คำว่า "ความตาย" นี้เป็นการสมมติเรียกอาการของร่างกาย ที่จากเดิมเจริญเติบโตได้ เคลื่อนไหวได้ มีความอบอุ่น กินอาหารได้ พูดได้ รับรู้สิ่งต่างๆได้ ฯ แล้วเปลี่ยนไปเป็นตรงข้าม คือ ไม่เจริญเติบโต (แถมยังเน่าเปื่อยหรือแตกสลายอีก) ไม่เคลื่อนไหว เย็น ไม่กินอาหาร ไม่พูดจา ไม่รับรู้สิ่งใดๆ ฯ
ความตายก็เป็นความปกติหรือธรรมดาของร่างกายที่ไม่มีร่างกายใดจะหนีได้พ้นได้ เพราะร่ากายก็เป็นสิ่งปรุงแต่งมาจากรูปธาตุทั้ง ๔ คือธาตุดิน(ของแข็ง) ธาตุน้ำ(ของเหลว) ธาตุไฟ(ความร้อน) และธาตุลม(ก๊าซ) เมื่อร่างกายเป็นสิ่งปรุงแต่ง ดังนั้นมันจึงต้องตกอยู่ภายใต้ลักษณะ ๓ ประการอย่างไม่มีทางหลีกหนี คือ
๑. ไม่เที่ยงแท้ถาวร คือมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสุดท้ายไม่ช้าก็เร็วจะต้องแตกสลายหรือดับหายไปในที่สุด
๒. มีสภาวะที่ต้องทนประคับประคองตัวของมันเอาไว้ด้วยความยากลำบากอยู่ตลอดเวลา
๓. ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
สรุปว่า ร่างกายไม่มีทางที่จะไม่ตายได้ หรือเป็นอมตะไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติ(หรือบางคนเรียกว่าพระเจ้า)กำหนดมาว่าต้องเป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งในทางพุทธศาสนาแล้วถือว่าการที่ร่างกายตายนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้จิตใจเกิดความทุกข์ได้โดยตรง แต่สิ่งที่จะทำให้เกิดความทุกข์โดยตรงก็คือ "ความยึดถือว่ามีตนเองจะตาย" (หรือมีตัวเราจะตาย) เมื่อมีความยึดถือว่ามีเราจะตายเกิดขึ้นเมื่อใด จิตก็จะเกิดความเสียใจ(หรือความทุกข์ใจ)อย่างยิ่งขึ้นมาด้วยทันที แต่ถึงแม้ว่าร่างกายจะตาย แต่จิตไม่มีความยึดถือว่าตัวเราจะตาย จิตนี้ก็จะไม่เกิดความเสียใจหรือความทุกข์ขึ้นมาแม้แต่เล็กน้อย เพราะเกิดปัญญาเห็นแจ้งแล้วว่า "มันไม่มีเราอยู่จริง" ดังนั้นจึงเท่ากับว่า "มันไม่มีเรามาเกิด และมันไม่มีเราตาย"
ทำไงไม่ให้ตาย เหตุที่ทำให้ตาย แล้วตายคืออะไร ?
ความตายก็เป็นความปกติหรือธรรมดาของร่างกายที่ไม่มีร่างกายใดจะหนีได้พ้นได้ เพราะร่ากายก็เป็นสิ่งปรุงแต่งมาจากรูปธาตุทั้ง ๔ คือธาตุดิน(ของแข็ง) ธาตุน้ำ(ของเหลว) ธาตุไฟ(ความร้อน) และธาตุลม(ก๊าซ) เมื่อร่างกายเป็นสิ่งปรุงแต่ง ดังนั้นมันจึงต้องตกอยู่ภายใต้ลักษณะ ๓ ประการอย่างไม่มีทางหลีกหนี คือ
๑. ไม่เที่ยงแท้ถาวร คือมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสุดท้ายไม่ช้าก็เร็วจะต้องแตกสลายหรือดับหายไปในที่สุด
๒. มีสภาวะที่ต้องทนประคับประคองตัวของมันเอาไว้ด้วยความยากลำบากอยู่ตลอดเวลา
๓. ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
สรุปว่า ร่างกายไม่มีทางที่จะไม่ตายได้ หรือเป็นอมตะไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติ(หรือบางคนเรียกว่าพระเจ้า)กำหนดมาว่าต้องเป็นอย่างนี้ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งในทางพุทธศาสนาแล้วถือว่าการที่ร่างกายตายนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้จิตใจเกิดความทุกข์ได้โดยตรง แต่สิ่งที่จะทำให้เกิดความทุกข์โดยตรงก็คือ "ความยึดถือว่ามีตนเองจะตาย" (หรือมีตัวเราจะตาย) เมื่อมีความยึดถือว่ามีเราจะตายเกิดขึ้นเมื่อใด จิตก็จะเกิดความเสียใจ(หรือความทุกข์ใจ)อย่างยิ่งขึ้นมาด้วยทันที แต่ถึงแม้ว่าร่างกายจะตาย แต่จิตไม่มีความยึดถือว่าตัวเราจะตาย จิตนี้ก็จะไม่เกิดความเสียใจหรือความทุกข์ขึ้นมาแม้แต่เล็กน้อย เพราะเกิดปัญญาเห็นแจ้งแล้วว่า "มันไม่มีเราอยู่จริง" ดังนั้นจึงเท่ากับว่า "มันไม่มีเรามาเกิด และมันไม่มีเราตาย"