ลอง หัดนั่งสมาธิ แบบอ่านหนังสือผ่าน ๆ แต่ไม่เข้าใจว่า นั่งแบบวิปัสสนากรรมฐาน กับ ฌารสมาบัติ ต้องกำหนดจิตอย่างไร
หลังจาก เที่ยงคือ ผมจะเริ่มนั่งสมาธิ โดยจะกำหนดลมหายใจเข้าออก และ กำหนดจิดให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก เข้าพุทธ ออกโธ
นั่งได้ประมาณ 30 - 50 นาที่ของทุกๆ บางคืน และระหว่างนั่ง ก็ จิตมีคิดไปถึงเรื่อง อดีตๆที่ผ่าน มาของแต่ละวันบ้าง แล้วก็ดึงจิตกลับมา ที่ลมหายใจเข้าออก ทุกที ไม่สามารถบังคับไม่ให้คิดเรืองอดีตได้ แต่พอรุ้ว่าจิตไปคิดเรื่องนี้ เรื่องนั้น ก็ รีบ กำหนดจิตกลับเข้ามาเฝ้ามาองที่ลมหายใจเข้าออก เป็นอย่างนี้ เรื่องไป โดด พยายามนั่งไม่ให้ เกรง และ ทุกครั้งที่ รูสึกว่า ตัวเอง เกรง ก็จะ ไปผ่อนที่ลมหายใจให้ หายใจแบบผ่อนคลาย เพื่อนที่จะลดอาการ การนั่งเกรง เพราะเมื่อเกรง แล้ว จะไปปวดหัว ผม เข้าใจว่า การนั่งสามธิ เป็นไปหนทาง ดับทุกข์ บรรทัดฐานของผม จึงเป็น นั่งให้สาบาย ความฟุ้งซ่านและลังเลสงสัย ไม่ควรจะ มารบกวนจิตใจขณะ เรานั่ง สมาธิ ทุกครั้งที่ผม นั่งและเกรง นั่งและ ฝืนผมจะหยุดพัก เปลียน อิริยาบท แล้ว ก็ค่อยประคองสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ต่อไป จน พอคิดว่า จะออกจากสมาธิ ผมก็จะ ประคองต่อ อีก 10 นาที เพื่อนที่จะ สู้กับความขี้เกียจ จังหวะนี้ ทั้งเกรงทั้งอยากจะลืมตา ทรมานนิดนึง แต่ก็พยายามฝืน และ ก็ แผ่เมตตาให้ สรรพสิ่ง เทวดา สัตว์ สัมภเวสี แล้วจึงหยุดนั่ง
ความรู้สึกหลังจากนั่ง รุ้สึกว่า ร่างกาย ค่อยๆ กลับ มาทำงาน เป็นปรกติ เริ่มจาก ใบหน้าอาการปวดเมื่อร่างกาย หรือ เววตา ผมคิดไปเองว่า เราเริ่มมีราศี ขึ้น ไม่มาก แต่ ก็ รู้สึกว่า ออลร่ามีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่ เรารับรู้ได้ด้วยความรู้สึก ทุกอย่างบอกถึง ความเข็งแรง ทั้งร่างกาย และ แข้งแรงทางด้านจิตใจ หลังๆๆ ผมทำกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านเสร็จ พอได้เวลา จิต ก็จะ อยากนั่ง สมาธิเอง แค่ กำหนดจิตให้นั่ง และ จิตที่ขี้เกียจ เท่านั้น เอง ผมก็เริ่มนั่งได้ เป็นประจำ ตอนนี้ผมพยายามรักษา ห้วงช่วงเวลาในการนั่ง ให้เป็น ประจำ ไปได้คิดว่า การนั่งสมธิจะทำให้ผมมีอะไรใหม่ แต่ ผม รู้สึกว่า อย่าก พักใจพักจิต โดยการนั่งสมาธิเท่านัน
ลอง หัดนั่งสมาธิ แบบอ่านหนังสือผ่าน ๆ แต่ไม่เข้าใจว่า นั่งแบบวิปัสสนากรรมฐาน กับ ฌารสมาบัติ ต้องกำหนดจิตอย่างไร
หลังจาก เที่ยงคือ ผมจะเริ่มนั่งสมาธิ โดยจะกำหนดลมหายใจเข้าออก และ กำหนดจิดให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก เข้าพุทธ ออกโธ
นั่งได้ประมาณ 30 - 50 นาที่ของทุกๆ บางคืน และระหว่างนั่ง ก็ จิตมีคิดไปถึงเรื่อง อดีตๆที่ผ่าน มาของแต่ละวันบ้าง แล้วก็ดึงจิตกลับมา ที่ลมหายใจเข้าออก ทุกที ไม่สามารถบังคับไม่ให้คิดเรืองอดีตได้ แต่พอรุ้ว่าจิตไปคิดเรื่องนี้ เรื่องนั้น ก็ รีบ กำหนดจิตกลับเข้ามาเฝ้ามาองที่ลมหายใจเข้าออก เป็นอย่างนี้ เรื่องไป โดด พยายามนั่งไม่ให้ เกรง และ ทุกครั้งที่ รูสึกว่า ตัวเอง เกรง ก็จะ ไปผ่อนที่ลมหายใจให้ หายใจแบบผ่อนคลาย เพื่อนที่จะลดอาการ การนั่งเกรง เพราะเมื่อเกรง แล้ว จะไปปวดหัว ผม เข้าใจว่า การนั่งสามธิ เป็นไปหนทาง ดับทุกข์ บรรทัดฐานของผม จึงเป็น นั่งให้สาบาย ความฟุ้งซ่านและลังเลสงสัย ไม่ควรจะ มารบกวนจิตใจขณะ เรานั่ง สมาธิ ทุกครั้งที่ผม นั่งและเกรง นั่งและ ฝืนผมจะหยุดพัก เปลียน อิริยาบท แล้ว ก็ค่อยประคองสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ต่อไป จน พอคิดว่า จะออกจากสมาธิ ผมก็จะ ประคองต่อ อีก 10 นาที เพื่อนที่จะ สู้กับความขี้เกียจ จังหวะนี้ ทั้งเกรงทั้งอยากจะลืมตา ทรมานนิดนึง แต่ก็พยายามฝืน และ ก็ แผ่เมตตาให้ สรรพสิ่ง เทวดา สัตว์ สัมภเวสี แล้วจึงหยุดนั่ง
ความรู้สึกหลังจากนั่ง รุ้สึกว่า ร่างกาย ค่อยๆ กลับ มาทำงาน เป็นปรกติ เริ่มจาก ใบหน้าอาการปวดเมื่อร่างกาย หรือ เววตา ผมคิดไปเองว่า เราเริ่มมีราศี ขึ้น ไม่มาก แต่ ก็ รู้สึกว่า ออลร่ามีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่ เรารับรู้ได้ด้วยความรู้สึก ทุกอย่างบอกถึง ความเข็งแรง ทั้งร่างกาย และ แข้งแรงทางด้านจิตใจ หลังๆๆ ผมทำกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านเสร็จ พอได้เวลา จิต ก็จะ อยากนั่ง สมาธิเอง แค่ กำหนดจิตให้นั่ง และ จิตที่ขี้เกียจ เท่านั้น เอง ผมก็เริ่มนั่งได้ เป็นประจำ ตอนนี้ผมพยายามรักษา ห้วงช่วงเวลาในการนั่ง ให้เป็น ประจำ ไปได้คิดว่า การนั่งสมธิจะทำให้ผมมีอะไรใหม่ แต่ ผม รู้สึกว่า อย่าก พักใจพักจิต โดยการนั่งสมาธิเท่านัน