อาญาซาตาน-จำเลยบริสุทธิ์ (กันเกรา)

กระทู้คำถาม
http://ppantip.com/topic/31047711/comment5
http://ppantip.com/topic/31051514/comment5
===================================

ครอบครัวพ่อกลับไปนานแล้ว เพื่อนบ้านต่างก็หลับสบายไปแล้วเพราะเวลาเลยเที่ยงคืนมาหลายนาทีแล้ว แต่บ้านหลังน้อยที่มีสี่ชีวิตต่างนั่งนิ่งอยู่ระเบียงช่วยกันครุ่นคิดหาทางออกสำหรับปัญหาอันหนักอึ้งตอนนี้

“ใจเย็นๆ นะนิ่ม ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข ถ้าเราไม่ยอมแพ้เราต้องเจอแน่”

ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น ธีระนัยก็ยังปลอบใจคนรักเพื่อไม่ให้ยอมแพ้ แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดีโดยเฉพาะกัณหาว่าตัวเองเท่านั้นที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะช่วยไขปัญหานี้ไปได้ อนิจจา! ทำไมชะตาชีวิตถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ ความฝันที่เคยวาดไว้ว่าสักวันพ่อกับย่าจะตามหาวันนี้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว

แต่ไม่ได้มารับไปอยู่ด้วยเพื่อให้มีชีวิตที่ดีกว่าอย่างที่วาดหวังไว้ ตรงกันข้ามมันคงจะเป็นชีวิตที่ย่ำแย่กว่าอย่างไม่ต้องสงสัย กับการต้องไปเป็นคู่นอนของชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักมาก่อน สองปีที่จะต้องทนทุกข์ทรมาน เพื่อแลกกับชีวิตยาย ซึ่งเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ตอนนี้

เพราะยายเลี้ยงเธอกับน้องมาตั้งแต่แบเบาะ แล้วยายก็กลายเป็นทั้งแม่และพ่อให้ เมื่อแม่ทอดทิ้งลูกอย่างเธอที่มีวิโรจน์เป็นพ่อ ทิ้งน้องอย่างชาลีที่มีคนขับรถสองแถวเป็นพ่อไป และไม่เคยหวนกลับมาหาอีกเลย สองพี่น้องจึงรู้จักแต่อ้อมกอดของยายเพียงเท่านั้น

ยายผู้ยอมเหนื่อยยากทำขนมขายเพื่อเลี้ยงหลานทั้งสองมายี่สิบกว่าปี ยายผู้เสียสละขนมหวานอาหารอร่อยเพื่อเก็บไว้ให้หลานทั้งสองได้กินจนอิ่มท้อง ยายที่เสียสละด้วยการใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อชุดนักเรียนให้หลานทั้งสองได้ใส่ของใหม่จะได้ไม่อายเพื่อนในโรงเรียน และอีกล้านความเสียสละที่ยายมีให้หลานทั้งสอง

ก็แล้วทำไมหลานอย่างเธอจะเสียสละให้ยายไม่ได้ เพราะถ้ามีใครมายื่นข้อเสนอในแบบเดียวกันนี้ให้น้อง เธอเชื่อว่าน้องคงจะไม่ลังเลที่จะตัดสินใจอย่างเธอด้วยซ้ำ ดวงหน้าเศร้าหมองจึงหันไปหาคนรักและเพื่อนพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้ก่อนเอ่ย

“นัยกับชลกลับบ้านเถอะพรุ่งนี้ต้องไปสัมมนาด้วยกันไม่ใช่เหรอ ทางนี้เดี๋ยวเราจะหาทางแก้ปัญหาเอง ไปเถอะเที่ยงคืนกว่าแล้ว”



“ฉันดีใจนะที่เธอฉลาดเลือก และดีใจด้วยที่ยายของเธอฟื้นแล้ว แต่ฉันจำเป็นที่จะต้องรีบเตรียมการเพื่อให้เธอดูคล้ายคลึงกับยัยมิวมากที่สุด เริ่มด้วยการไปเข้าครอสชุบตัวเธอให้เหมือนนักเรียนนอกซะก่อน เธอถึงจะต้องมาที่นี่ทุกเช้า ตอนเย็นค่อยกลับบ้านไปหาน้องกับยาย แต่มีเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้นนะ เอาล่ะเธอให้น้องชายกลับไปได้ และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”

สองพี่น้องไม่ใคร่จะพอใจในน้ำคำและท่าทางของยุพาพรนัก โดยเฉพาะชาลีที่รีบหนีกลับแทบจะทันที แม้จะห่วงพี่สาวอยู่บ้างก็ตาม แต่เย็นก็จะได้เจอได้พูดคุยกันเขาถึงไม่แยแสที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลังงามสักนิด

“แม่รสพาไปจัดการให้เรียบร้อยนะ ส่วนตาโรจน์โทรให้คำตอบฝ่ายโน้นได้ว่าเราตกลงทุกอย่าง อีกหนึ่งเดือนจะพาคนไปส่ง”

เสาวรสที่ไม่เคยคิดจะชอบหน้าลูกนางบำเรอของสามีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนั้น จำใจต้องฝืนความรู้สึกเอาไว้ แล้วพากัณหาออกจากบ้านไปสถานเสริมความงามเจ้าประจำ เพื่อเปลี่ยนลุ๊คลูกเมียน้อยให้กลายมาเป็นลูกตัวเองอย่างเร่งด่วน เริ่มแรกต้องไปขัดผิวให้ผ่องใสกว่าที่เป็นก่อน

โชคดีที่กัณหาได้ผิวขาวมาจากพ่อซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นคนจีนอยู่แล้ว ส่วนสูงก็ไม่หนีกันเท่าไหร่เพราะได้ความสูงมาจากพ่อทั้งคู่ แต่วีรดาจะสวยเฉี่ยวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดกว่า เป็นคนตรงคิดยังไงพูดอย่างนั้น เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่เคยหยิบจับอะไรเลยตั้งแต่เกิดมา

ส่วนกัณหาจะสวยหวานพูดจาไพเราะและน้อยคำ กิริยามารยาทเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน จะแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทำงานทุกอย่างตั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบ เพราะต้องช่วยเป็นหัวแรงสำคัญให้ยายเวลาทำขนมแล้วหาบออกไปขาย เรียนจบ ปวช. ก็ได้งานที่สำนักพิมพ์ในแผนกกราฟฟิคแล้ว วันหยุดก็เรียน ปวส. และปริญญาตรีต่อจนจบ จึงถือได้ว่าลำบากตั้งแต่จำความได้

“ทำผมทรงนี้นะคะ เอาให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้” เสาวรสย้ำกับช่างประจำ

“ได้เลยค่ะคุณพี่ เพราะผิวขาวเหมือนกันทำแล้วออกมาดูดีค่ะแต่คงจะนานหน่อยนะคะ เพราะน้องไม่เคยดัดหรือทำสีผมมาเลย คุณพี่จะไปช้อปก่อนก็ได้นะคะ เสร็จแล้วน้องจะโทรบอก” ช่างรีบเสนอ

“ไม่เอาดีกว่าค่ะ พี่จะนั่งรอดูไปด้วย กลัวออกมาไม่เหมือนเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่”

ผมยาวสลวยไปถึงกลางหลังและเหยียดตรงถูกแทนที่ด้วยการซอยสไลท์เป็นทรงทันสมัยแล้วดัดเป็นลอนใหญ่ สีดำสนิทก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีทองแดงประกายน้ำตาล ทำไฮไลต์แบบบาลายาจ ให้โคนผมเข้มส่วนปลายผมสีสว่างเหมือนกับรูปที่วีรดาเมล์มาให้ แม้จะขัดใจกัณหาสักแค่ไหนแต่ก็จำยอม

ตกเย็นที่จะต้องไปเยี่ยมยาย กัณหาต้องรวบผมขึ้นไปหนีบไว้ด้านหลัง เพราะกลัวยายจะสงสัย แต่ความเหนื่อยและอาการเจ็บป่วยทำให้ยายไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก ซึ่งนั้นถือเป็นเรื่องดี วันต่อมากัณหาก็ถูกพาไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ มือถือใหม่ แถมด้วยแท็ปเลสใหม่แทนแล็ปท็อปเก่าๆ ที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง

“ต้องซื้ออะไรเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอครับคุณแม่” วิโรจน์อดสงสัยในการกระทำของแม่กับเมียไม่ได้

“ต้องสิ! ถ้าจะให้นายนั่นไม่สงสัย หรือแกอยากให้มันจับได้แล้วชวดทุกอย่างล่ะ ถ้าไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นก็เงียบไปเลย ปล่อยฉันกับแม่รสจัดการก็พอ” ลูกต้องรีบหุบปากเมื่อถูกแม่ย้อนหนักๆ ให้

“เสื้อผ้าหน้าผมใกล้เคียงกันแล้ว ทีนี้แม่รสก็จัดการหาครูฝรั่งมาสอนให้แม่นิ่มพูดภาษาอังกฤษให้ใกล้เคียงกับเด็กนอกด้วยนะ เผื่อเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่เป็นที่สงสัย ติวให้หนักๆ นะเรามีเวลาไม่มาก ระหว่างนี้ก็ช่วยฉันคิดด้วยว่าเราลืมสอนอะไรให้แม่นิ่มบ้าง อ้อ! คิดออกแล้วให้ยัยมิวส่งรูปและรายละเอียดทั้งหมดมาให้ด่วน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ ที่เรียน หรือแม้แต่เพื่อน แล้วให้แม่นิ่มเอากลับไปอ่านกันไว้ก่อนเผื่อฝ่ายโน้นเกิดถามขึ้นมา สองปีไม่ใช่เวลาน้อยๆ เราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่