[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้The Alzheimer Man
เดอะ อัลไซเมอร์แมน กับคนขี้หลงขี้ลืม ผม อายุ 23 จบมาหมาดๆจากมหาวิทยาลัย ไม่ได้สมัครงานที่ใดหรอกครับ เพราะผมเป็นคนสวนให้กับบ้านสวนแห่งหนึ่ง อยู่บนดอย ซึ่งผมเหงาและผมต้องการที่จะเล่าประสบการณ์ของเด็กที่ผ่านโลกมาได้ 20 กว่าปีให้ฟัง ผมชอบระบายประสบการณ์ความคิด เปรียบมันเหมือนกับผมได้ระบายสีอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆเมื่อครั้งยังเด็ก หวังว่าความเหงาของผมจะให้ผมได้มีเพื่อนในโลกใบนี้ ลองสักครั้งกับ Pantip
ขอบพระคุณครับ
The Alzheimer Man
คนสวน
ท้องฟ้าในวันนี้ช่างเศร้ายิ่งนัก ฟากฟ้ามิอาจเผยแผ่นพื้นกลับถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีครึ้มเศร้า ชาจากเยาวราชที่ซื้อมาอยู่ในตู้ครัว อากาศบอกถึงความรู้สึกพอดีที่จะหาอะไรอุ่นๆดื่มแก้หนาวกับหลังมื้ออาหารที่อัดแน่นด้วยแป้งและโปรตีนจากเนื้อที่แม่ฉันเตรียมไว้ ไม่รอช้าจึงแก่ะถุงชาออก
กลิ่นตลบอบอวลอยู่ในนั้นมาแรมเดือนตั้งแต่ซื้อมา โชยออกมาให้เราได้กลิ่น มือหนึ่งบีบถุงเพื่อให้ลมตีกลิ่นออกมา ทำตาแหว๋วๆเหมือนไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนั้น ทำให้นึกถึงอาม่าอากงที่ชอบดื่มชาหอมๆ และอีกมือหนึ่งจึงไม่รอช้า ใช้หนึ่งหยิบกับชาแห้งในนั้นโปรยลงในถ้วยชาเสียงเบากระหรอกกรอกแกรก ใส่เกือบครึ่งแก้ว พี่สาวผู้เป็นแขกมาพักเอิ้นทักมาว่าให้นำชาแห้งในนั้นออกหน่อย เหลือไว้แค่สามสี่ชิ้นก็พอ พอได้ยินจึงรีบหยิบออกเพราะอายว่าจะเห็นฉันชงชาไม่เป็น “…นี่น้องคงไม่เคยชงชาเองล่ะซี?”…พี่สาวถาม
"ใช่ครับ ขอบคุณครับพี่สาว"…ฉันตอบ ไม่รอช้าในเมื่อน้ำร้อนได้ที่ในกาต้ม จึงรีบรินน้ำร้อนลงถ้วยชานั้น ไออุ่นๆค่อยคลุ้งตัวเป็นก้อนลอยออกๆจากตอนที่ฉันกำลังรินอยู่จนฉันลืมอาย และจึงหยิบถ้วยชานั้นมาวางไว้ตรงที่นั่งมุมนั้นที่ฉันต้องการ คือมุมที่พระอาทิตย์ส่องถึง เก้าอี้ไม้สองตัว
กับโต๊ะเล็กน้ำตาลๆอีกหนึ่ง เผอินว่าฉันนั่งคนเดียวจึงชวนคนงานมาชิมชาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่อยากจะลองลิ้มรสชาจากเยาวราชถ้วยนี้เลยสักนิด
นั่งอยู่คนเดียวจึงได้แต่มองชาที่อยู่ในถ้วยชา …ใบชาแห้งกลับไม่แห้งแล้ว ฉันรินน้ำร้อนเองกับมือ ใบชาที่ว่าห่อกุมกันอยู่ กลับปล่อยฟองอย่างช้าๆ “…ฝุด” ฤดูแห่งการผลิบานเริ่มต้น ใบชาเหล่านั้นเผยกลีบออกมาให้เห็นเหมือนดั่งดอกไม้บานใต้น้ำ น้ำที่ว่าใสเริ่มเปลี่ยนสีสันพร้อมกับการผลิบาน …ฉันยกถ้วยชาและสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เบ่งบานในนั้น
ไออุ่นยังคงส่งผ่านจากถ้วยชา และไออุ่นจากแสงแดดก็ผลิออกจากภูเขาลูกนั้นเช่นเคย เมื่อยกชาขึ้นดื่ม เมื่อนั้นจะมองกลับลงมาเพื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบชาในตอนนั้นและตอนนี้
…ได้เห็นแค่นี้ก็มีความสุข
ดอกกุหลาบในน้ำสีชา
ท้องฟ้าในวันนี้ช่างเศร้ายิ่งนัก ฟากฟ้ามิอาจเผยแผ่นพื้นกลับถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีครึ้มเศร้า ชาจากเยาวราชที่ซื้อมาอยู่ในตู้ครัว อากาศบอกถึงความรู้สึกพอดีที่จะหาอะไรอุ่นๆดื่มแก้หนาวกับหลังมื้ออาหารที่อัดแน่นด้วยแป้งและโปรตีนจากเนื้อที่แม่ฉันเตรียมไว้ ไม่รอช้าจึงแก่ะถุงชาออก
กลิ่นตลบอบอวลอยู่ในนั้นมาแรมเดือนตั้งแต่ซื้อมา โชยออกมาให้เราได้กลิ่น มือหนึ่งบีบถุงเพื่อให้ลมตีกลิ่นออกมา ทำตาแหว๋วๆเหมือนไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนั้น ทำให้นึกถึงอาม่าอากงที่ชอบดื่มชาหอมๆ และอีกมือหนึ่งจึงไม่รอช้า ใช้หนึ่งหยิบกับชาแห้งในนั้นโปรยลงในถ้วยชาเสียงเบากระหรอกกรอกแกรก ใส่เกือบครึ่งแก้ว พี่สาวผู้เป็นแขกมาพักเอิ้นทักมาว่าให้นำชาแห้งในนั้นออกหน่อย เหลือไว้แค่สามสี่ชิ้นก็พอ พอได้ยินจึงรีบหยิบออกเพราะอายว่าจะเห็นฉันชงชาไม่เป็น “…นี่น้องคงไม่เคยชงชาเองล่ะซี?”…พี่สาวถาม
"ใช่ครับ ขอบคุณครับพี่สาว"…ฉันตอบ ไม่รอช้าในเมื่อน้ำร้อนได้ที่ในกาต้ม จึงรีบรินน้ำร้อนลงถ้วยชานั้น ไออุ่นๆค่อยคลุ้งตัวเป็นก้อนลอยออกๆจากตอนที่ฉันกำลังรินอยู่จนฉันลืมอาย และจึงหยิบถ้วยชานั้นมาวางไว้ตรงที่นั่งมุมนั้นที่ฉันต้องการ คือมุมที่พระอาทิตย์ส่องถึง เก้าอี้ไม้สองตัว
กับโต๊ะเล็กน้ำตาลๆอีกหนึ่ง เผอินว่าฉันนั่งคนเดียวจึงชวนคนงานมาชิมชาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่อยากจะลองลิ้มรสชาจากเยาวราชถ้วยนี้เลยสักนิด
นั่งอยู่คนเดียวจึงได้แต่มองชาที่อยู่ในถ้วยชา …ใบชาแห้งกลับไม่แห้งแล้ว ฉันรินน้ำร้อนเองกับมือ ใบชาที่ว่าห่อกุมกันอยู่ กลับปล่อยฟองอย่างช้าๆ “…ฝุด” ฤดูแห่งการผลิบานเริ่มต้น ใบชาเหล่านั้นเผยกลีบออกมาให้เห็นเหมือนดั่งดอกไม้บานใต้น้ำ น้ำที่ว่าใสเริ่มเปลี่ยนสีสันพร้อมกับการผลิบาน …ฉันยกถ้วยชาและสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เบ่งบานในนั้น
ไออุ่นยังคงส่งผ่านจากถ้วยชา และไออุ่นจากแสงแดดก็ผลิออกจากภูเขาลูกนั้นเช่นเคย เมื่อยกชาขึ้นดื่ม เมื่อนั้นจะมองกลับลงมาเพื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบชาในตอนนั้นและตอนนี้
…ได้เห็นแค่นี้ก็มีความสุข