โรคซึมเซร้า - อยากทราบวิธีแก้อาการเหม่อลอย

ข้อมูลส่วนตัวที่ควรทราบ : เพศหญิง อาชีพนักศึกษา

จะขอเกริ่นยาวๆให้รู้ที่มาที่ไป เผื่อมีใครให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้

เมื่อปีที่แล้วเราได้เจอเรื่องที่เกินจะรับได้ (ขออนุญาตไม่เล่านะคะ) เนื่องจากเป็นคนที่เซ้นซิทีฟอยู่แล้วด้วยจึงไปกันใหญ่
ที่สำคัญเรื่องมันเกิดในคืนก่อนวันสอบมิดเทอมวิชาแรก ซึ่งก่อนหน้านั้นเราก็มีความรู้สึกกังวลมาเป็นเดือนว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้น
และเมื่อมันเกิดขึ้น แม้จะพยายามอ่านหนังสือต่อยังไงมันก็ไม่รอด <ส่วนตัวแล้วคิดว่าโหดร้ายเกินไปจริงๆ>
แน่นอนค่ะเราทำข้อสอบไม่ได้ แอบร้องไห้ในห้องสอบด้วยซ้ำ และปรากฏการณ์นี้หลอนทุกครั้งที่ต้องเข้าสอบในครั้งต่อๆไป
ปัจุบันก็ยังคงเป็นอยู่ เกรดนี่ต้องพูดถึง กำลังคิดว่าจะเรียนไม่จบแล้วค่ะ (ยังไม่ติดโปร แต่มี F มาประดับใบเกรดแล้วค่ะ)

เรารู้สึกผิดหวังอย่างแรงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ร้องไห้ทุกวัน ไม่อยากทำอะไร ไม่ออกจากบ้าน
ไม่อยากเจอหรือพูดคุยกับใคร กลัวเขาถามว่าทำไมเป็นเป็นแบบนี้
นอนไม่หลับเป็นเวลาหลายอาทิตย์ หากหลับก็จะฝันร้ายและสะดุ้งตื่น เป็นแบบนี้จนร่างกายเริ่มล้า...
เริ่มมีอาการปวดหัว และอาเจียนทุกเช้า รู้สึกท้อแท้หมดหวังกับชีวิตมากๆ แม้จะรู้ว่าไม่ควรแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกอยากตาย
แม้ไม่ได้พบจิตแพทย์แต่ตัวเองก็รับรู้ได้เลยว่าเข้าข่ายซึมเศร้าเพราะเคยศึกษาจิตวิทยาเบื้องต้นมาพอสมควร
เพื่อนๆ ที่รู้สึกว่าเราหายไปจากโซเชียลก็พยายามตามตัว เราก็ปิดโทรศัพท์หนีเราไม่อยากให้ใครมารับรู้ด้วยจริงๆ
เพื่อนที่ดวงดีโทรมาตอนเราเปิดเครื่องบอกว่าจะพาเราไปพบจิตแพทย์ เราก็พยายามเลี่ยง ไม่รู้นะ.. เรารู้สึกว่าใครก็ช่วยเราไม่ได้หรอก

หากถามว่าที่ไม่ออกไปไหน วันๆทำอะไร... นั่งเหม่อค่ะ นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆ ในห้องมืดๆ น้ำตาไหลออกมาเองตลอด
เราทำแบบนี้ได้ทุกวัน รู้สึกเหมือนวิญญาณไม่ได้อยู่ในร่างยังไงยังงั้น รู้สึกเหนื่อยที่ต้องขยับตัว แค่เดินข้ามห้องก็รู้สึกท้อแล้วค่ะ
ตัวเราก็รู้ตัวค่ะว่าเป็นแบบนี้ต่อไปมันไม่ดีนะ แต่มันไม่ไหวจริงๆ ค่ะ...

หลังๆมานี้เราก็เริ่มไปเรียนได้ แต่ก็ไปไม่ครบทุกวัน พอมาเรียนก็รู้สึกห่างๆกับเพื่อน แต่ก็พยายามทำตัวปกติ
ปกติจะมีลุค บ้าบอ ติงต๊อง พูดมาก ชอบกวนคนอื่น ซึ่งต้องมาทำตอนรู้สึกแย่ๆก็รู้สึกฝืนใจจริงๆ เราแค่ไม่อยากให้เพื่อนรู้แล้วมาสงสาร
วันหนึ่งเรารู้สึกว่าที่เราทำแบบนี้เราก็ดูไม่จริงใจเอาซะเลย จึงเล่าให้เพื่อนฟังคร่าวๆ ด้วยความที่ไม่อยากเจาะลึกให้นึกถึงเรื่องแย่ๆ
ก็ถือว่าเราให้เพื่อนได้รู้แล้วว่าเราไม่โอเค แต่ก็บอกพวกนั้นว่าเราไม่ได้ต้องการความสงสาร ช่วยปฏิบัติกับเราเหมือนเดิมนะ
เพื่อนๆก็ยินดีค่ะ ด้วยความที่ในกลุ่มส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอยู่แล้วเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

แม้เราจะพยายามกลับมาเป็นคนเดิมแล้วก็ตาม แต่ก็มีอาการบางอย่างที่ยังคงตามหลอกหลอนไม่ลดละ
ซึ่งเป็นอุปสรรค์อย่างมากในการเรียน นั่นก็คือ "อาการเหม่อลอย" และพวกอาการปวดหัวข้างเดียวบ่อยๆ
เราพยายามฝึกในเรื่องที่เราชอบเพราะมันคงง่ายกว่าอย่างเช่น การดูหนัง เราก็ไม่สามารถจับใจความของหนังเรื่องนั้นได้ค่ะ
เหมือนเราจะฟังเข้าหัวตอนแรกๆ แต่สักพักเราก็เหม่อ เหมือนจะฟังแต่ก็ไม่ได้ฟัง คงเข้าใจนะคะว่าปัญหาในการเรียนเป็นยังไง
แม้แต่เวลาเดินทางเราก็เจออุบัติเหตุมาหลายครั้งแต่ก็เจ็บตัวบ้างเล็กๆน้อยๆ อดคิดไม่ได้ว่าสักวันอาจโดนรถชนก็ได้นะแบบนี้

เรื่องของจิตใจหากมันร้ายแรงก็รู้ค่ะว่าต้องใช้เวลา แต่นี่มันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว
หากถามว่าครอบครัวล่ะ เขาไม่ดูแลไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ สิ่งที่จะตอบก็คือ
ไม่มีใครที่บ้านรู้ค่ะ เราไม่อยากให้เขาทุกข์ แน่นอนว่าไม่มีการปรึกษาใดๆกับครอบครัว
ซึ่งครอบครัวเราก็ปล่อยๆอยู่แล้ว อยากให้รับผิดชอบชีวิตตัวเองจึงไม่ค่อยมายุ่ง
ที่เราบอกว่าเราร้องไห้ทุกวันคงเป็นไปไม่ได้ที่ที่ครอบครัวจะไม่รับรู้นอกเสียจาก
เราต้องมีชีวิตสลับกับคนที่บ้านคือ เราจะตื่นกลางคืนหากเกิดอารมณ์ด้านลบเราก็จะระบายได้โดยที่ไม่มีใครเห็น

ที่กล่าวมาทั้งหมดถือว่าเป็นการระบายทางหนึ่งก็แล้วกันค่ะ จริงๆต้องการคำปรึกษาแค่เรื่องอาการเหม่อลอยเฉยๆ
เพราะในตอนนี้ถือว่าก่อให้เกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก //ขอดักไว้ก่อนว่านั่งสมาธิเราก็เหม่อ หรือเรายังฝึกไม่มากพอ??
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังนะคะ ,, หากจะคอมเม้นอะไรเราขอแบบไม่รุนแรงนะคะ คือตอนนี้เราก็จิตใจไม่ปกติเนอะ ^^"

*หากมีคนอ่านแล้วรู้ว่าเราเป็นใคร ขอความกรุณาอย่าเอาไปให้เพื่อนคนอื่นอ่านต่อเลยนะคะ
เราต้องการแค่คำปรึกษาเรื่องอาการเหม่อเท่านั้น ไม่ได้อยากให้เพื่อนรู้ว่าเราเป็นแบบนี้เลยค่ะ
หากพร้อมแล้วจะไปเจอในสภาพที่ดีกว่านี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่