------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๑๐. สัมปทาสูตร
------------------------------------------------------------------------------------------------------
[๑๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อม ๕ ประการนี้ ๕ ประการ
เป็นไฉน คือ ความเสื่อมญาติ ๑ ความเสื่อมเพราะโภคะ ๑ ความเสื่อมเพราะ
โรค ๑ ความเสื่อมศีล ๑ ความเสื่อมทิฐิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายเมื่อตายไปแล้ว ย่อมไม่เข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เพราะเหตุแห่งความเสื่อมญาติ เพราะเหตุแห่งความเสื่อมโภคะ
หรือเพราะเหตุแห่งความเสื่อมเพราะโรค
(แต่ว่า) สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก เพราะเหตุแห่งความเสื่อมศีล หรือเพราะเหตุแห่งความเสื่อมทิฐิ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ความเสื่อม ๕ ประการนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมบัติ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สมบัติ
คือญาติ ๑ สมบัติคือโภคะ ๑ สมบัติคือความไม่มีโรค ๑ สมบัติคือศีล ๑ สมบัติ
คือทิฐิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมไม่เข้าถึงสุคติ
โลกสวรรค์ เพราะเหตุแห่งสมบัติคือญาติ เพราะเหตุแห่งสมบัติคือโภคะ หรือ
เพราะเหตุแห่งสมบัติคือความไม่มีโรค
(แต่ว่า) สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะเหตุแห่งสมบัติคือศีล หรือเพราะเหตุแห่งสมบัติคือทิฐิ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมบัติ ๕ ประการนี้แล ฯ
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๓๔๓๙ - ๓๔๖๒. หน้าที่ ๑๔๙ - ๑๕๐.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=3439&Z=3462&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=130
ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
อปัณณกสูตร
[บางส่วน]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริตว่า
ทานที่ให้แล้วมีผล การบวงสรวงมีผล การบูชามีผล ผลวิบากแห่งกรรม
ที่สัตว์ทำชั่วทำดีมีอยู่ โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามี บิดามี อุปปาติกสัตว์มี
สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้า
ให้แจ้งชัดด้วย ปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามมีอยู่ในโลก
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=20&A=7084&w=ก็ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
ผู้มีศีลย่อมไม่เดือดเนื้อร้อนใจ อันมีการทุศีลเป็นเหตุ เมื่อไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ย่อมได้ความสงบพอที่จะบำเพ็ญ
กุศลธรรมอื่นๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไปได้
ผู้มีศีลย่อมเป็นที่รักของผู้มีศีล ไม่เป็นที่น่ารังเกียจของผู้มีศีลโดยความเป็นผู้มีศีลเสมอกัน (สีลสามัญญตา)
ผู้มีศีล หากแม้ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษยิ่งๆ ขึ้นไป ตายลงไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ อันพอสามารถฝึกฝนต่อไปได้
กล่าวได้ว่า ผู้มีศีล แม้ในปัจจุบันก็ไม่เดือดร้อน ทั้งยังหวังได้ว่า อาจสามารถบรรลุคุณวิเศษยิ่งๆ ขึ้นไป
หากไม่บรรลุในปัจจุบัน ก็ยังได้โอกาสฝึกฝนต่อไปในอนาคต
กิมัตถิยสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=24&A=1
สัตว์ทั้งหลายเมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะเหตุแห่งสมบัติคือศีล หรือทิฐิ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๑๐. สัมปทาสูตร
------------------------------------------------------------------------------------------------------
[๑๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อม ๕ ประการนี้ ๕ ประการ
เป็นไฉน คือ ความเสื่อมญาติ ๑ ความเสื่อมเพราะโภคะ ๑ ความเสื่อมเพราะ
โรค ๑ ความเสื่อมศีล ๑ ความเสื่อมทิฐิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายเมื่อตายไปแล้ว ย่อมไม่เข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก เพราะเหตุแห่งความเสื่อมญาติ เพราะเหตุแห่งความเสื่อมโภคะ
หรือเพราะเหตุแห่งความเสื่อมเพราะโรค
(แต่ว่า) สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก เพราะเหตุแห่งความเสื่อมศีล หรือเพราะเหตุแห่งความเสื่อมทิฐิ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ความเสื่อม ๕ ประการนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมบัติ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สมบัติ
คือญาติ ๑ สมบัติคือโภคะ ๑ สมบัติคือความไม่มีโรค ๑ สมบัติคือศีล ๑ สมบัติ
คือทิฐิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมไม่เข้าถึงสุคติ
โลกสวรรค์ เพราะเหตุแห่งสมบัติคือญาติ เพราะเหตุแห่งสมบัติคือโภคะ หรือ
เพราะเหตุแห่งสมบัติคือความไม่มีโรค
(แต่ว่า) สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะเหตุแห่งสมบัติคือศีล หรือเพราะเหตุแห่งสมบัติคือทิฐิ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สมบัติ ๕ ประการนี้แล ฯ
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๓๔๓๙ - ๓๔๖๒. หน้าที่ ๑๔๙ - ๑๕๐.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=3439&Z=3462&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=130
ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
อปัณณกสูตร
[บางส่วน]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริตว่า
ทานที่ให้แล้วมีผล การบวงสรวงมีผล การบูชามีผล ผลวิบากแห่งกรรม
ที่สัตว์ทำชั่วทำดีมีอยู่ โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดามี บิดามี อุปปาติกสัตว์มี
สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ ทำโลกนี้และโลกหน้า
ให้แจ้งชัดด้วย ปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนหมู่สัตว์ให้รู้ตามมีอยู่ในโลก
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=20&A=7084&w=ก็ทิฏฐิสัมปทาเป็นไฉน
ผู้มีศีลย่อมไม่เดือดเนื้อร้อนใจ อันมีการทุศีลเป็นเหตุ เมื่อไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ย่อมได้ความสงบพอที่จะบำเพ็ญ
กุศลธรรมอื่นๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไปได้
ผู้มีศีลย่อมเป็นที่รักของผู้มีศีล ไม่เป็นที่น่ารังเกียจของผู้มีศีลโดยความเป็นผู้มีศีลเสมอกัน (สีลสามัญญตา)
ผู้มีศีล หากแม้ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษยิ่งๆ ขึ้นไป ตายลงไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ อันพอสามารถฝึกฝนต่อไปได้
กล่าวได้ว่า ผู้มีศีล แม้ในปัจจุบันก็ไม่เดือดร้อน ทั้งยังหวังได้ว่า อาจสามารถบรรลุคุณวิเศษยิ่งๆ ขึ้นไป
หากไม่บรรลุในปัจจุบัน ก็ยังได้โอกาสฝึกฝนต่อไปในอนาคต
กิมัตถิยสูตร
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=24&A=1