. . . 30 กันยายน 2013. . .
หยาดฝนโปรยปรายต่อเนื่องไม่ขาดสายท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆสีเทาแผ่บริเวณกว้างปกคลุมสีฟ้าที่สดใสให้มืดมิด..มืดมิด..เหมือนหัวใจใครบางคนที่กำลังแห้งแล้งเหลือเกิน...
โปสการ์ดใบใหม่ถูกส่งมาถึงมือผู้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า โปสการ์ดแสนสวยที่มีร่องรอยชื้นเป็นวงกว้างพร้อมน้ำหมึกที่เริ่มเจือจางจนอ่านแทบไม่ได้ แต่กลับจำได้ดีถึงแม้ว่าจะต้องเดาตัวอักษรบางตัวไปบ้าง..กับลายมือนั้นที่จำได้ไม่ลืม...พร้อมข้อความว่า..
‘เธอเสียแล้ว..ฉันจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวร..ไม่ไปไหนอีกแล้ว’
. . . 15 ตุลาคม 2007. . .
‘...ถ่ายทำสารคดีอยู่ที่ฝาง...สบายดี’
ข้อความสั้นที่สุดถูกส่งมาเป็นฉบับแรก หลังการจากกันของเรา..ฉันอ่านข้อความในโปสการ์ดสีน้ำตาลเป็นภาพทิวทัศน์แม่น้ำสายเล็กอุดมไปด้วยหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ ด้วยใจเต้นระทึก ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอกันหนึ่งปีเต็มหลังจากวันที่เดียวกันกับที่ลงบันทึกไว้บนโปสการ์ดนั้นวันที่เขาส่งมา..วันนั้น..ตรงกับวันที่เรา..เลิกกัน
. . . คิ ด ถึ ง . . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว..ทำได้แค่นั้นจริงๆ
. . .15 ตุลาคม 2008. . .
‘แต่งงานแล้ว...เป็นเขยลิ้นจี่...อยู่ที่ฝางเหมือนเดิม’
หลังจากจบข้อความสั้นเหมือนเคย ฉันได้รับโปสการ์ดใบนั้นที่เป็นภาพทิวทัศน์ไร่ลิ้นจี่เมืองฝาง คิดอยู่ว่าน่าจะเป็นโปสการ์ดทำมือจากภาพถ่ายฝีมือเขา สีสันสดใสของภาพทำให้ฉันทั้งนึกยินดีและเศร้าใจไปด้วย..รู้สึกตัวว่าฉันกำลังเสียใจที่เขาพบคนที่ถูกใจจนสามารถเดินทางไปด้วยกันแล้ว...อย่างนั้น...
. . .ใ จ ห า ย. . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกันถึงจะใจหาย..แต่ฉันรู้สึกดีใจกับพวกเขานะ
. . .15 ตุลาคม 2009. . .
‘ภรรยาฉันกำลังป่วย...มารักษาที่สวนดอกอยู่...สบายดีนะ’
สบายดีนะ..คำแรกที่ถูกส่งมาหลังจากการจากกันสามปีของเรา ถูกแนบท้ายหลังจากประโยคที่ว่าเธอป่วย ถ้อยคำสั้นๆเหมือนเดิมแต่ทำให้ฉันนึกสงสัย..เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาเธอป่วยเป็นอะไรถึงกับต้อง..รักษาตัว
. . .อ ย า ก รู้. . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
ฉันอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตของพวกเขาสองคน..จริงๆ
. . .15 ตุลาคม 2010. . .
‘เธอจากไปแล้วไม่กี่วันก่อน..ฉันอาจจะกลับบ้าน..คิดถึงเธอนะ’
คิดถึงเธอนะ..คำสั้นๆอีกแล้ว ถูกส่งมาหลังจากหนึ่งปีนับจากโปสการ์ดฉบับล่าสุด ภาพฝนฟรำท่ามกลางท้องนาเวิ้งว้างดูเศร้าเหมือนเขาในตอนนี้ อธิบายเป็นความรู้สึกไม่ได้รู้แต่เพียงว่า..ฉันเป็นห่วงเขา
. . .อ ย า ก เ จ อ. . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว..รู้สึกเป็นห่วงเขามาก
. . .15 ตุลาคม 2011. . .
‘ตอนนี้อยู่เชียงใหม่..เปิดแกลลอรี่เล็กๆ..มาเที่ยวสิ’
มาเที่ยวสิ..เขาชวนฉัน..ชั่ววูบหนึ่งที่รู้สึกดีใจ อยากเห็นความฝันของเขาเป็นรูปเป็นร่างมานาน แกลลอรี่เล็กๆในฝันเขาทำได้จริงเสียด้วย ภาพแกลลอรีไม้สีขาวสะอาดตาหน้าโปสการ์ดทำมือที่คิดว่าเป็นฝีมือเขา ทำให้ฉันอดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ แต่เพราะภารกิจการงาน..ฉันไม่สามารถไปได้จริงๆ
...อ ย า ก ไ ป...
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
รู้สึกมีความหวังกับบางอย่างขึ้นมา..อีกครั้ง
. . .15 ต.ค. 2012. . .
‘แต่งครั้งที่สอง..กับสาวเชียงใหม่ หน้าตาคล้ายเธอเลย เอาไว้ปีหน้า..จะพามาหา’
จะพามาหา..งั้นเหรอ อุตส่าห์ดีใจที่ข้อความยาวขึ้นเล็กน้อย แต่หัวใจกลับห่อเหี่ยวอยู่ดี เพื่อนเก่า คนรักเก่าของฉันเป็นโรคขาดความรักไม่ได้เสียกระมัง ฉันควรจะทำยังไงดีเมื่อรู้ตัวว่ากำลังหมดหวัง.อีกครั้ง
. . .เ สี ย ใ จ. . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
หมดความหวังว่าเขาจะกลับมา ฉันว่าจะเลิกรอคอย
ตลอดห้าปีที่ผ่านมาฉันจะเลิก..รอคอย
. . .5 กันยายน 2013. . .
‘จะมาหาวันที่ 15..จะพาภรรยามาให้รู้จัก..อยากเจอมาก..รอด้วยนะ’
ฉันนึกแปลกใจกับระยะเวลาที่บันทึกในโปสการ์ดและการเดินทางมาถึงเร็วกว่าปกติ วันนี้สีโปสการ์ดดูหม่นหมองไม่สดใส สีเหมือนบรรยากาศฟ้าฝนในยามนี้ ฉันตื่นเต้นจริงๆ ไม่เจอกันกว่าห้าปี เขาจะเป็นยังไง เปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ อ้วนหรือผอม ขาวขึ้นหรือคล้ำไป ความเป็นอยู่สุขสบายหรือไม่ ฉันได้แต่นับวันรอ..ที่จะเจอเขา
ครั้งนี้ครั้งแรกที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว..ฉันอยากจะถามเขาด้วยตัวเอง อยากพบ อยากพูด อยากคุยกับเขาแบบตัวเป็นๆ
. . .15 กันยายน 2013. . .
. . . ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี . . .
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
ฉันเก็บโปสการ์ดทั้งเจ็ดใบลงกล่องไปพร้อมกับไดอารีเล่มโปรด
พร้อมกับความตั้งใจว่าจะไม่สนใจมันอีก…
หลังจากที่เขาและภรรยากลับไปแล้ว..เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นภรรยาของเขา ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวสองสีค่อนข้างแห้งคล้ำเล็กน้อย เธอดูใจดี คุยสนุกถึงจะดูร่างกายอ่อนแอไม่คอยมีแรงมากเท่าไหร่..
เธอป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ ร่างกายซูบผอมของทั้งเขาและเธอ ฉันรู้ดีว่าคงเหนื่อยและลำบากไม่น้อย นับจากคราวนั้นที่ได้ข่าวว่าภรรยาคนแรกของเขาป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดและเสียชีวิตขณะที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น...
ฉันคว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดออกจากบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงแตรรถดังหน้าบ้าน ใครบางคนกำลังรอฉันอยู่ตรงนั้น..ฉันให้สัญญากับตัวเองว่า..ฉันจะก้าวต่อไป..
ไดอารี่รัก..ฉบับ '...เ พื่ อ น เ ก่ า...'
หยาดฝนโปรยปรายต่อเนื่องไม่ขาดสายท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆสีเทาแผ่บริเวณกว้างปกคลุมสีฟ้าที่สดใสให้มืดมิด..มืดมิด..เหมือนหัวใจใครบางคนที่กำลังแห้งแล้งเหลือเกิน...
โปสการ์ดใบใหม่ถูกส่งมาถึงมือผู้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า โปสการ์ดแสนสวยที่มีร่องรอยชื้นเป็นวงกว้างพร้อมน้ำหมึกที่เริ่มเจือจางจนอ่านแทบไม่ได้ แต่กลับจำได้ดีถึงแม้ว่าจะต้องเดาตัวอักษรบางตัวไปบ้าง..กับลายมือนั้นที่จำได้ไม่ลืม...พร้อมข้อความว่า..
‘...ถ่ายทำสารคดีอยู่ที่ฝาง...สบายดี’
ข้อความสั้นที่สุดถูกส่งมาเป็นฉบับแรก หลังการจากกันของเรา..ฉันอ่านข้อความในโปสการ์ดสีน้ำตาลเป็นภาพทิวทัศน์แม่น้ำสายเล็กอุดมไปด้วยหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ ด้วยใจเต้นระทึก ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอกันหนึ่งปีเต็มหลังจากวันที่เดียวกันกับที่ลงบันทึกไว้บนโปสการ์ดนั้นวันที่เขาส่งมา..วันนั้น..ตรงกับวันที่เรา..เลิกกัน
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว..ทำได้แค่นั้นจริงๆ
‘แต่งงานแล้ว...เป็นเขยลิ้นจี่...อยู่ที่ฝางเหมือนเดิม’
หลังจากจบข้อความสั้นเหมือนเคย ฉันได้รับโปสการ์ดใบนั้นที่เป็นภาพทิวทัศน์ไร่ลิ้นจี่เมืองฝาง คิดอยู่ว่าน่าจะเป็นโปสการ์ดทำมือจากภาพถ่ายฝีมือเขา สีสันสดใสของภาพทำให้ฉันทั้งนึกยินดีและเศร้าใจไปด้วย..รู้สึกตัวว่าฉันกำลังเสียใจที่เขาพบคนที่ถูกใจจนสามารถเดินทางไปด้วยกันแล้ว...อย่างนั้น...
ข้อความสั้นๆ ที่ฉันจดบันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว
อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกันถึงจะใจหาย..แต่ฉันรู้สึกดีใจกับพวกเขานะ
‘ภรรยาฉันกำลังป่วย...มารักษาที่สวนดอกอยู่...สบายดีนะ’
สบายดีนะ..คำแรกที่ถูกส่งมาหลังจากการจากกันสามปีของเรา ถูกแนบท้ายหลังจากประโยคที่ว่าเธอป่วย ถ้อยคำสั้นๆเหมือนเดิมแต่ทำให้ฉันนึกสงสัย..เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาเธอป่วยเป็นอะไรถึงกับต้อง..รักษาตัว
ฉันอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตของพวกเขาสองคน..จริงๆ
‘เธอจากไปแล้วไม่กี่วันก่อน..ฉันอาจจะกลับบ้าน..คิดถึงเธอนะ’
คิดถึงเธอนะ..คำสั้นๆอีกแล้ว ถูกส่งมาหลังจากหนึ่งปีนับจากโปสการ์ดฉบับล่าสุด ภาพฝนฟรำท่ามกลางท้องนาเวิ้งว้างดูเศร้าเหมือนเขาในตอนนี้ อธิบายเป็นความรู้สึกไม่ได้รู้แต่เพียงว่า..ฉันเป็นห่วงเขา
‘ตอนนี้อยู่เชียงใหม่..เปิดแกลลอรี่เล็กๆ..มาเที่ยวสิ’
มาเที่ยวสิ..เขาชวนฉัน..ชั่ววูบหนึ่งที่รู้สึกดีใจ อยากเห็นความฝันของเขาเป็นรูปเป็นร่างมานาน แกลลอรี่เล็กๆในฝันเขาทำได้จริงเสียด้วย ภาพแกลลอรีไม้สีขาวสะอาดตาหน้าโปสการ์ดทำมือที่คิดว่าเป็นฝีมือเขา ทำให้ฉันอดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ แต่เพราะภารกิจการงาน..ฉันไม่สามารถไปได้จริงๆ
รู้สึกมีความหวังกับบางอย่างขึ้นมา..อีกครั้ง
‘แต่งครั้งที่สอง..กับสาวเชียงใหม่ หน้าตาคล้ายเธอเลย เอาไว้ปีหน้า..จะพามาหา’
จะพามาหา..งั้นเหรอ อุตส่าห์ดีใจที่ข้อความยาวขึ้นเล็กน้อย แต่หัวใจกลับห่อเหี่ยวอยู่ดี เพื่อนเก่า คนรักเก่าของฉันเป็นโรคขาดความรักไม่ได้เสียกระมัง ฉันควรจะทำยังไงดีเมื่อรู้ตัวว่ากำลังหมดหวัง.อีกครั้ง
หมดความหวังว่าเขาจะกลับมา ฉันว่าจะเลิกรอคอย
ตลอดห้าปีที่ผ่านมาฉันจะเลิก..รอคอย
‘จะมาหาวันที่ 15..จะพาภรรยามาให้รู้จัก..อยากเจอมาก..รอด้วยนะ’
ฉันนึกแปลกใจกับระยะเวลาที่บันทึกในโปสการ์ดและการเดินทางมาถึงเร็วกว่าปกติ วันนี้สีโปสการ์ดดูหม่นหมองไม่สดใส สีเหมือนบรรยากาศฟ้าฝนในยามนี้ ฉันตื่นเต้นจริงๆ ไม่เจอกันกว่าห้าปี เขาจะเป็นยังไง เปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ อ้วนหรือผอม ขาวขึ้นหรือคล้ำไป ความเป็นอยู่สุขสบายหรือไม่ ฉันได้แต่นับวันรอ..ที่จะเจอเขา
ครั้งนี้ครั้งแรกที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ในไดอารีส่วนตัว..ฉันอยากจะถามเขาด้วยตัวเอง อยากพบ อยากพูด อยากคุยกับเขาแบบตัวเป็นๆ
. . . ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี . . .
ฉันเก็บโปสการ์ดทั้งเจ็ดใบลงกล่องไปพร้อมกับไดอารีเล่มโปรด
พร้อมกับความตั้งใจว่าจะไม่สนใจมันอีก…
หลังจากที่เขาและภรรยากลับไปแล้ว..เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นภรรยาของเขา ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวสองสีค่อนข้างแห้งคล้ำเล็กน้อย เธอดูใจดี คุยสนุกถึงจะดูร่างกายอ่อนแอไม่คอยมีแรงมากเท่าไหร่..
เธอป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไตทุกสัปดาห์ ร่างกายซูบผอมของทั้งเขาและเธอ ฉันรู้ดีว่าคงเหนื่อยและลำบากไม่น้อย นับจากคราวนั้นที่ได้ข่าวว่าภรรยาคนแรกของเขาป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดและเสียชีวิตขณะที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น...
ฉันคว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดออกจากบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงแตรรถดังหน้าบ้าน ใครบางคนกำลังรอฉันอยู่ตรงนั้น..ฉันให้สัญญากับตัวเองว่า..ฉันจะก้าวต่อไป..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้