จากการตอบคำถามหลายๆครั้งของดาราทั้ง 2 ท่าน ทำให้เกิดคำถามในหัวเราว่า อะไรที่เป็นสาเหตุของลักษณะการตอบคำถามที่คนฟัง เงิบ??
เราวิเคราะห์แล้ว ก็คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับ EQ ค่ะ (ความคิดเรานะคะ)
อ้างอิงจาก
อ.อัญธิกา ปุนริบูรณ์
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
EQ หมายถึง ความสามารถในการวิเคราะห์และใช้ความรู้สึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้นั่นเอง แล้วคนที่มี EQ ที่ดีหรือไม่ดีเป็นอย่างไร สังเกตได้ดังนี้
ลักษณะของผู้ที่มี EQ ที่ดี
1. สัมพันธ์ คือ จะเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักสร้าง และรักษาสัมพันธ์ทีดีต่อตนเองและทุกคน
2. มั่นคง คือ จะเป็นคนที่รักษาอารมณ์ของตนเองได้เป็นปรกติอย่างรวดเร็ว แม้จะเผชิญกับความเครียด หรือแรงกดดันมาก ๆ ก็ตาม
3. ตรงเที่ยง คือ เป็นคนที่มีความเป็นกลาง และยุติธรรม
4. เรียงร้อย คือ เป็นคนที่ใช้คำพูดที่อ่อนโยนกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนเหนือกว่า เสมอกัน หรือด้อยกว่าก็ตาม
5. ค่อยคิด คือ เป็นคนที่คิดก่อนพูด และแสดงอารมณ์ได้อย่างถูกกาลเทศะ แบบสมวัย สมตำแหน่ง
6. จิตสูง คือ เป็นคนที่มีจิตใจสงบ นิ่ง เย็น และยังเป็นคนที่สามารถอ่านความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่นได้รวดเร็ว และถูกต้อง
7. จูงใจ คือ เป็นคนที่สามารถโน้มน้าวคนอื่นโดยไม่ต้องใช้อำนาจ และ
8. ไม่เครียด คือ เป็นคนที่สามารถสร้างและใช้อารมณ์ขันได้อย่างมีไหวพริบและถูกกาลเทศะ
ส่วนลักษณะของผู้ที่มีปัญหาด้าน EQ
1. ผิดไม่เป็น คือ เป็นคนที่ไม่เคยเชื่อว่าตนเองผิด หรือทำผิดไม่เป็น แม้ว่าตนเองจะทำผิดก็ไม่เคยรู้จักขอโทษหรือยอมรับผิด
2. เน้นบริวาร คือ เป็นคนที่ชอบให้คนมาห้อมล้อม หรือชอบมีคนที่เรียกว่า “ลูกขุนพลอยพยัก” ที่ไม่กล้าขัดใจนาย มาอยู่ข้าง ๆ เพื่อทำให้ตนเองรู้สึกดียิ่งขึ้น
3. เชียวชาญหมด คือ เป็นคนที่ชอบมองตนเองว่า “ดีเลิศประเสริฐศรี” เก่งเป็นอัจฉริยะในทุกทาง ทุกเรื่องที่ตนเองพูด ตนว่าอะไรทุกคนต้องฟัง และ
4. ชอบกดขี่ คือ เป็นคนที่พูดจาไม่ค่อยเข้าหูคน ใครได้ยินได้ฟัง ก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจ ใช้พระเดชเข้ากำกับควบคุมคน แสดงอาการดูถูกคน ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกเสียหน้าหรือต่ำต้อย
สรุปได้ว่า EQ ที่ดีนั่นก็คือการเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ทางลบของตนเองได้อย่างถูกกาลเทศะนั่นเอง
ดังนั้นการพัฒนา EQ นอกจากจะต้องฝึกให้มีสมาธิ ฝึกระงับอารมณ์ และยอมรับความบกพร่องของตัวเองแล้ว สิ่งที่สำคัญในการพัฒนา EQ คือ การละทิ้งพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ แล้วสังคมที่ว่า พื้นฐานมันมาจากไหน? เป็นที่รู้กันว่าสังคมใหม่ๆของเด็กๆก็คือที่โรงเรียนสะส่วนใหญ่ เพราะมีทั้งเพื่อนและครู จะได้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ฝึกเป็นผู้พูด – ผู้ฟังที่ดี รับฟังผู้อื่นบ้าง และไม่ลืมที่จะใส่ใจความรู้สึกผู้อื่น
ซึ่งดารา 2 ท่านนี้เลือกที่จะทำงานตั้งแต่วัยยังน้อย เลือกที่จะไม่เรียนเลยเป็น 1 ในสาเหตุในการควบคุมทางอารมณ์ใช่หรือไม่??
เราไม่ได้กล่าวว่าคนที่เรียนไม่จบจะไม่มี EQ ที่ดีนะคะ มันต่างแค่ที่สภาพสังคมของ ดารา นักแสดงมักจะมีการอวย การยอ ตลอดเวลาทำให้คิดว่าทุกอย่างที่พูดออกมามักจะถูกเสมอ ใครจะว่าอะไรไม่สน และเราอยากจะสื่อว่าโรงเรียนและมหาลัยมันเป็นพื้นฐานของการพัฒนา EQ ของเด็กๆได้ค่ะ
ถ้าคุณมีโอกาส เรียนเถอะค่ะ อย่างน้อยมันคือกำไรชีวิต
จากการตอบคำถามของแตงโม และพลอย เกี่ยวเนื่องกับระดับ EQ ไหมคะ ?
เราวิเคราะห์แล้ว ก็คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับ EQ ค่ะ (ความคิดเรานะคะ)
อ้างอิงจาก
อ.อัญธิกา ปุนริบูรณ์
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
EQ หมายถึง ความสามารถในการวิเคราะห์และใช้ความรู้สึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้นั่นเอง แล้วคนที่มี EQ ที่ดีหรือไม่ดีเป็นอย่างไร สังเกตได้ดังนี้
ลักษณะของผู้ที่มี EQ ที่ดี
1. สัมพันธ์ คือ จะเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักสร้าง และรักษาสัมพันธ์ทีดีต่อตนเองและทุกคน
2. มั่นคง คือ จะเป็นคนที่รักษาอารมณ์ของตนเองได้เป็นปรกติอย่างรวดเร็ว แม้จะเผชิญกับความเครียด หรือแรงกดดันมาก ๆ ก็ตาม
3. ตรงเที่ยง คือ เป็นคนที่มีความเป็นกลาง และยุติธรรม
4. เรียงร้อย คือ เป็นคนที่ใช้คำพูดที่อ่อนโยนกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนเหนือกว่า เสมอกัน หรือด้อยกว่าก็ตาม
5. ค่อยคิด คือ เป็นคนที่คิดก่อนพูด และแสดงอารมณ์ได้อย่างถูกกาลเทศะ แบบสมวัย สมตำแหน่ง
6. จิตสูง คือ เป็นคนที่มีจิตใจสงบ นิ่ง เย็น และยังเป็นคนที่สามารถอ่านความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่นได้รวดเร็ว และถูกต้อง
7. จูงใจ คือ เป็นคนที่สามารถโน้มน้าวคนอื่นโดยไม่ต้องใช้อำนาจ และ
8. ไม่เครียด คือ เป็นคนที่สามารถสร้างและใช้อารมณ์ขันได้อย่างมีไหวพริบและถูกกาลเทศะ
ส่วนลักษณะของผู้ที่มีปัญหาด้าน EQ
1. ผิดไม่เป็น คือ เป็นคนที่ไม่เคยเชื่อว่าตนเองผิด หรือทำผิดไม่เป็น แม้ว่าตนเองจะทำผิดก็ไม่เคยรู้จักขอโทษหรือยอมรับผิด
2. เน้นบริวาร คือ เป็นคนที่ชอบให้คนมาห้อมล้อม หรือชอบมีคนที่เรียกว่า “ลูกขุนพลอยพยัก” ที่ไม่กล้าขัดใจนาย มาอยู่ข้าง ๆ เพื่อทำให้ตนเองรู้สึกดียิ่งขึ้น
3. เชียวชาญหมด คือ เป็นคนที่ชอบมองตนเองว่า “ดีเลิศประเสริฐศรี” เก่งเป็นอัจฉริยะในทุกทาง ทุกเรื่องที่ตนเองพูด ตนว่าอะไรทุกคนต้องฟัง และ
4. ชอบกดขี่ คือ เป็นคนที่พูดจาไม่ค่อยเข้าหูคน ใครได้ยินได้ฟัง ก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจ ใช้พระเดชเข้ากำกับควบคุมคน แสดงอาการดูถูกคน ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกเสียหน้าหรือต่ำต้อย
สรุปได้ว่า EQ ที่ดีนั่นก็คือการเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ทางลบของตนเองได้อย่างถูกกาลเทศะนั่นเอง
ดังนั้นการพัฒนา EQ นอกจากจะต้องฝึกให้มีสมาธิ ฝึกระงับอารมณ์ และยอมรับความบกพร่องของตัวเองแล้ว สิ่งที่สำคัญในการพัฒนา EQ คือ การละทิ้งพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ แล้วสังคมที่ว่า พื้นฐานมันมาจากไหน? เป็นที่รู้กันว่าสังคมใหม่ๆของเด็กๆก็คือที่โรงเรียนสะส่วนใหญ่ เพราะมีทั้งเพื่อนและครู จะได้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ฝึกเป็นผู้พูด – ผู้ฟังที่ดี รับฟังผู้อื่นบ้าง และไม่ลืมที่จะใส่ใจความรู้สึกผู้อื่น
ซึ่งดารา 2 ท่านนี้เลือกที่จะทำงานตั้งแต่วัยยังน้อย เลือกที่จะไม่เรียนเลยเป็น 1 ในสาเหตุในการควบคุมทางอารมณ์ใช่หรือไม่??
เราไม่ได้กล่าวว่าคนที่เรียนไม่จบจะไม่มี EQ ที่ดีนะคะ มันต่างแค่ที่สภาพสังคมของ ดารา นักแสดงมักจะมีการอวย การยอ ตลอดเวลาทำให้คิดว่าทุกอย่างที่พูดออกมามักจะถูกเสมอ ใครจะว่าอะไรไม่สน และเราอยากจะสื่อว่าโรงเรียนและมหาลัยมันเป็นพื้นฐานของการพัฒนา EQ ของเด็กๆได้ค่ะ
ถ้าคุณมีโอกาส เรียนเถอะค่ะ อย่างน้อยมันคือกำไรชีวิต