ให้ส่งมาให้อีกชุด" (ดีนะที่ส่งเป็นตัวสำเนาไป ไม่งั้นแย่แน่ๆ)
จนมีวันอยู่วันหนึ่งได้รับความคืบหน้า(ดีใจจนบอกไม่ถูก) "ถ้าเจ้าของรถเสียชีวิตต้องนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนโอน" (เฮ้ยทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก) ตัวรถขณะนั้นอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ ก็ติดต่อให้นำรถเข้าตรวจสภาพ พร้อมกับมีพนักงานของไทยพาณิชย์ลิสซิ่งพาไปดำเนินการค่ะ จำนวนเงินที่ต้องจ่าย ณ วันตรวจสภาพคือ "600กว่าบาท" จ่ายกับพนักงานไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง(ทางพนักงานไม่ยอมให้ไปจ่ายที่ขนส่งโดยตรง) ซิ่งได้รับใบเสร็จรับเงินมาแค่ 25บาท (คืออะไร???)
หลังจากวันตรวจสภาพรถแล้ว ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ไม่มีการโทรมาแจ้งความคืบหน้า จึงได้โทรสอบถามเอง โทรสอบถามทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งสาขาเชียงใหม่ แจ้งว่าส่งเอกสารมาแล้ว หลังจากตรวจ 2 วัน และโทรสอบถามทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่งที่กทม. พอมีพนักงานรับสายแจ้งว่า "จะให้ฝ่ายทะเบียนติดต่อกลับ" ครั้งนี้โทรกลับมาหลังจากนั้นอีก1 วัน แจ้งว่า "พึ่งได้รับเอกสารวันนี้" แจ้งต่ออีกว่า "ทางบริษัทฯ รับผิดชอบงานในส่วนนี้อยู่แล้ว ระบุไว้ในสัญญา ทางลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาเอง หลังจากดำเนินการเรียบร้อยจะจัดส่งเล่มทะเบียนไปให้ถึงที่บ้าน ถ้าเป็นกทม. ถึงภายใน7วัน ต่างจังหวัด 7-10วัน"
หลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งเดือน โทรสอบถามทางลิสซิ่ง คือวันที่ 15 ตุลาคม ปี56 โทรไปสอบถามเองเช่นเคย เป็นcall center ไปตามพนักงานมารับสาย รอประมาณ 20นาที (ไปตามที่ไหนเนี่ย) พนักงานที่มารับสาย(ผู้ชาย คุณมงคล ฝ่ายทะเบียน) แจ้งว่า "ได้ทำการโอนเรียบร้อยแล้วครับ อีก 3 วันโทรมาสอบถามใหม่นะครับ" (ให้ถามเรื่องอะไรนะ???) อีกสักประมาณ 20นาที(อ่านไม่ผิดค่ะ 20นาที จริง) มีพนักงาน(ผู้หญิง คุณรัตติยากร ฝ่ายทะเบียน) แจ้งว่า "ให้ส่งเอกสารที่ได้จากศาลเป็นตัวจริงมาให้กับทางลิสซิ่งค่ะ" (แล้วทำไมคุณพนักงานผู้ชาย คุณมงคล เมื่อสักครู่บอกว่าทำการโอนเสร็จเรียบร้อยแล้วไง นี่เค้าทำงานที่เดียวกันหรือเปล่าค่ะเนี่ย งงงงง)
สรุป ยังไม่คืบหน้าเลยค่ะ อีกทั้งกลัวว่าถ้าส่งเอกสารตัวจริงที่ได้จากศาลไปแล้ว เกิดสูญหาย(เหมือนครั้งแรก) จะมีใครรับผิดชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ (คิดว่าไม่น่าจะมี คงโทษลูกค้าว่าเป็นฝ่ายผิด) อยากจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ค่ะ ว่ากรณีแบบนี้เราควรทำยังไงดี (ภาษีรถ หมดแล้ว ต้องไปต่อเอง ทั้งๆที่ยังไม่ได้เล่มทะเบียนเลย) ตอนนี้ก็เวลาก็ล่วงเลย นับตั้งแต่ผ่อนรถงวดสุดท้าย มาถึงปัจจุบันก็นาน เป็นปีแล้วค่ะ
บรรยายมาซะยืดยาว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะค่ะ
ส่วนใครมีวิธีแนะนำมาได้ค่ะ
และอยากให้ SCB Thailand เข้ามาตอบคำถามด้วยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร