“不通则痛,通则不通” (ปู้ทงเจ๋อท่ง ทงเจ๋อปู๋ท่ง) คือ การไหลเวียนที่ไม่สะดวกก่อให้เกิดความเจ็บปวด เมื่อไหลเวียนสะดวกแล้วจะไม่เกิดความเจ็บปวดขึ้น “不通则痛,通则不通” คำจำกัดความภาษาจีนอันแสนเรียบง่าย แท้จริงแล้วนั้นกลับแฝงไปด้วยความหมายอันทรงคุณค่า และเป็นหนึ่งในที่มาของแนวความคิดในการรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน
การครอบแก้ว (Cupping) เป็นการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนอีกวิธีการหนึ่ง ที่นิยมใช้ในกลุ่มอาการปวดต่างๆ เช่นปวดบ่าไหล่ ปวดหลัง ปวดขา อาจนอกเหนือหรือควบคู่การฝังเข็ม โดยการครอบแก้ว (Cupping) นั้นจะมุ่งเน้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ เพื่อบรรเทาและลดอาการปวด ขจัดความเย็นชื้น เป็นหลัก ในปัจจุบันการครอบแก้ว (Cupping) กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายมากมาย แม้กระทั่งดาราฮอลลิวูดที่มีชื่อเสียง ต่างก็ให้ความนิยมการทำครอบแก้ว
ขั้นตอนการทำครอบแก้ว แพทย์แผนจีนจะทำการวางแก้วลงบนจุดในเส้นลมปราณหรือตำแหน่งที่ต้องการลงบนผิวหนัง โดยใช้ความร้อนไล่อากาศภายในถ้วยแก้วเพื่อทำให้เกิดภาวะสูญญากาศขึ้น ในขณะที่วางแก้วไว้เกิดการหมุนเวียนเลือดและชี่(ลมปราณ) มีการขยายตัวของหลอดเลือด ระยะเวลาที่ใช้ประมาณ 5-15 นาที เมื่อนำแก้วออกอาจมีรอยจ้ำแดงคล้ำเกิดขึ้น ซึ่งรอยนี้ไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด และจะจางหายไปเองได้ภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์
การครอบแก้ว Cupping เพื่อลดการปวดเมื่อย
การครอบแก้ว (Cupping) เป็นการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนอีกวิธีการหนึ่ง ที่นิยมใช้ในกลุ่มอาการปวดต่างๆ เช่นปวดบ่าไหล่ ปวดหลัง ปวดขา อาจนอกเหนือหรือควบคู่การฝังเข็ม โดยการครอบแก้ว (Cupping) นั้นจะมุ่งเน้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ เพื่อบรรเทาและลดอาการปวด ขจัดความเย็นชื้น เป็นหลัก ในปัจจุบันการครอบแก้ว (Cupping) กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายมากมาย แม้กระทั่งดาราฮอลลิวูดที่มีชื่อเสียง ต่างก็ให้ความนิยมการทำครอบแก้ว
ขั้นตอนการทำครอบแก้ว แพทย์แผนจีนจะทำการวางแก้วลงบนจุดในเส้นลมปราณหรือตำแหน่งที่ต้องการลงบนผิวหนัง โดยใช้ความร้อนไล่อากาศภายในถ้วยแก้วเพื่อทำให้เกิดภาวะสูญญากาศขึ้น ในขณะที่วางแก้วไว้เกิดการหมุนเวียนเลือดและชี่(ลมปราณ) มีการขยายตัวของหลอดเลือด ระยะเวลาที่ใช้ประมาณ 5-15 นาที เมื่อนำแก้วออกอาจมีรอยจ้ำแดงคล้ำเกิดขึ้น ซึ่งรอยนี้ไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด และจะจางหายไปเองได้ภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์