คร่าวๆ เลยนะคะ คือดิฉันถูกหลอกให้โอนเงิน 95,000 บาท คือ มิจฉาชีพโอนมาบัญชีดิฉัน 120,000 แล้วดิฉันโอนต่อผ่าน western union (น่าจะกลับไปที่มิจฉาชีพนะคะ ที่อังกฤษ) โดยดิฉันหักค่าใช้จ่ายไว้ 25,000 บาท..ในเย็นวันนั้นแบงค์สีม่วง โดย นายภิญโญ โทรมาตามเงินกับดิฉัน บอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการทุจริต มีลูกค้าธนาคาร2ราย โดน fishing โดย 1 ราย ชื่ออิสรีย์ โดนไป 20,000 และอีกรายชื่อ กฤษดิ์ศักดิ์ โดนไป 100,000 บาท ดิฉันตกใจไม่รู้จะทำยังไงจึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 20 เม.ย.55 ค่ะ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน นายภิญโญ คนเดิม ก้อโทรมาบอกให้ดิฉันคืนเงิน โดยพยามเกลี้ยกล่อมต่างๆ นาๆ รวมทั้งมันยังให้ผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาสำนักงานดิฉัน คุยเล่าเรื่องให้หัวหน้าดิฉันฟัง(ดิฉันรับราชการค่ะ) จนเป็นที่อับอาย.....ดิฉันบอกไปว่าโดนหลอกเหมือนกัน (นายภิญโญทำยังกับว่าดิฉันไม่ใช่ลูกค่าธนาคารซะงั้น) เงินก้อโอนไปแล้วจะให้เอาที่ไหนมาคืน จะเหลือก้อแต่ 25,000 ที่หักเป็นค่าใช้จ่ายไว้ก้อจะคืนให้ได้ เพราะคิดว่ายังไงมันก้อไม่ชอบแล้ว...หลังจากนั้น นายภิญโญ ก้อแจ้งให้นางอิสรีย์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายราย 20,000 ไปแจ้งความ แล้วร้อยเวรก้อออกหมายเรียกดิฉันไปและเจรจาไกล่เกลี่ยให้คืนเงิน 20,000 บาท จะบอกให้รู้ว่าดิฉันเดินทางไปนั้น กัอไม่ได้พบนางอิสรีย์เลยยยยย ดิฉันอยู่ต่างจังหวัด เดินทางเข้า กทม.ก้อใช้เวลา 6 ชม. บอกร้อยเวรให้นัดเวลานางอิสรีย์ให้ ก้อไม่ได้พบ อ้างว่าติดธุระ (ซึ่งอันนี้ก้อร้อยเวรบอกอึกล่ะว่าติดธุระ มาไม่ได้) ให้มอบเงินที่จะคืนไว้กับร้อยเวร แล้วร้อยเวรก้อเป็นคนดำเนินการให้โดยหลังจากเดินทางกลับมาบ้านทื่ ตจว. แล้วก้อได้ส่งบันทึกประจำวันของนางอิสรีย์ เป็นการยอมความว่าได้เงินคืนจากดิฉันแล้ว จะไม่เอาเรื่องอีก...ดิฉันได้แต่ตัดใจ แล้วคิดว่าจะตั้งรับผู้เสียหายอีกรายหนึ่งซึ่งเสียเป็นแสน โดยหลังจากที่เดินคล้อยออกจาก สน. นายภิญโญ ยังโทรมาขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ และบอกอีกว่าผู้เสียหายอีกรายจะแจ้งความอีกเร็ววัน ดิฉันขึงตอบไปว่า ให้เป็นไปตามกฎหมายเลย เพราะไม่มีเงินคืนหรอกตัวดิฉันเองก้อโดนหลอกเหมือนกัน ฟ้องก้อฟ้อง ดิฉันก้อติดต่อทนายไว้เหมือนกัน....
หลังจากนั้น 1สัปดาห์ ก้อมีหนังสือจากแบงค์ม่วง ชี้แจงมาว่าดิฉันเอาเงินไปคืนเท่ากับยอมรับผิด และผู้เสียหายอีกรายคือนายกฤษศักดิ์ ทราบเรื่องแล้ว และจะแจ้งความดำเนินคดีกับดิฉัน.....ดิฉันก้อรอ
ที่สำคัญคือบัญชีแบงค์ม่วงดิฉันถูกอายัดไว้ตั้งแต่วันนั้น (20 เม.ย.55) โดยมีเงินในบัญชี 35,xxx บาท
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 1ปี 6 เดือน ค่ะ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร นายกฤษศักดิ์ ก้อไม่โผล่มา ไอ้ภิญโญ ก้อเงียบ บัญชีก้อยังถูกอายัด อยากใช้เงินก้อไม่ได้ใช้
.........
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีหนังสือจากแบงค์ม่วงมา ว่าบัญชีไม่เคลื่อนไหว จะมีค่ารักษาบัญชี ดิฉันจึงเข้าไปติดต่อสาขาอีก บัญชียังโดนอายัด ดิฉันบอกว่าหมดอายุความแล้วมั้งปีครึ่งแล้ว สาขาไม่ทราบเรื่องก้อขอรายละเอียดกับดิฉัน แล้วบอกให้กลับก่อนจะติดต่อมาอีกที เย็นวันนั้น(ไอ้)นายภิญโญ โทรมาอีก มันก้อยังทวงให้ดิฉันคืนอีก100,000 เหมือนเดิม !!!! ดิฉันถามว่า แล้วผู้เสียหายล่ะ หลบไปไหน ????? ดิฉันก้อรอให้เข้าสู่กระบวนการอยู่นะ ทำไมเงียบไป นายภิญโญ ก้อบอกว่าผู้เสียหายจะดำเนินการเอง !!!! อ้าว ถ้างั้นก้อถอนอายัดบัญชีของดิฉันซิ
.........
คือที่เล่ามาทั้งหมดเพียงต้องการให้ถอนอายัดบัญชีค่ะ...เท่านั้นจริงๆ ดิฉันีข้อสงสัยมากมาย เท่าที่อ่านมาหลายคนคงสงสัยเหมือนกัน แต่บางเรื่องก้อไม่อยากสาว อยากเคลียร์แต่เรื่องของตนเองเท่านั้น เงิน 35,xxx ไม่มากไม่น้อย แต่บางครั้งเราก้อจำเป็นต้องใช้ ดิฉันเลี้ยงลูกเองตามลำพัง ก้อมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าคนที่พร้อมทั้งสามีภรรยา นั่นเป็นเหตุผลที่มองหารายได้เสริม...ลืมบอกเรื่องที่โดนหลอกตั้งแต่ตอนแรก...คืองี้ค่ะ ดิฉันได้รับอีเมล์จากบริษัทต่างชาติ อัางว่าขายอุปกรณ์อุตสาหกรรมโดยมีฐานการทำธุรกรรมในประเทศไทยด้วย ให้ผู้สนใจที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้. ส่งชื่อ ที่อยู่ เลขที่บัญชี (แบงค์ม่วง) โดยแต่ละครั้งได้ค่าคอม 25,000 บาท ซึ่งดิฉันก้อแปลกใจพอสมควรว่าจะง่ายอะไรขนาดนั้น ก้อลองส่งไป ปรากฎว่า....เป็นไปตามนั้น
......
ดิฉันเข้าใจว่าท่านที่อ่านอยู่นี้คงมองว่าเราไม่ใช้วิจารณญาณ. หรือตำหนิต่างๆ นาๆ ก้อยอมรับค่ะ พลาดไปแล้วจริงๆ แต่ทั้งหมดก้อเกิดจากเจตนาบริสุทธิ์ ดิฉันถูกหลอก
ประเด็นที่มาวันนี้คือ อยากให้แบงค์ถอนอายัดเพราะเหตุการณ์ผ่านมาเนิ่นนาน คุยกับร้อยเวร เมื่อปีที่แล้วบอกมันเข้าข่ายฉ้อโกง ซึ่งอายุความมัน6เดือน แต่นี่อะไร ???? ปีครึ่ง !!!! หนำซ้ำไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย.....มันถูกแล้วหรือคะ
รบดวนท่านผู้รู้แนะนำดิฉันที
แก้ไข ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากแบงค์สีม่วง อายัดบัญชีมากว่าปีครึ่ง โดยที่ไม่ทำอะไรเลย จะร้องเรียนได้ที่ไหน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 20 เม.ย.55 ค่ะ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน นายภิญโญ คนเดิม ก้อโทรมาบอกให้ดิฉันคืนเงิน โดยพยามเกลี้ยกล่อมต่างๆ นาๆ รวมทั้งมันยังให้ผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาสำนักงานดิฉัน คุยเล่าเรื่องให้หัวหน้าดิฉันฟัง(ดิฉันรับราชการค่ะ) จนเป็นที่อับอาย.....ดิฉันบอกไปว่าโดนหลอกเหมือนกัน (นายภิญโญทำยังกับว่าดิฉันไม่ใช่ลูกค่าธนาคารซะงั้น) เงินก้อโอนไปแล้วจะให้เอาที่ไหนมาคืน จะเหลือก้อแต่ 25,000 ที่หักเป็นค่าใช้จ่ายไว้ก้อจะคืนให้ได้ เพราะคิดว่ายังไงมันก้อไม่ชอบแล้ว...หลังจากนั้น นายภิญโญ ก้อแจ้งให้นางอิสรีย์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายราย 20,000 ไปแจ้งความ แล้วร้อยเวรก้อออกหมายเรียกดิฉันไปและเจรจาไกล่เกลี่ยให้คืนเงิน 20,000 บาท จะบอกให้รู้ว่าดิฉันเดินทางไปนั้น กัอไม่ได้พบนางอิสรีย์เลยยยยย ดิฉันอยู่ต่างจังหวัด เดินทางเข้า กทม.ก้อใช้เวลา 6 ชม. บอกร้อยเวรให้นัดเวลานางอิสรีย์ให้ ก้อไม่ได้พบ อ้างว่าติดธุระ (ซึ่งอันนี้ก้อร้อยเวรบอกอึกล่ะว่าติดธุระ มาไม่ได้) ให้มอบเงินที่จะคืนไว้กับร้อยเวร แล้วร้อยเวรก้อเป็นคนดำเนินการให้โดยหลังจากเดินทางกลับมาบ้านทื่ ตจว. แล้วก้อได้ส่งบันทึกประจำวันของนางอิสรีย์ เป็นการยอมความว่าได้เงินคืนจากดิฉันแล้ว จะไม่เอาเรื่องอีก...ดิฉันได้แต่ตัดใจ แล้วคิดว่าจะตั้งรับผู้เสียหายอีกรายหนึ่งซึ่งเสียเป็นแสน โดยหลังจากที่เดินคล้อยออกจาก สน. นายภิญโญ ยังโทรมาขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ และบอกอีกว่าผู้เสียหายอีกรายจะแจ้งความอีกเร็ววัน ดิฉันขึงตอบไปว่า ให้เป็นไปตามกฎหมายเลย เพราะไม่มีเงินคืนหรอกตัวดิฉันเองก้อโดนหลอกเหมือนกัน ฟ้องก้อฟ้อง ดิฉันก้อติดต่อทนายไว้เหมือนกัน....
หลังจากนั้น 1สัปดาห์ ก้อมีหนังสือจากแบงค์ม่วง ชี้แจงมาว่าดิฉันเอาเงินไปคืนเท่ากับยอมรับผิด และผู้เสียหายอีกรายคือนายกฤษศักดิ์ ทราบเรื่องแล้ว และจะแจ้งความดำเนินคดีกับดิฉัน.....ดิฉันก้อรอ
ที่สำคัญคือบัญชีแบงค์ม่วงดิฉันถูกอายัดไว้ตั้งแต่วันนั้น (20 เม.ย.55) โดยมีเงินในบัญชี 35,xxx บาท
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 1ปี 6 เดือน ค่ะ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร นายกฤษศักดิ์ ก้อไม่โผล่มา ไอ้ภิญโญ ก้อเงียบ บัญชีก้อยังถูกอายัด อยากใช้เงินก้อไม่ได้ใช้
.........
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีหนังสือจากแบงค์ม่วงมา ว่าบัญชีไม่เคลื่อนไหว จะมีค่ารักษาบัญชี ดิฉันจึงเข้าไปติดต่อสาขาอีก บัญชียังโดนอายัด ดิฉันบอกว่าหมดอายุความแล้วมั้งปีครึ่งแล้ว สาขาไม่ทราบเรื่องก้อขอรายละเอียดกับดิฉัน แล้วบอกให้กลับก่อนจะติดต่อมาอีกที เย็นวันนั้น(ไอ้)นายภิญโญ โทรมาอีก มันก้อยังทวงให้ดิฉันคืนอีก100,000 เหมือนเดิม !!!! ดิฉันถามว่า แล้วผู้เสียหายล่ะ หลบไปไหน ????? ดิฉันก้อรอให้เข้าสู่กระบวนการอยู่นะ ทำไมเงียบไป นายภิญโญ ก้อบอกว่าผู้เสียหายจะดำเนินการเอง !!!! อ้าว ถ้างั้นก้อถอนอายัดบัญชีของดิฉันซิ
.........
คือที่เล่ามาทั้งหมดเพียงต้องการให้ถอนอายัดบัญชีค่ะ...เท่านั้นจริงๆ ดิฉันีข้อสงสัยมากมาย เท่าที่อ่านมาหลายคนคงสงสัยเหมือนกัน แต่บางเรื่องก้อไม่อยากสาว อยากเคลียร์แต่เรื่องของตนเองเท่านั้น เงิน 35,xxx ไม่มากไม่น้อย แต่บางครั้งเราก้อจำเป็นต้องใช้ ดิฉันเลี้ยงลูกเองตามลำพัง ก้อมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าคนที่พร้อมทั้งสามีภรรยา นั่นเป็นเหตุผลที่มองหารายได้เสริม...ลืมบอกเรื่องที่โดนหลอกตั้งแต่ตอนแรก...คืองี้ค่ะ ดิฉันได้รับอีเมล์จากบริษัทต่างชาติ อัางว่าขายอุปกรณ์อุตสาหกรรมโดยมีฐานการทำธุรกรรมในประเทศไทยด้วย ให้ผู้สนใจที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้. ส่งชื่อ ที่อยู่ เลขที่บัญชี (แบงค์ม่วง) โดยแต่ละครั้งได้ค่าคอม 25,000 บาท ซึ่งดิฉันก้อแปลกใจพอสมควรว่าจะง่ายอะไรขนาดนั้น ก้อลองส่งไป ปรากฎว่า....เป็นไปตามนั้น
......
ดิฉันเข้าใจว่าท่านที่อ่านอยู่นี้คงมองว่าเราไม่ใช้วิจารณญาณ. หรือตำหนิต่างๆ นาๆ ก้อยอมรับค่ะ พลาดไปแล้วจริงๆ แต่ทั้งหมดก้อเกิดจากเจตนาบริสุทธิ์ ดิฉันถูกหลอก
ประเด็นที่มาวันนี้คือ อยากให้แบงค์ถอนอายัดเพราะเหตุการณ์ผ่านมาเนิ่นนาน คุยกับร้อยเวร เมื่อปีที่แล้วบอกมันเข้าข่ายฉ้อโกง ซึ่งอายุความมัน6เดือน แต่นี่อะไร ???? ปีครึ่ง !!!! หนำซ้ำไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย.....มันถูกแล้วหรือคะ
รบดวนท่านผู้รู้แนะนำดิฉันที