กระทู้นี้ ขออนุญาตระบาย และปรึกษาค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เราไปจองทาวน์โฮมไว้ ที่ city cense บางนา กม.10
ก่อนหน้านี้เราดูบ้านมาแล้วหลายที่ค่ะ เป็นบ้านที่ซื้อเพื่ออยู่กับพ่อแม่ จนมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เริ่มมีความคิดจะขยับขยาย เกิดอยากจะแต่งงานบ้างอะไรบ้าง ก็เลยต้องเริ่มหาดูบ้านกันอีกครั้งกับคุณแฟน
โจทย์ของเราคือ งบค่อนข้างจำกัด / หลังมุม ใกล้บ้านแม่ (The Plant บางนา) ซึ่งอยู่ตรงกิ่งแก้วค่ะ
เรามาเจอโครงการนี้ตั้งแต่เพิ่งปักป้ายพรีเซลล์ และเข้าไปดู เซลล์แจ้งว่า ทำเลดีค่ะ เข้าออกได้ 2 ทาง (บางนาตราด และกิ่งแก้ว) ซึ่งตรงกับโจทย์เรามาก แต่ปัญหาคือ เราเคยทราบมาว่า ทางที่จะไปออกกิ่งแก้ว เป็นถนนส่วนบุคคล (เนื่องจากก่อนหน้านี้เราหาบ้านเพื่ออยู่กับพ่อแม่ มาดูละแวกนี้และศึกษามาบ้างแล้ว) เราจึงถามกับทางเซลล์อีกครั้ง ว่าถนนเส้นนั้นเป็นทางส่วนบุคลลไม่ใช่เหรอ ซึ่งเซลล์ยืนยันว่า เป็นถนนสาธารณะ
เราเองก็คิดว่า ข้อมูลที่เราทราบมา มันก็ 2-3ปีมาแล้ว ตอนนี้อาจจะเป็นทางสาธารณะไปแล้วก็ได้ เลยยิ่งถูกใจโครงการนี้เข้าไปใหญ่ รีบจอง รีบทำสัญญาตั้งแต่ช่วงพรีเซลล์
หลังจากผ่อนดาวน์มาเรื่อยๆ เราไปอ่านเจอในประกาศ ว่าปิดทางเข้าออกฝั่งถนนกิ่งแก้ว เนื่องจากเป็นทางส่วนบุคคล เราจึงรีบไปดูให้เห็นกับตา ซึ่งทางก็ถูกปิดแล้วจริงๆ เรารีบโทรหาเซลล์เพื่อสอบถาม แต่เซลล์แจ้งว่า ทางนั้นเป็นทางส่วนบุคคล เซล์แจ้งว่าไม่เคยแจ้งเลยว่าเป็นทางสาธารณะ เซลล์ไม่โกหกหรอกค่ะ.... (เวรล่ะ ถ้าแจ้งแบบนี้แต่แรกไม่ซื้อหรอกค่ะ เรามั่นใจว่าเราถามกับชับเซลล์แล้ว ซึ่งแฟนเราก็อยู่ด้วย) แต่กำลังร่วมมือกับ อบต. เพื่อเจรจากับเจ้าของที่อยู่
ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทางก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้งค่ะ แต่ทางก็ปิดๆเปิดๆอยู่แบบนี้หลายครั้งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จนครั้งสุดท้ายเราเริ่มไม่ไหวกับความไม่แน่นอนนี้แล้ว
คือถ้าไม่สามารถใช้ทางนี้ได้ จากหมู่บ้านนี้ออกไปบ้านแม่เรา ต้องอ้อมไกลมากค่ะ และรถติดมากๆ จาก 10 นาที กลายเป็น 40 นาที
เราเข้าไปคุยกกับเซลล์ค่ะ ว่าเราจะขอยกเลิกสัญญา เนื่องจากเรารับไม่ได้เรื่องทางเข้าออกที่ปิดๆเปิดๆแบบนี้
แฟนเราเป็นคนเขียนใบคำร้องยกเลิกสัญญา และระบุว่า ต้องการเรียกร้องค่าเสียโอกาส และค่าเสียเวลา (เนื่องจากเราทิ้งเงินจองอีกโครงการนึงไป เพื่อเลือกที่นี่) เราต้องการให้ทางผู้มีอำนาจตัดสินใจติดต่อกลับ
ระหว่างนั้น เรากับแฟนเดินสายเริ่มต้นหาบ้านกันใหม่ เจอที่ๆถูกใจบ้าง แต่ก็ต้องรออีกเป็นปีกว่าจะสร้างเสร็จ สุดท้ายเราเลยคิดว่า ถ้าแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่บ้านนี้ คงไม่ต้องไปรับเราที่บ้านเดิมทุกวัน งั้นก็ทนลำบากขับรถอ้อมโลกซักปีนึงแล้วกันเดี๋ยวแต่งงานแล้วอะไรๆคงดีขึ้น
คุณแฟนเลยโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ เพื่อขอยกเลิกคำร้องที่ได้ยื่นไปค่ะ โดยจะขอคุยกับผู้รับผิดชอบ แต่ทางคอลเซ็นเตอร์แล้วแจ้งว่าไม่สามารถให้คุยได้ แต่จะขอรับเรื่องไว้เองและจะช่วยประสานงานให้ แฟนเราแจ้งให้โทรกลับมาแจ้งความคืบหน้าด้วย ซึ่งก็ไม่มีใครโทรกลับมา
หลังจากนั้นเราก็กลับสู่โหมดปกติค่ะ คือเข้าไปดูบ้านเรื่อยๆ เนื่องจากเข้าใจว่าคำร้องนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว แล้วก็ยังได้คุยกับเซลล์ กับโฟร์แมนอยู่เรื่องๆ เซลล์ไม่เคยบอกเลยว่าบ้านที่เรามาดูทุกอาทิตย์ ไม่ใช่บ้านเราแล้ว แถมยังบอกให้เราเริ่มทำเรื่องกู้ได้แล้ว
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเริ่มยื่นกู้กับทางธนาคารค่ะ เนื่องจากเซลล์และโฟร์แมนแจ้งว่าบ้านจะเสร็จเดือนหน้านี้แล้ว ให้ยื่นกู้ได้เลย
เรื่องมาเกิดก็ตอน ธนาคารโทรไปขอโฉนดที่ดินกับทางโครงการเรานี่แหละค่ะ เซลล์แจ้งธนาคารว่าได้ยกเลิกสัญญาเราไ
ปแล้ว พอธนาคารโทรมาแฟนเรา เรานี่น้ำตาแทบร่วง บ้านที่รอมา 1 ปี ตอนนี้ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว
เรานี้เราพยายามคุยกับเซลล์ ซึ่งเซลล์ก็ตอบได้แค่ว่าทำอะไรไม่ได้ สำนักงานใหญ่ปล่อยเรื่องจบไปแล้ว เราคุยกับคอลเซ็นเตอร์ ก็บอกว่า คอลเซ็นเตอร์ยกเลิกใบคำร้องให้แล้ว แต่ทางผู้มีอำนาจไม่ยอมยกเลิก และได้ออกเชคสั่งจ่ายมาแล้วด้วย ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่ต้องการเงิน เราต้องการบ้าน แต่คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่า ถ้าต้องการบ้าน ก็จะได้บ้านในราคาปัจจุบัน ไม่ใช่ราคาเดิมที่เราเคยซื้อ
น้ำตาจะไหลค่ะบอกเลย เราเชื่อว่าหลายๆคนในนี้เข้าใจความรู้สึกเรานะ
บ้านที่เรารอมา 1 ปี ซอยอื่นเริ่มทยอยตรวจรับกันแล้ว เดือนหน้าก็จะถึงตาเราบ้างแล้ว แต่อยู่ๆบ้านก็มาหลุดมือเราไป ตอนนี้หัวมันตื้อไปหมด บ้านก็อยากได้คืน แต่คนขายไม่มีทีท่าว่าจะยอมคืนบ้านให้เรา และไม่สนใจความรู้สึกเราเลย ติดต่อไปทางไหนก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบอะไรเราได้ เราเข้าใจนะคะว่าคอลเซ็นเตอร์คงไม่มีอำนาจมาให้คำตอบอะไรเรา แต่ในเมื่อคุณรับเรื่องก็ไม่ได้ ประสานงานก็ไม่ได้ ตอบคำถามก็ไม่ได้ ทำไมคุณไม่โอนสายให้เราคุยกับคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้คะ
เรื่องนี้เราเองก็ยอมรับ ว่าเรากลับไปกลับมา แต่นั่นก็เพราะคุณสมบัติมันไม่ตรงตามที่เค้าเสนอขายเรานี่คะ อีกอย่าง ถึงเราจะกลับไปกลับมา แต่เราก็ขอยกเลิกคำร้องตั้งแต่ 2-3วันแรกที่เรายื่นคำร้องไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นเรื่องยังไม่ถึงมือคนรับผิดชอบด้วยซ้ำ
จบแล้วค่ะ เราแค่อยากระบาย อยากบอกเล่าให้คนอื่นฟัง ถึงประสบการณ์เลวร้ายของเรา
ตอนนี้เรายังไม่หมดหวังนะคะ เราเชื่อว่าบ้านยังไม่ถูกขาย เราเชื่อว่าเราต้องได้บ้านคืน ใครพอมีคำแนะนำ แนะนำเราได้นะคะ ใครจะซ้ำเติมในความโลเล ก็ได้เหมือนกัน (แต่เบาๆหน่อยนะ จิตใจกำลังอ่อนไหว 5555) อยากได้คำแนะนำและกำลังใจมากๆเลยค่ะ
ซื้อทาวน์โฮมกับ Prinsiri แต่ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว กลายเป็นคนไม่มีบ้านไปแล้วค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เราไปจองทาวน์โฮมไว้ ที่ city cense บางนา กม.10
ก่อนหน้านี้เราดูบ้านมาแล้วหลายที่ค่ะ เป็นบ้านที่ซื้อเพื่ออยู่กับพ่อแม่ จนมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เริ่มมีความคิดจะขยับขยาย เกิดอยากจะแต่งงานบ้างอะไรบ้าง ก็เลยต้องเริ่มหาดูบ้านกันอีกครั้งกับคุณแฟน
โจทย์ของเราคือ งบค่อนข้างจำกัด / หลังมุม ใกล้บ้านแม่ (The Plant บางนา) ซึ่งอยู่ตรงกิ่งแก้วค่ะ
เรามาเจอโครงการนี้ตั้งแต่เพิ่งปักป้ายพรีเซลล์ และเข้าไปดู เซลล์แจ้งว่า ทำเลดีค่ะ เข้าออกได้ 2 ทาง (บางนาตราด และกิ่งแก้ว) ซึ่งตรงกับโจทย์เรามาก แต่ปัญหาคือ เราเคยทราบมาว่า ทางที่จะไปออกกิ่งแก้ว เป็นถนนส่วนบุคคล (เนื่องจากก่อนหน้านี้เราหาบ้านเพื่ออยู่กับพ่อแม่ มาดูละแวกนี้และศึกษามาบ้างแล้ว) เราจึงถามกับทางเซลล์อีกครั้ง ว่าถนนเส้นนั้นเป็นทางส่วนบุคลลไม่ใช่เหรอ ซึ่งเซลล์ยืนยันว่า เป็นถนนสาธารณะ
เราเองก็คิดว่า ข้อมูลที่เราทราบมา มันก็ 2-3ปีมาแล้ว ตอนนี้อาจจะเป็นทางสาธารณะไปแล้วก็ได้ เลยยิ่งถูกใจโครงการนี้เข้าไปใหญ่ รีบจอง รีบทำสัญญาตั้งแต่ช่วงพรีเซลล์
หลังจากผ่อนดาวน์มาเรื่อยๆ เราไปอ่านเจอในประกาศ ว่าปิดทางเข้าออกฝั่งถนนกิ่งแก้ว เนื่องจากเป็นทางส่วนบุคคล เราจึงรีบไปดูให้เห็นกับตา ซึ่งทางก็ถูกปิดแล้วจริงๆ เรารีบโทรหาเซลล์เพื่อสอบถาม แต่เซลล์แจ้งว่า ทางนั้นเป็นทางส่วนบุคคล เซล์แจ้งว่าไม่เคยแจ้งเลยว่าเป็นทางสาธารณะ เซลล์ไม่โกหกหรอกค่ะ.... (เวรล่ะ ถ้าแจ้งแบบนี้แต่แรกไม่ซื้อหรอกค่ะ เรามั่นใจว่าเราถามกับชับเซลล์แล้ว ซึ่งแฟนเราก็อยู่ด้วย) แต่กำลังร่วมมือกับ อบต. เพื่อเจรจากับเจ้าของที่อยู่
ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทางก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้งค่ะ แต่ทางก็ปิดๆเปิดๆอยู่แบบนี้หลายครั้งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จนครั้งสุดท้ายเราเริ่มไม่ไหวกับความไม่แน่นอนนี้แล้ว
คือถ้าไม่สามารถใช้ทางนี้ได้ จากหมู่บ้านนี้ออกไปบ้านแม่เรา ต้องอ้อมไกลมากค่ะ และรถติดมากๆ จาก 10 นาที กลายเป็น 40 นาที
เราเข้าไปคุยกกับเซลล์ค่ะ ว่าเราจะขอยกเลิกสัญญา เนื่องจากเรารับไม่ได้เรื่องทางเข้าออกที่ปิดๆเปิดๆแบบนี้
แฟนเราเป็นคนเขียนใบคำร้องยกเลิกสัญญา และระบุว่า ต้องการเรียกร้องค่าเสียโอกาส และค่าเสียเวลา (เนื่องจากเราทิ้งเงินจองอีกโครงการนึงไป เพื่อเลือกที่นี่) เราต้องการให้ทางผู้มีอำนาจตัดสินใจติดต่อกลับ
ระหว่างนั้น เรากับแฟนเดินสายเริ่มต้นหาบ้านกันใหม่ เจอที่ๆถูกใจบ้าง แต่ก็ต้องรออีกเป็นปีกว่าจะสร้างเสร็จ สุดท้ายเราเลยคิดว่า ถ้าแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่บ้านนี้ คงไม่ต้องไปรับเราที่บ้านเดิมทุกวัน งั้นก็ทนลำบากขับรถอ้อมโลกซักปีนึงแล้วกันเดี๋ยวแต่งงานแล้วอะไรๆคงดีขึ้น
คุณแฟนเลยโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ เพื่อขอยกเลิกคำร้องที่ได้ยื่นไปค่ะ โดยจะขอคุยกับผู้รับผิดชอบ แต่ทางคอลเซ็นเตอร์แล้วแจ้งว่าไม่สามารถให้คุยได้ แต่จะขอรับเรื่องไว้เองและจะช่วยประสานงานให้ แฟนเราแจ้งให้โทรกลับมาแจ้งความคืบหน้าด้วย ซึ่งก็ไม่มีใครโทรกลับมา
หลังจากนั้นเราก็กลับสู่โหมดปกติค่ะ คือเข้าไปดูบ้านเรื่อยๆ เนื่องจากเข้าใจว่าคำร้องนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว แล้วก็ยังได้คุยกับเซลล์ กับโฟร์แมนอยู่เรื่องๆ เซลล์ไม่เคยบอกเลยว่าบ้านที่เรามาดูทุกอาทิตย์ ไม่ใช่บ้านเราแล้ว แถมยังบอกให้เราเริ่มทำเรื่องกู้ได้แล้ว
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเริ่มยื่นกู้กับทางธนาคารค่ะ เนื่องจากเซลล์และโฟร์แมนแจ้งว่าบ้านจะเสร็จเดือนหน้านี้แล้ว ให้ยื่นกู้ได้เลย
เรื่องมาเกิดก็ตอน ธนาคารโทรไปขอโฉนดที่ดินกับทางโครงการเรานี่แหละค่ะ เซลล์แจ้งธนาคารว่าได้ยกเลิกสัญญาเราไ
ปแล้ว พอธนาคารโทรมาแฟนเรา เรานี่น้ำตาแทบร่วง บ้านที่รอมา 1 ปี ตอนนี้ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว
เรานี้เราพยายามคุยกับเซลล์ ซึ่งเซลล์ก็ตอบได้แค่ว่าทำอะไรไม่ได้ สำนักงานใหญ่ปล่อยเรื่องจบไปแล้ว เราคุยกับคอลเซ็นเตอร์ ก็บอกว่า คอลเซ็นเตอร์ยกเลิกใบคำร้องให้แล้ว แต่ทางผู้มีอำนาจไม่ยอมยกเลิก และได้ออกเชคสั่งจ่ายมาแล้วด้วย ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่ต้องการเงิน เราต้องการบ้าน แต่คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่า ถ้าต้องการบ้าน ก็จะได้บ้านในราคาปัจจุบัน ไม่ใช่ราคาเดิมที่เราเคยซื้อ
น้ำตาจะไหลค่ะบอกเลย เราเชื่อว่าหลายๆคนในนี้เข้าใจความรู้สึกเรานะ
บ้านที่เรารอมา 1 ปี ซอยอื่นเริ่มทยอยตรวจรับกันแล้ว เดือนหน้าก็จะถึงตาเราบ้างแล้ว แต่อยู่ๆบ้านก็มาหลุดมือเราไป ตอนนี้หัวมันตื้อไปหมด บ้านก็อยากได้คืน แต่คนขายไม่มีทีท่าว่าจะยอมคืนบ้านให้เรา และไม่สนใจความรู้สึกเราเลย ติดต่อไปทางไหนก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบอะไรเราได้ เราเข้าใจนะคะว่าคอลเซ็นเตอร์คงไม่มีอำนาจมาให้คำตอบอะไรเรา แต่ในเมื่อคุณรับเรื่องก็ไม่ได้ ประสานงานก็ไม่ได้ ตอบคำถามก็ไม่ได้ ทำไมคุณไม่โอนสายให้เราคุยกับคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้คะ
เรื่องนี้เราเองก็ยอมรับ ว่าเรากลับไปกลับมา แต่นั่นก็เพราะคุณสมบัติมันไม่ตรงตามที่เค้าเสนอขายเรานี่คะ อีกอย่าง ถึงเราจะกลับไปกลับมา แต่เราก็ขอยกเลิกคำร้องตั้งแต่ 2-3วันแรกที่เรายื่นคำร้องไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นเรื่องยังไม่ถึงมือคนรับผิดชอบด้วยซ้ำ
จบแล้วค่ะ เราแค่อยากระบาย อยากบอกเล่าให้คนอื่นฟัง ถึงประสบการณ์เลวร้ายของเรา
ตอนนี้เรายังไม่หมดหวังนะคะ เราเชื่อว่าบ้านยังไม่ถูกขาย เราเชื่อว่าเราต้องได้บ้านคืน ใครพอมีคำแนะนำ แนะนำเราได้นะคะ ใครจะซ้ำเติมในความโลเล ก็ได้เหมือนกัน (แต่เบาๆหน่อยนะ จิตใจกำลังอ่อนไหว 5555) อยากได้คำแนะนำและกำลังใจมากๆเลยค่ะ