เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ได้มีหนังสือของทางโรงเรียนให้เด็กนักเรียนร่วมกิจกรรมของ minor smart kids แล้วเราก็ไป พอไปถึงเซลล์ก็วิ่งเข้าหาแม่แล้วเซลล์อีกคนนึงก็พาลูกไปเล่นอีกห้องหนึ่งซึ่งแม่ไปคนเดียว ไม่รู้ว่าเค้าพูดจูงใจอะไรทำให้เราตกหลุมซื้อหนังสือเล่มนี้ 30,000+ ซึ่งลูกเราเพิ่ง5ขวบ เซลล์เขาพูดถึงเด็กอัจฉริยะคนหนึ่งที่อยู่ในทีวีเป็นลูกดาราเค้าบอกว่าเค้าเป็นคนขายหนังสือเล่มนี้เป็นคนสอนน้องน้องเลยเป็นเด็กอัจฉริยะ แล้วเค้าก็บอกว่าเขาสามารถทำให้ลูกเราเป็นแบบเขาได้เลยแนะนำให้ซื้อเซตนั้นเซตนี้พร้อมปากกาแล้วนำลายนิ้วมือของแม่และลูกไปตรวจแล็บที่ต่างประเทศ เขาพูดโน้มน้าวเราจนเราเชื่อเราเสียงวดแรก1890.- แล้วเราก็ได้กลับมาพร้อมหนังสือเราใช้เวลาการตัดสินใจในการซื้อหนังสือเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น พอเรากลับมาถึงบ้านได้ปรึกษากับแฟนและครอบครัว มันไม่คุ้มกับเงินที่เสียหนังสือสี่ชุดกับปากกาหนึ่งแท่งลูกเราไม่แตะเลยจนตอนนี้ครบหนึ่งปีแล้ว เราทำการแจ้งคืนตั้งแต่เช้าวันเเรก ที่ได้มา แล้วเราก็ทักหาเซลล์ว่าต้องการคืนสินค้าโดยยอมเสียค่างวดแรก แล้วเซลล์ก็บอกว่าจะทำเรื่องให้ตกเย็นมาเค้าบอกว่าไม่สามารถทำเรื่องแจ้งคืนได้ แต่ในสัญญาที่เราได้มามันระบุไว้ว่า ภายใน7วันถ้า ไม่พอใจกับสินค้าสามารถคืนได้เราเลยทำการแจ้งคืนตั้งแต่วันแรกที่ได้มาจนถึงตอนนี้หนึ่งปีเขาก็ยังตามทุกงวดแล้วเราก็แจ้งคืนทุกงวด เซลล์ของเราที่เป็นผู้ขายไม่รับเรื่องอะไรเลยแต่เราทักหาวันแรกที่จะคืนหนังสือ ทางบริษัทโทรมาทวงทุกงวดแล้วเราก็แจ้งคืนทุกงวดซึ่งเค้าก็ไม่ได้ทำเรื่องแจ้งคืนให้เลยทั้งทั้งที่เราติดต่อไปก็แต่วันแรกที่ได้หนังสือมาเค้าบอกว่าสัญญาฉบับนั้นที่เราเซ็นเป็นสัญญาของผู้ที่ซื้อออนไลน์แต่ตอนที่เราเซ็นเค้า ไม่ได้บอกว่าสัญญาณนี้เป็นของคนที่ซื้อออนไลน์ซึ่งเราซื้อตัวต่อตัวแต่เอาสัญญามาให้เราเซ็นทำไม? อยากทราบว่ามีใครเป็นเหตุการณ์แบบนี้มั้ยคะ แล้วตอนนี้ได้มีหนังสือจากบริษัทแจ้งมาว่าจะปรับร้อยละห้าต่อปี ถ้าเราไม่จ่ายค่างวด