เรื่องมีอยู่ว่าเราไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง(ไม่ขอบอกชื่อนะคะ) ปรากฏว่านิ้วไปโดนอะไรไม่รู้เลือดออก เลยเอาผ้าเช็ดมือไปเช็ด พอ Check out ทางพนักงานแจ้งว่า ผ้าเลอะขอชาร์จ 300 บาท ( เราถามว่าค่าอะไร พนักงานบอกว่าเป้นค่าน้ำยาซัก ในกรณีที่ซักออก ) เราก็เลยถามว่าค่าน้ำยาอะไรแพงจัง พนักงานก็ตอบมาว่าเป็น policy ของทางโรงแรมแล้วเอาใบที่เป็นตารางราคามาให้ดู เราก็ยืนงง และมึน สักพักเพราะคิดว่า ทำไมชาร์จแพงจัง แค่เปื้อนนิดเดียวยังไงก็ต้องไปซักอยู่แล้ว เรายืนตั้งสติอยู่นานจึงไปถามพนักงานอีก เก็บอะไรตั้ง 300 บาท แล้วเราก็บ่นๆ (เริ่มหงุดหงิดแล้ว) จากนั้นพนักงานก็โทรศัพท์หาใครไม่รู้แล้วก็ยื่นสาย ให้เราคุย คนในสายก้อธิบายให้เราฟังแล้วก็บอกว่าเป็น policy ของโรงแรม เราก็บ่นให้ฟัง ทางพนักงานก็ย้ำว่าเป็น policy เราก็เลยโมโหเลยตอบไปว่า " งั้นขอดู Policy โรงแรมที่เป็นเอกสารหน่อยค่ะ " จากนั้นเจ้าหน้าที่ก้ตอบกลับมาว่า " งั้นถ้าลูกค้าไม่ประสงค์ที่จะจ่ายเพิ่ม ทางโรงแรมก็จะไม่เรียกเก็บคะ " หลังจากคุยเสดก็ออกจากโรงแรมโดยไม่ได้จ่าย
จากนั้นเราก้มาคุยกับเพื่อน มันก็บอกว่า มันเป็นกฏของโรงแรมอยู่แล้วนี่ เราก็งงเถียงเพื่อนไปว่าถ้าเป็นกฏแล้วขอเอกสารทำไม่ไม่เอามาให้ดู ทีน้ำดื่ม ระบุมาระเอียดยิบเลยว่าอันไหนฟรี อันไหนเสียตังค์ เราก็เถียงเพื่อนไป บลา บลา
ขอถามนะคะ
1. เราทำถูกปะ คือตอนนั้นหงุดหงิดกับราคามาก กลับมาคิด ถ้าเก็บสัก 50 คงจ่ายไปแล้ว
2. ถ้าโรงแรมมีกฏแบบนี้แล้ว ขอเรียกดูเป็นเอกสาร แล้วไม่มีให้แสดงว่า โรงแรมไม่มีสิทธิที่จะชาร์จเพิ่มใช่ไหมคะ
เถียงกับพนักงานโรงแรม เรื่องค่าปรับ แบบนี้เราผิดเปล่า ?
จากนั้นเราก้มาคุยกับเพื่อน มันก็บอกว่า มันเป็นกฏของโรงแรมอยู่แล้วนี่ เราก็งงเถียงเพื่อนไปว่าถ้าเป็นกฏแล้วขอเอกสารทำไม่ไม่เอามาให้ดู ทีน้ำดื่ม ระบุมาระเอียดยิบเลยว่าอันไหนฟรี อันไหนเสียตังค์ เราก็เถียงเพื่อนไป บลา บลา
ขอถามนะคะ
1. เราทำถูกปะ คือตอนนั้นหงุดหงิดกับราคามาก กลับมาคิด ถ้าเก็บสัก 50 คงจ่ายไปแล้ว
2. ถ้าโรงแรมมีกฏแบบนี้แล้ว ขอเรียกดูเป็นเอกสาร แล้วไม่มีให้แสดงว่า โรงแรมไม่มีสิทธิที่จะชาร์จเพิ่มใช่ไหมคะ