เราอาศัยอยู่ในแคฟอร์เนีย เมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กับแอล เอ ในเมืองที่เราอยู่มีร้านอาหารไทยอยู่หลายร้านเหมือนกันค่ะ แต่อยู่มาหลายปีเราเคยออกไปกินแค่สองครั้งเท่านั้นเอง .. ถ้าเข้าแอล เอ เราถึงจะกินร้านอาหารไทย (เรื่องรสชาติเป็นหลักมากกว่า เรื่องราคาที่ขายแพงจนเกินเหตุยังไม่ใช่ประเด็นเท่าไรนัก) ทีนี้มาเข้าเรื่อง..
เมื่อวานตอนเย็นไปเยี่ยมบ้านรุ่นพี่ที่รู้จักมาค่ะ พี่เค้าเป็นแม่ครัวพ่อครัวตามร้านอาหารไทยกันทั้งสองคน แล้วพี่ผู้ชายเพิ่งได้งานร้านใหม่เล่าว่าเป็นร้านของคุณป้าที่เคยเป็นอาจารย์สอนทำอาหาร(เรียกว่า คหกรรม ใช่มั้ยคะ) อยู่ที่ราชภัฏฯ ที่นึงย้ายตามลูกมาอยู่ที่นี่เลยเปิดร้านอาหารแก้เหงา คุณป้าก็ดูจะมีความรู้ด้านอาหารอยู่บ้าง พวกเครื่องแกงต่างๆ ก็พอใช้ได้ แต่ๆๆๆ..
พี่เค้าเอากล่องอาหารกล่องนึงมาเปิดให้ดูว่าเป็นของที่ลูกค้าสั่งแล้วไม่ได้มาเอา คุณป้าเลยให้พี่เค้าเอากลับบ้าน พี่เค้าถามเราว่าสนใจจะเอากลับบ้านไปกินมั้ย แต่..ใครจะกินพี่ไม่กิน ..สนใจละทีนี้เลยลองเปิดดู เห็นไก่สับรวนๆ พริกตำประปราย ที่หนักสุดคือกลิ่น กลิ่นประหลาดมาก กินสะระแหน่ชัดๆ ถามพี่เค้าว่า เค้าเรียกว่าอะไร เมนูนี้ไม่เคยเห็นเลย พี่เค้าว่า .. "ผัดกระเพราไก่สับ" เราร้อง ฮ้าาา .. จริงอะพี่ มันใช่เหรอ พี่เค้าบอกว่าร้านคุณป้าท่านนี้ ผัดกระเพราใส่ใบสะระแหน่ค่า .. ตึ๊บเลยเรา
อย่างว่านะคะที่นี่ใบกระเพราหายาก ต้องหน้าร้อนเท่านั้นถึงจะมีกระเพรามาขาย ฉะนั้นตามร้านอาหารไทยต่างๆ ตัดปัญหาโดยการใช้ใบโหระพาแทนเพราะมีขายทั้งปี จนฝรั่งส่วนใหญ่คิดว่าไอ้ที่เรียกผัดกระเพรานี่เค้าใช้โหระพาใส่กันหมดแล้ว .. แต่ไอ้สะระแหน่นี่เกิดมาเพิ่งเคยเจอครั้งแรก เราถามพี่ว่า ทำไมคุณป้าเค้าทำแบบนั้น คุณป้าเคยเป็นอาจารย์สอนทำอาหารจริงๆ รึ ถามย้ำไป 3 รอบ นี่ถ้าใส่ข้าวคั่วลงไป หนูว่ามันเรียกลาบไก่ได้เลยนะพี่ พี่เค้าก็หัวเราะ บอกว่าพี่ชักไม่แน่ใจแต่คุณป้าย้ำว่าเป็นอาจารย์สอนอาหารไทยจริงๆ เราก็เข้าใจนะว่าบางครั้งอาหารมันต้องมีปรับเปลี่ยนสูตรไปตามวัตถุดินที่มีแต่เปลี่ยนขนาดนี้รับยากจริงๆ ถามเค้าว่าแล้วมีคนสั่งมั้ย พี่เค้าบอกมี ก็ฝรั่งมาสั่งนั่นแหละ แต่ไม่มากเท่าไร อึ้งค่ะ อึ้งยันกลับบ้าน ทำไปด๊ายยยย..
คุณพระ !!! ใส่สะระแหน่ ยังจะเรียกผัดกระเพราอีกรึ???
เมื่อวานตอนเย็นไปเยี่ยมบ้านรุ่นพี่ที่รู้จักมาค่ะ พี่เค้าเป็นแม่ครัวพ่อครัวตามร้านอาหารไทยกันทั้งสองคน แล้วพี่ผู้ชายเพิ่งได้งานร้านใหม่เล่าว่าเป็นร้านของคุณป้าที่เคยเป็นอาจารย์สอนทำอาหาร(เรียกว่า คหกรรม ใช่มั้ยคะ) อยู่ที่ราชภัฏฯ ที่นึงย้ายตามลูกมาอยู่ที่นี่เลยเปิดร้านอาหารแก้เหงา คุณป้าก็ดูจะมีความรู้ด้านอาหารอยู่บ้าง พวกเครื่องแกงต่างๆ ก็พอใช้ได้ แต่ๆๆๆ..
พี่เค้าเอากล่องอาหารกล่องนึงมาเปิดให้ดูว่าเป็นของที่ลูกค้าสั่งแล้วไม่ได้มาเอา คุณป้าเลยให้พี่เค้าเอากลับบ้าน พี่เค้าถามเราว่าสนใจจะเอากลับบ้านไปกินมั้ย แต่..ใครจะกินพี่ไม่กิน ..สนใจละทีนี้เลยลองเปิดดู เห็นไก่สับรวนๆ พริกตำประปราย ที่หนักสุดคือกลิ่น กลิ่นประหลาดมาก กินสะระแหน่ชัดๆ ถามพี่เค้าว่า เค้าเรียกว่าอะไร เมนูนี้ไม่เคยเห็นเลย พี่เค้าว่า .. "ผัดกระเพราไก่สับ" เราร้อง ฮ้าาา .. จริงอะพี่ มันใช่เหรอ พี่เค้าบอกว่าร้านคุณป้าท่านนี้ ผัดกระเพราใส่ใบสะระแหน่ค่า .. ตึ๊บเลยเรา
อย่างว่านะคะที่นี่ใบกระเพราหายาก ต้องหน้าร้อนเท่านั้นถึงจะมีกระเพรามาขาย ฉะนั้นตามร้านอาหารไทยต่างๆ ตัดปัญหาโดยการใช้ใบโหระพาแทนเพราะมีขายทั้งปี จนฝรั่งส่วนใหญ่คิดว่าไอ้ที่เรียกผัดกระเพรานี่เค้าใช้โหระพาใส่กันหมดแล้ว .. แต่ไอ้สะระแหน่นี่เกิดมาเพิ่งเคยเจอครั้งแรก เราถามพี่ว่า ทำไมคุณป้าเค้าทำแบบนั้น คุณป้าเคยเป็นอาจารย์สอนทำอาหารจริงๆ รึ ถามย้ำไป 3 รอบ นี่ถ้าใส่ข้าวคั่วลงไป หนูว่ามันเรียกลาบไก่ได้เลยนะพี่ พี่เค้าก็หัวเราะ บอกว่าพี่ชักไม่แน่ใจแต่คุณป้าย้ำว่าเป็นอาจารย์สอนอาหารไทยจริงๆ เราก็เข้าใจนะว่าบางครั้งอาหารมันต้องมีปรับเปลี่ยนสูตรไปตามวัตถุดินที่มีแต่เปลี่ยนขนาดนี้รับยากจริงๆ ถามเค้าว่าแล้วมีคนสั่งมั้ย พี่เค้าบอกมี ก็ฝรั่งมาสั่งนั่นแหละ แต่ไม่มากเท่าไร อึ้งค่ะ อึ้งยันกลับบ้าน ทำไปด๊ายยยย..