-ต่อจากตอนที่แล้ว โจอิจิโร่ก็ขู่โซมะว่า เขาอยากจะดูว่าลูกชายตัวเองเก่งขึ้นแค่ไหน หรือไม่ก็ไม่เก่งขึ้นเลยสักนิด ทำให้โซมะแขวะว่า พ่อตัวเองกลับมาเพราะเหตุผลแค่นี้เองเหรอ ซึ่งโจอิจิโร่เองก็ถามออกไปว่า สรุปแล้วจะแข่งหรือไม่แข่งละ
-ซึ่งโซมะก็ตอบออกไปว่า "ก็ต้องแข่งแน่นอนอยู่แล้วสิ!"
-โจอิจิโร่เลยถามออกไปว่า กรรมการกับหัวข้อของการแข่งจะเอายังไงดี...ว่าแล้วก็หันไปตะโกนถามว่า กรรมการอยากจะกินอะไรละ ซึ่งคุณฟูมิโอะก็โผล่ออกมาแล้วบอกว่า ไอ้การกระหายอยากจะแข่งนี้มันอยู่ในสายเลือดสินะ ตรงนี้พ่อลูกเหมือนกันเปี้ยบเลย ซึ่งฟูมิโอะก็บอกโซมะว่าโจอิจิโร่ขอร้องเธอไว้เมื่อคืนว่าอยากจะแข่ง เธอก็เลยตัดสินใจมาเป็นกรรมการให้ ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิเองก็บอกว่า นี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเลย
-ซึ่งพอเห็นอิชิกิที่จู่ๆโผล่มาก็ทำให้คุณฟุมิโอะตกใจ แล้วถามว่าโผล่มาที่นี้ได้ยังไง(โซมะเองก็ด้วย เพราะพี่แกมาเนียนแบบจู่ๆก็โผล่มาเลย) ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิก็บอกว่า ระหว่างทางที่กลับมาจากสวนผัก เขาได้กลิ่นของการแข่งที่น่าสนใจลอยมานะสิ ทำให้โซมะถึงกับตะลึงเลยว่ากลิ่นงั้นเรอะ? ลงเป็นแบบนี้แล้ว คุณฟุมิโอะก็เลยเอ่ยว่า ถ้ารวมอิชิกิเข้าไปด้วย ก็ต้องหากรรมการอีกคนให้เป็นเลขคี่จะได้ตัดสินใจได้ ในตอนนั้นเอง เมงุมิก็เดินงัวเงียลงมาหาน้ำกินพอดี
-โซมะเห็นหน้าเมงุมิที่เหมือนคนอดนอนก็เลยถามว่าไปทำอะไรมา ซึ่งเธอก็ตอบว่า เธอมัวแต่คิดเรื่องงานประกวดอยู่ทั้งคืนจนไม่ได้นอน ทำให้โซมะถึงกับอึ้งว่า ยังเหลือเวลาอีกตั้งเดือนแต่เมงุมิก็กังวลขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย คุณฟุมิโอะเห็นดังนั้นเลยจับเอาเมงุมิมาเป็นกรรมการอีกคนด้วยซะเลย พร้อมกับบอกหัวข้อการแข่งขันไปว่า เอาเป็นให้ทำอาหารที่"ให้พลังงานได้ตลอดทั้งวัน"ก็แล้วกัน
-ซึ่งคุณฟุมิโอะก็บอกว่ามีเวลาจำกัดหนึ่งชั่วโมง ทุกอย่างในครัวนี้ใช้ได้เต็มที่ ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มได้! ซึ่งโซมะเองก็หยิบผ้าโพกหัวขึ้นมาคาดทันที ด้านเมงุมิที่พึ่งจะเริ่มจับใจความได้ว่าตัวเองโดนลากมาเป็นกรรมการด้วยก็ถามโซมะว่า เขามั่นใจว่าจะเอาชนะพ่อของตัวเองได้เหรอ? เพราะว่าโจอิจิโร่เป็นถึงอดีตสิบสุดยอดมาก่อนเลยนะ แต่โซมะก็ตอบไปว่า ชนะได้หรือไม่เขาก็ไม่รู้ แต่เขาก็แข่งกับพ่อของตัวเองแบบนี้ทุกวันในร้านยูกิฮิระ และเริ่มแข่งตั้งแต่ยังอยู่ป.6 ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นเมงุมิก็เอ่ยว่าสมกับเป็นโซมะคุงดีนะ
-ซึ่งเมงุมิก็ถามออกมาว่า ถ้าแข่งกันตั้งแต่ตอนนั้นโซมะคุงคงเคยเอาชนะมาได้บ้างสินะ แต่ก็โดนโจอิจิโร่ตัดว่า แพ้รวดมาเกือบ500ครั้ง ทำให้โซมะต้องแก้ว่า แค่489ครั้งต่างหาก! ด้านฟุมิโอะเองก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนเมื่อวานที่โจอิจิโร่มาขอให้เธอมาเป็นกรรมการ ซึ่งเธอก็บอกว่ายินดี ถ้าเกิดจะได้เห็นโจอิจิโร่ในการแข่งขันอีกครั้ง แต่อย่าออมมือเพราะโซมะเป็นลูกของตัวเองเชียวละ ซึ่งโจอิจิโร่ก็บอกว่า เขาไม่เคยออมมือให้โซมะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
-ตัดกลับมาที่การแข่ง โซมะก็เลือกอาหารที่คิดว่าไม่น่าจะหนักไปและกินง่าย ว่าแล้วเขาก็หยิบแอปเปิลออกมาทันที ทำให้เมงุมิถึงกับลุ้นว่าโซมะเริ่มลงมือแล้ว แถมยังดูมั่นใจมากด้วย ส่วนรุ่นพี่อิชิกิก็คิดขึ้นมาว่า เพราะแบบนี้นิเอง โซมะคุงถึงไม่เคยกลัวในการแข่งกับคนที่เก่งกว่าเลยสักนิด เขามีความมั่นใจมาก เพราะว่าเขาผ่านการแข่งกับคนที่ฝีมือแตกต่างกันแบบลิบลับอย่างพ่อตัวเองมาทุกวันนั่นเอง แถมยังแพ้มาตั้ง489ครั้งแต่ความมั่นใจกับความตั้งมั่นของโซมะในการทำอาหารแข่งกับพ่อตัวเองก็ดูเหมือนจะไม่ตกลงไปสักนิดเลยด้วย ว่าแล้วก็เหลือเวลาอีก15นาทีสุดท้าย ใครกันแน่ที่จะทำเสร็จก่อน ผลออกมาก็เป็นโซมะที่ทำออกมาเสร็จก่อนและเสิร์ฟก่อน
-ซึ่งอาหารของโซมะก็คือ"แอปเปิลรีซอตโต้" ด้านคุณฟุมิโอะเองก็คิดว่า การใส่ผลไม้ลงในรีซอสโต้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเท่าไรเลย ทำไมโซมะถึงทำอาหารแบบนี้ออกมา หรือว่าในจานนี้จะมีเซอร์ไพรซ์อะไรอยู่?
(รีซอสโต้ คือชื่ออาหารของอิตาเลี่ยน จะเป็นเมนูจานข้าวที่นำเอาข้าวอิตาเลี่ยนอย่างอาโบริโอ้หุงในหม้อโดยไม่ปิดฝากับครีม น้ำสต็อกหรือนม จากนั้นโรยด้วยชีสปิดท้าย สภาพจะเหมือนกับข้าวต้มกุ้ยที่แฉะนิดๆ แต่ข้าวจะกรุบๆไม่สุก100%(อังดันเต้แบบเดียวกับพาสต้าคือข้างในจะเป็นไตอยู่) รสชาติจะแตกต่างกันไป แต่ถ้าจินตนาการไม่ออกให้ลองนึกภาพพาสต้าที่เปลี่ยนเส้นเป็นข้าวดู จัดเป็นอาหารที่ทำกินกันง่ายๆในอิตาเลี่ยน เพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยาก)
-ซึ่งเมงุมิก็ชอมว่าท่าทางจะเปรี้ยวอมหวานนิดๆสินะ แถมมีกลิ่นเลมอนติดมาด้วย ซึ่งอิชิกิก็บอกว่าใช่ เป็นอาหารที่มีกลิ่นกระตุ้นความน่ากินและใช้กลิ่นเปรี้ยวแก้อาการง่วงซึมได้เป็นอย่างดี แล้วรสชาติละจะเป็นยังไง
-ซึ่งเมงุมิพอกินเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงรสชาติความกรุบกรอบของแอบเปิลและความเปรี้ยวที่แผ่ซ่านไปทั่วจาน รสชาติของเบคอนกรอบกับหอมใหญ่นุ่มๆที่ลงตัว ราวกับว่าอาหารจานนี้ค่อยๆปลุกเธอที่อยู่ในภาวะหลับใหลจากนิทราอันยาวนานขึ้นมา
-ด้วยจุมพิตของเจ้าชายแอปเปิล
-ซึ่งโซมะก็บอกว่า ถ้าชอบพริกไทยดำเพิ่มก็เติมกันได้ตามสะดวกเลย ซึ่งคุณฟุมิโอะก็ลองดูแล้วบอกว่ารสชาติเปรี้ยวหวานจางๆของแอปเปิลเข้ากันได้ดีกับรสเผ็ดนิดๆของพริกไทยดำ แถมสีที่ขาวของรีซอสโต้ก็ยังตัดกับสีดำของพริกไทยอีก ดุจราวกับกำลังเต้นวอลซ์อยู่ไม่ก็ปาน
(การเต้นวอลซ์นั้น ปกติผู้ชายจะใส่ทักซิโด้ดำและผู้หญิงจะเป็นเดรสขาวครับ ซึ่งถ้าดูจากรีแอคชั่นของเมงุมิในชุดสโนว์ไวท์กับการเล่นคำว่าวอลซ์ รีแอคชั่นตอนนี้ก็น่าจะล้อ วอลท์ ดิสนีย์ นั้นแหละ)
-ซึ่งเมงุมิเมื่อยิ่งกินก็ยิ่งรู้สึกถึงความฉุ่มของข้าวที่แผ่ซ่านเข้าไปในปาก ด้านคุณฟุมิโอะก็บอกว่า เป็นอาหารที่ได้ทั้งวิตามิน ไขมันและคาร์โบไฮเดรตอย่างครบถ้วน แถมข้าวยังหุงสุกแบบอังดันเต้ซึ่งดีต่อกระเพาะอีกด้วย ส่วนรุ่นพี่อิชิกิก็สงสัย ว่าโซมะทำได้ยังไง เพราะการหั่นแอปเปิลเป็นชิ้นๆแบบนี้และเอาไปต้ม แอปเปิลน่าจะต้องเละและแตก ไม่น่าจะคงชิ้นแบบนี้ได้ และถ้าต้มไม่นานก็จะไม่ได้รสหวานออกมา
-ซึ่งโซมะก็เฉลยเคล็ดลับว่าเขาใช้น้ำแอปเปิลในการช่วย ซึ่งเขาค่อยๆเติมน้ำแอปเปิลไปทีละนิดในตอนที่หุงข้าวและหอมใหญ่ในหม้อ(เดาว่าใช้น้ำแอปเปิลคู่กับสต็อกในการทำรีซอสโต้) หลังจากนั้นพอข้าวใกล้สุก ก็ใส่แอปเปิลตามลงไปทีหลังให้ได้รับความร้อนเล็กน้อย วิธีนี้จะทำให้เนื้อสัมผัสของแอปเปิลยังคงกรุบกรอบอยู่ แต่รสหวานของแอปเปิลแผ่ซ่าน ซึ่งอิชิกิก็บอกว่า รสหวานที่กระจายทั่วจานไม่ใช่รสหวานจากเนื้อแอปเปิลแต่เป็นรสหวานจากน้ำแอปเปิลสินะ
-ซี่งคุณฟูมิโอะก็ชมเชยว่า เป็นจานที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถตอบโจทย์เธอได้ครบทุกอย่าง ดีไม่ดีอาจจะไม่มีจานไหนที่อาจจะดีไปกว่าอาหารจานนี้อีกแล้วก็ได้...แต่พอคิดแบบนั้น..."อาชูร่า"ก็เดินเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟ
-ซึ่งโจอิจิโร่ก็บอกว่า ขอโทษที่ให้รอนาน ได้คุณฟูมิโอะเองก็คิดว่า บรรยากาศแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาหารของโซมะที่คิดว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว อาจจะโดนอาหารของอาชูร่า ก้าวข้ามเอาชนะไปอย่างง่ายดายเลยก็เป็นได้
จบตอน
เชื่อว่าแทบทุกคนก็คงคิดไม่ผิดว่าโซมะน่าจะแพ้แน่ๆ รวมถึงผมด้วย ถึงแอปเปิลรีซอสโต้จะเป็นอาหารที่ดีแต่ผมเองก็คิดว่ามันเป็นอาหารที่ค่อนข้างง่ายไป รีซอสโต้เป็นอาหารที่หุงข้าวกับน้ำสต็อก นมหรือไม่ก็ครีม เป็นส่วนใหญ่(แต่ก็มีบางที่ใช้พวกซอสมะเขือเทศหรือเพรสโต้ ซึ่งจะให้รสที่สัมผัสต่างไป) ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่ค่อนข้างจะหนักสำหรับมือเช้า ให้พลังสูงก็จริงแต่สำหรับคนเอเชียที่ไม่คุ้นกับนม หรือครีมอาจจะเลี่ยนได้ง่ายๆ แต่โซมะก็แก้จุดนั้นได้โดยใช้ความเปรี้ยวของแอปเปิลเข้ามาช่วย เลยทำให้เป็นอาหารที่กินง่ายและให้พลังงานสูง
ตัวผมเองเคยทำจานคล้ายๆแบบนี้อยู่ แต่ไม่ได้ใช้น้ำแอปเปิลกับเบค่อน แต่ใช้วิธีต้มแอปเปิลทั้งเปลือกและไม่หั่นชิ้นเล็กแต่หันใหญ่ๆเอา ตัวแอปเปิลจะออกหวานมากกว่าเปรี้ยว แต่ก็สามารถกินตัดรสกับครีม ข้าวและนมได้เป็นอย่างดีเหมือนกัน
ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตอนนี้โซมะทำอาหารฝรั่งออกมา แต่ก็ยังอยู่ในหมวดอาหารทำง่ายๆทั่วๆไปตามคอนเซ็ปต์ของตัวเองคือเติมความแปลกใหม่ให้กับของพื้นๆไม่ก็อาหารที่ดูมีลูกเล่นอยู่ในตัว (รีซอสโต้สำหรับคนอิตาเลี่ยนแล้วก็ถือว่าเป็นอาหารง่ายๆไม่พิสดารอะไร) เป็นอาหารที่กรรมวิธีไม่ยุ่งยากทำเสร็จได้ในขั้นตอนเดียวด้วย คือการต้มในหม้อนั้นเอง
สำหรับตอนหน้า พบกับหน้าสี(อีกแล้ว) มาลุ้นกันว่าโจอิจิโร่จะทำอาหารอะไรออกมา และรีแอคชั่นจะเป็นแบบไหน!
<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 42 -จูบปลุกรับอรุณ-
-ซึ่งโซมะก็ตอบออกไปว่า "ก็ต้องแข่งแน่นอนอยู่แล้วสิ!"
-โจอิจิโร่เลยถามออกไปว่า กรรมการกับหัวข้อของการแข่งจะเอายังไงดี...ว่าแล้วก็หันไปตะโกนถามว่า กรรมการอยากจะกินอะไรละ ซึ่งคุณฟูมิโอะก็โผล่ออกมาแล้วบอกว่า ไอ้การกระหายอยากจะแข่งนี้มันอยู่ในสายเลือดสินะ ตรงนี้พ่อลูกเหมือนกันเปี้ยบเลย ซึ่งฟูมิโอะก็บอกโซมะว่าโจอิจิโร่ขอร้องเธอไว้เมื่อคืนว่าอยากจะแข่ง เธอก็เลยตัดสินใจมาเป็นกรรมการให้ ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิเองก็บอกว่า นี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเลย
-ซึ่งพอเห็นอิชิกิที่จู่ๆโผล่มาก็ทำให้คุณฟุมิโอะตกใจ แล้วถามว่าโผล่มาที่นี้ได้ยังไง(โซมะเองก็ด้วย เพราะพี่แกมาเนียนแบบจู่ๆก็โผล่มาเลย) ซึ่งรุ่นพี่อิชิกิก็บอกว่า ระหว่างทางที่กลับมาจากสวนผัก เขาได้กลิ่นของการแข่งที่น่าสนใจลอยมานะสิ ทำให้โซมะถึงกับตะลึงเลยว่ากลิ่นงั้นเรอะ? ลงเป็นแบบนี้แล้ว คุณฟุมิโอะก็เลยเอ่ยว่า ถ้ารวมอิชิกิเข้าไปด้วย ก็ต้องหากรรมการอีกคนให้เป็นเลขคี่จะได้ตัดสินใจได้ ในตอนนั้นเอง เมงุมิก็เดินงัวเงียลงมาหาน้ำกินพอดี
-โซมะเห็นหน้าเมงุมิที่เหมือนคนอดนอนก็เลยถามว่าไปทำอะไรมา ซึ่งเธอก็ตอบว่า เธอมัวแต่คิดเรื่องงานประกวดอยู่ทั้งคืนจนไม่ได้นอน ทำให้โซมะถึงกับอึ้งว่า ยังเหลือเวลาอีกตั้งเดือนแต่เมงุมิก็กังวลขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย คุณฟุมิโอะเห็นดังนั้นเลยจับเอาเมงุมิมาเป็นกรรมการอีกคนด้วยซะเลย พร้อมกับบอกหัวข้อการแข่งขันไปว่า เอาเป็นให้ทำอาหารที่"ให้พลังงานได้ตลอดทั้งวัน"ก็แล้วกัน
-ซึ่งคุณฟุมิโอะก็บอกว่ามีเวลาจำกัดหนึ่งชั่วโมง ทุกอย่างในครัวนี้ใช้ได้เต็มที่ ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มได้! ซึ่งโซมะเองก็หยิบผ้าโพกหัวขึ้นมาคาดทันที ด้านเมงุมิที่พึ่งจะเริ่มจับใจความได้ว่าตัวเองโดนลากมาเป็นกรรมการด้วยก็ถามโซมะว่า เขามั่นใจว่าจะเอาชนะพ่อของตัวเองได้เหรอ? เพราะว่าโจอิจิโร่เป็นถึงอดีตสิบสุดยอดมาก่อนเลยนะ แต่โซมะก็ตอบไปว่า ชนะได้หรือไม่เขาก็ไม่รู้ แต่เขาก็แข่งกับพ่อของตัวเองแบบนี้ทุกวันในร้านยูกิฮิระ และเริ่มแข่งตั้งแต่ยังอยู่ป.6 ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นเมงุมิก็เอ่ยว่าสมกับเป็นโซมะคุงดีนะ
-ซึ่งเมงุมิก็ถามออกมาว่า ถ้าแข่งกันตั้งแต่ตอนนั้นโซมะคุงคงเคยเอาชนะมาได้บ้างสินะ แต่ก็โดนโจอิจิโร่ตัดว่า แพ้รวดมาเกือบ500ครั้ง ทำให้โซมะต้องแก้ว่า แค่489ครั้งต่างหาก! ด้านฟุมิโอะเองก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนเมื่อวานที่โจอิจิโร่มาขอให้เธอมาเป็นกรรมการ ซึ่งเธอก็บอกว่ายินดี ถ้าเกิดจะได้เห็นโจอิจิโร่ในการแข่งขันอีกครั้ง แต่อย่าออมมือเพราะโซมะเป็นลูกของตัวเองเชียวละ ซึ่งโจอิจิโร่ก็บอกว่า เขาไม่เคยออมมือให้โซมะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
-ตัดกลับมาที่การแข่ง โซมะก็เลือกอาหารที่คิดว่าไม่น่าจะหนักไปและกินง่าย ว่าแล้วเขาก็หยิบแอปเปิลออกมาทันที ทำให้เมงุมิถึงกับลุ้นว่าโซมะเริ่มลงมือแล้ว แถมยังดูมั่นใจมากด้วย ส่วนรุ่นพี่อิชิกิก็คิดขึ้นมาว่า เพราะแบบนี้นิเอง โซมะคุงถึงไม่เคยกลัวในการแข่งกับคนที่เก่งกว่าเลยสักนิด เขามีความมั่นใจมาก เพราะว่าเขาผ่านการแข่งกับคนที่ฝีมือแตกต่างกันแบบลิบลับอย่างพ่อตัวเองมาทุกวันนั่นเอง แถมยังแพ้มาตั้ง489ครั้งแต่ความมั่นใจกับความตั้งมั่นของโซมะในการทำอาหารแข่งกับพ่อตัวเองก็ดูเหมือนจะไม่ตกลงไปสักนิดเลยด้วย ว่าแล้วก็เหลือเวลาอีก15นาทีสุดท้าย ใครกันแน่ที่จะทำเสร็จก่อน ผลออกมาก็เป็นโซมะที่ทำออกมาเสร็จก่อนและเสิร์ฟก่อน
-ซึ่งอาหารของโซมะก็คือ"แอปเปิลรีซอตโต้" ด้านคุณฟุมิโอะเองก็คิดว่า การใส่ผลไม้ลงในรีซอสโต้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเท่าไรเลย ทำไมโซมะถึงทำอาหารแบบนี้ออกมา หรือว่าในจานนี้จะมีเซอร์ไพรซ์อะไรอยู่?
(รีซอสโต้ คือชื่ออาหารของอิตาเลี่ยน จะเป็นเมนูจานข้าวที่นำเอาข้าวอิตาเลี่ยนอย่างอาโบริโอ้หุงในหม้อโดยไม่ปิดฝากับครีม น้ำสต็อกหรือนม จากนั้นโรยด้วยชีสปิดท้าย สภาพจะเหมือนกับข้าวต้มกุ้ยที่แฉะนิดๆ แต่ข้าวจะกรุบๆไม่สุก100%(อังดันเต้แบบเดียวกับพาสต้าคือข้างในจะเป็นไตอยู่) รสชาติจะแตกต่างกันไป แต่ถ้าจินตนาการไม่ออกให้ลองนึกภาพพาสต้าที่เปลี่ยนเส้นเป็นข้าวดู จัดเป็นอาหารที่ทำกินกันง่ายๆในอิตาเลี่ยน เพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยาก)
-ซึ่งเมงุมิก็ชอมว่าท่าทางจะเปรี้ยวอมหวานนิดๆสินะ แถมมีกลิ่นเลมอนติดมาด้วย ซึ่งอิชิกิก็บอกว่าใช่ เป็นอาหารที่มีกลิ่นกระตุ้นความน่ากินและใช้กลิ่นเปรี้ยวแก้อาการง่วงซึมได้เป็นอย่างดี แล้วรสชาติละจะเป็นยังไง
-ซึ่งเมงุมิพอกินเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงรสชาติความกรุบกรอบของแอบเปิลและความเปรี้ยวที่แผ่ซ่านไปทั่วจาน รสชาติของเบคอนกรอบกับหอมใหญ่นุ่มๆที่ลงตัว ราวกับว่าอาหารจานนี้ค่อยๆปลุกเธอที่อยู่ในภาวะหลับใหลจากนิทราอันยาวนานขึ้นมา
-ด้วยจุมพิตของเจ้าชายแอปเปิล
-ซึ่งโซมะก็บอกว่า ถ้าชอบพริกไทยดำเพิ่มก็เติมกันได้ตามสะดวกเลย ซึ่งคุณฟุมิโอะก็ลองดูแล้วบอกว่ารสชาติเปรี้ยวหวานจางๆของแอปเปิลเข้ากันได้ดีกับรสเผ็ดนิดๆของพริกไทยดำ แถมสีที่ขาวของรีซอสโต้ก็ยังตัดกับสีดำของพริกไทยอีก ดุจราวกับกำลังเต้นวอลซ์อยู่ไม่ก็ปาน
(การเต้นวอลซ์นั้น ปกติผู้ชายจะใส่ทักซิโด้ดำและผู้หญิงจะเป็นเดรสขาวครับ ซึ่งถ้าดูจากรีแอคชั่นของเมงุมิในชุดสโนว์ไวท์กับการเล่นคำว่าวอลซ์ รีแอคชั่นตอนนี้ก็น่าจะล้อ วอลท์ ดิสนีย์ นั้นแหละ)
-ซึ่งเมงุมิเมื่อยิ่งกินก็ยิ่งรู้สึกถึงความฉุ่มของข้าวที่แผ่ซ่านเข้าไปในปาก ด้านคุณฟุมิโอะก็บอกว่า เป็นอาหารที่ได้ทั้งวิตามิน ไขมันและคาร์โบไฮเดรตอย่างครบถ้วน แถมข้าวยังหุงสุกแบบอังดันเต้ซึ่งดีต่อกระเพาะอีกด้วย ส่วนรุ่นพี่อิชิกิก็สงสัย ว่าโซมะทำได้ยังไง เพราะการหั่นแอปเปิลเป็นชิ้นๆแบบนี้และเอาไปต้ม แอปเปิลน่าจะต้องเละและแตก ไม่น่าจะคงชิ้นแบบนี้ได้ และถ้าต้มไม่นานก็จะไม่ได้รสหวานออกมา
-ซึ่งโซมะก็เฉลยเคล็ดลับว่าเขาใช้น้ำแอปเปิลในการช่วย ซึ่งเขาค่อยๆเติมน้ำแอปเปิลไปทีละนิดในตอนที่หุงข้าวและหอมใหญ่ในหม้อ(เดาว่าใช้น้ำแอปเปิลคู่กับสต็อกในการทำรีซอสโต้) หลังจากนั้นพอข้าวใกล้สุก ก็ใส่แอปเปิลตามลงไปทีหลังให้ได้รับความร้อนเล็กน้อย วิธีนี้จะทำให้เนื้อสัมผัสของแอปเปิลยังคงกรุบกรอบอยู่ แต่รสหวานของแอปเปิลแผ่ซ่าน ซึ่งอิชิกิก็บอกว่า รสหวานที่กระจายทั่วจานไม่ใช่รสหวานจากเนื้อแอปเปิลแต่เป็นรสหวานจากน้ำแอปเปิลสินะ
-ซี่งคุณฟูมิโอะก็ชมเชยว่า เป็นจานที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถตอบโจทย์เธอได้ครบทุกอย่าง ดีไม่ดีอาจจะไม่มีจานไหนที่อาจจะดีไปกว่าอาหารจานนี้อีกแล้วก็ได้...แต่พอคิดแบบนั้น..."อาชูร่า"ก็เดินเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟ
-ซึ่งโจอิจิโร่ก็บอกว่า ขอโทษที่ให้รอนาน ได้คุณฟูมิโอะเองก็คิดว่า บรรยากาศแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาหารของโซมะที่คิดว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว อาจจะโดนอาหารของอาชูร่า ก้าวข้ามเอาชนะไปอย่างง่ายดายเลยก็เป็นได้
จบตอน
เชื่อว่าแทบทุกคนก็คงคิดไม่ผิดว่าโซมะน่าจะแพ้แน่ๆ รวมถึงผมด้วย ถึงแอปเปิลรีซอสโต้จะเป็นอาหารที่ดีแต่ผมเองก็คิดว่ามันเป็นอาหารที่ค่อนข้างง่ายไป รีซอสโต้เป็นอาหารที่หุงข้าวกับน้ำสต็อก นมหรือไม่ก็ครีม เป็นส่วนใหญ่(แต่ก็มีบางที่ใช้พวกซอสมะเขือเทศหรือเพรสโต้ ซึ่งจะให้รสที่สัมผัสต่างไป) ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่ค่อนข้างจะหนักสำหรับมือเช้า ให้พลังสูงก็จริงแต่สำหรับคนเอเชียที่ไม่คุ้นกับนม หรือครีมอาจจะเลี่ยนได้ง่ายๆ แต่โซมะก็แก้จุดนั้นได้โดยใช้ความเปรี้ยวของแอปเปิลเข้ามาช่วย เลยทำให้เป็นอาหารที่กินง่ายและให้พลังงานสูง
ตัวผมเองเคยทำจานคล้ายๆแบบนี้อยู่ แต่ไม่ได้ใช้น้ำแอปเปิลกับเบค่อน แต่ใช้วิธีต้มแอปเปิลทั้งเปลือกและไม่หั่นชิ้นเล็กแต่หันใหญ่ๆเอา ตัวแอปเปิลจะออกหวานมากกว่าเปรี้ยว แต่ก็สามารถกินตัดรสกับครีม ข้าวและนมได้เป็นอย่างดีเหมือนกัน
ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตอนนี้โซมะทำอาหารฝรั่งออกมา แต่ก็ยังอยู่ในหมวดอาหารทำง่ายๆทั่วๆไปตามคอนเซ็ปต์ของตัวเองคือเติมความแปลกใหม่ให้กับของพื้นๆไม่ก็อาหารที่ดูมีลูกเล่นอยู่ในตัว (รีซอสโต้สำหรับคนอิตาเลี่ยนแล้วก็ถือว่าเป็นอาหารง่ายๆไม่พิสดารอะไร) เป็นอาหารที่กรรมวิธีไม่ยุ่งยากทำเสร็จได้ในขั้นตอนเดียวด้วย คือการต้มในหม้อนั้นเอง
สำหรับตอนหน้า พบกับหน้าสี(อีกแล้ว) มาลุ้นกันว่าโจอิจิโร่จะทำอาหารอะไรออกมา และรีแอคชั่นจะเป็นแบบไหน!