..
ย้อนไปเมื่อปี 2536...
…
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง... ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว.. ปกติแล้วผมต้องใส่ชุดนักเรียน..แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว.. ชุดกางเกงวอร์ม เสื้อยืดลาย
”โงกุน”ก็พอ. ....ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู...
”ใบจบการศึกษา”..
จบป.6แล้วซินะเรา...ผมรำพึงอยู่คนเดียว.. “แจ็คเอ้ย”..เสร็จรึยัง.. ออกมาช่วยแม่ขายของซิลูก... เสียงแม่ผม แว่วมาจากหน้าบ้าน..
...
ใช่ครับผมชื่อ”แจ็คครับ” ผมเป็นลูกแม่ค้าขายของชำ..พ่อผมขับ “เมล์เครื่อง”..วันนี้ผมในวัย 13ปี.เพิ่งจบป.6หมาดๆ..เช้านี้เป็นเช้าแรกของ การเปิดเทอมใหม่... “เอ้าถามป้าเขาซิ ว่าเอาอะไร แม่ตักพริกแกงก่อน”แม่บอกกับผม.. บ้านผมเป็นร้านขายของชำครับ..บ้านผมขายทุกอย่าง.. ตั้งแต่ สากเบือ..ยันเรือของเล่น.. แม่ผมจะยุ่งอยุ่กับมุม ของสด พ่อผมจะยุ่งอยุ่กับมุม กาแฟโบราณ.. ส่วนผมก็ประจำการอยุ่มุมของแห้งของใช้ขนมเด็ก.... “เอาอะไรดีครับป้า.. “ ผมถามลูกค้า.. เอาน้ำตาลทราย ครึ่งโล.. ยาสีฟัน ยาเส้นตราแมว1กระป๋อง.ยาทัมใจด้วย 5ห่อ...” ผมหยิบให้ใส่ถุงอย่างเร็วไว ..การค้าขายนั้น ความเร็วมีผลต่อความรู้สึกของลูกค้ามาก.. เร็วของเราแค่ไหนไม่เท่าใจลูกค้า “ลูกค้าห้ามรอนาน” แม่ผมสั่งเสมอ...
...ในตอนเช้าของทุกวัน จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก บ้านผมเริ่มค้าขายดีขึ้น..คนเข้าร้านเยอะขึ้น..แม่ผมบริหารงานเก่ง.. แม่ผมมาจากนครปฐม...มาเจอกับพ่อผม ที่นี่.. อำเภอหนึ่งใน จ.ราชบุรี... ผมเคยถามแม่ว่า แม่มาเจอพ่อได้อย่างไง..แม่เล่าให้ฟังว่า ..แม่เป็นคนจนๆคนหนึ่งที่ต้องอาศัยที่”ป่าช้า”ของวัดปลูกกระต๊อบอยู่.. แม่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้าง คัดผักอยู่ในตลาดสด.แม่ผมทำหลายอย่างหาเงินเลี้ยงน้องอีก3คน เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน...ด้วยความเป็นคนจนที่อยู่ในเมืองแม่ผมบอกว่า “มันเหมือนหมาเลยลูก” “หมาในเมือง”...แม่เคยเดินเก็บขยะของเก่าแถวหน้าโรงหนัง “โอเดี้ยน”..เคยเก็บผักที่เข้าคัดทิ้ง เอากลับบ้านมาผัดกินกับน้องๆ.. ลำบากมาก...
..แม่ผมหนี “ความเป็นหมาในเมือง”.. มุ่งสู่ บ้านนอก..จึงได้มาพบรัก กับหนุ่ม กรรมกรก่อสร้าง ที่นี่.... “เรื่องมันมี”สตอรี่”อีกแล้วครับท่าน.. ผมว่าผมหยุดเรื่องของแม่ผมไว้ก่อนดีกว่า.... เดี๋ยวจะยาว...
...”แง้ๆ”..เสียงเด็กร้องมาจากในบ้าน.. “เอ้า..น้องตื่นแล้ว แจ็คไปดูน้องหน่อยซิลูก ให้แม่ล้างมือก่อน..” เสียงน้องผมเองครับ ผมมีน้องชาย วัยแบเบาะ อ้วนจ้ำม่ำน่ารัก...น่ารักซะเกินกว่า ที่ผมจะโกรธเพราะแม่มีน้อง.. ผมถึงต้องเรียนจบแค่ ป.6 ทำไมนะหรือครับ เพราะ ว่าพ่อแม่ผมขาดกำลังคนในการ ทำสำมาอาชีพ.. แม่ต้องเลี้ยงน้อง พ่อต้อง ขายกาแฟ วิ่งเมล์เครื่อง.. มันลำบากมาก.. อาจจะดูว่า..มันถูกต้องแล้วหรือ...ที่ผมต้องทิ้งการศึกษา..มาเพื่อมารับปัญหาของ “ผู้ใหญ่”...หลายคนอาจมองว่า “เห็นแก่ตัว”.. ขอย้อนถามว่า..”ในโลกนี้มีความยุติธรรมอยู่จริงๆหรือ”.. ลองถามใจคุณให้ดีๆซิครับ...
...”แจ็ค แม่จะไม่ให้หนูเรียนต่อแล้วนะ..แม่ใกล้คลอดน้องแล้ว..แม่รู้ว่าแม่เห็นแก่ตัว แต่แม่ก็จำเป็น การค้าขายเรากำลังไปได้ดี..เราต้องช่วยกัน..ฝ่าฟันความจนไปให้ได้นะลูก”.... คำที่แม่เคยพูดไว้มันสะท้อนอยู่ในใจ...
...”เอ๊ะ”..นั้นรถครูใหญ่นี่” “แม่"..ครูใหญ่มา” ผมบอกกับแม่เร็วไว “อ่ะอุ้มน้องก่อนซิลูก เดี๋ยวแม่ไปรับครูใหญ่ก่อน”.. ผมรับน้องจากแม่พร้อมอุ้มเข้าบ้านไป.. ผมแอบอยู่หลังชั้นวางของ พร้อม เงี่ยหูฟัง บทสนทนา...
...วันนี้ครูใหญ่มีสีหน้าดวงตาบ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นเคือง..ผมดูออก “เด็กชายแจ็คไม่อยุ่หรือครับ” ครูใหญ่ถาม.. “อ๋อเลี้ยงน้องอยู่ ในบ้านอะจ่ะ..ครูใหญ่มีอะไรหรือจ๊ะ”... “คืออย่างนี้นะคุณแม่ เด็กสมัยนี้มันต้องเรียนสูงๆ คุณแม่เข้าใจไหมครับ.. จะให้จบ แค่ ป. 4 ป.6 เหมือนสมัยคุณแม่มันไม่ได้แล้วนะครับ..” เสียงครูใหญ่พูดปนดุเล็กน้อย.. “เอ่อ ครูใหญ่คะ.. ดิฉัน..มีความจำเป็นค่ะ.” .. “จำเป็นอย่างไงครับ..ผมก็จำเป็น..จำเป็นที่จะต้องบอกว่า..” เด็กชายแจ็คเนี้ย..เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก
สอบแข่งขัน วิชาการเด็กประถม ก็ได้ที่1ของอำเภอ.. ผมเสียดายเด็กคนนี้มาก..ถ้าเป็นเด็กคนอื่น ผมไม่มาตามหรอกนะ..ผมเสียดายอนาคตเด็กมัน..
... “เอ่อ คือดิฉัน มีลูกเล็ก..น่ะค่ะ” ..“มันไม่เกี่ยวกันคุณแม่.. นั้นมันปัญหาของผู้ใหญ่ ใครๆเขาก็มีลูกเล็กกัน.. แล้วทำไม จะให้ลูกเรียนต่อไม่ได้”
การศึกษาต้องมาก่อนคุณแม่รู้ใช่ไหม “คือผมไม่ขอฟังแล้วกันว่าคุณแม่จะอ้างว่าไง” “ผมขอ ขอให้เด็กคนนี้ได้เรียนต่อ คุณแม่ให้ผมได้ไหม”....
... แม่ผมก้มหน้า..ในแววตาบ่งบอกถึงความรู้สึกผิด.. ผมในตอนนั้น..นิ่งฟัง..ในใจสับสนยิ่งนัก.. “ได้ค่ะ..ดิฉันจะให้แจ็คเขาเรียนต่อ”..แม่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ... “ผมได้ฟังคำแม่เอ่ย” ในใจนั้นสุดแสนจะดีใจยิ่งนัก..ผมจะได้เจอเพื่อนแล้ว แก๊งค์เราจะอยุ่กันครบเหมือนเดิม” ผมคิดในใจ..
… “งั้นวันพรุ่งนี้ผมจะรอ..ขอให้เด็กชายแจ็คไปรายงานตัวขึ้นชั้นมัธยมด้วย ผมลากลับก่อนละกัน” ครูใหญ่ลาแม่ผม พร้อมขับรถกลับ โรงเรียน..
... เมื่อครูใหญ่พ้นสายตาไปแล้ว ผมเดินออกมาหาแม่ “แม่ครูใหญ่มาทำไมหรอครับ” ผมเอ่ยถามทั้งที่รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว “เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกไปโรงเรียนนะ” แม่บอกกับผมพร้อมปาดคราบน้ำตา.. “มะเอาน้องมานี่แล้วลูก ก็ไปเตรียมซักเสื้อผ้านักเรียน จัดกระเป๋าให้เรียบร้อยนะ.. “ครับแม่ผมรีบทำตามคำแม่บอกเร็วไว”
...
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง ..ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว..ปกติแล้วผมต้องใส่เสื้อ
“โงกุน” กางเกงวอร์ม แต่วันนี้ผมใส่ชุดนักเรียนเสื้อขาวกางเกงกากี.. ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู
“ใบจบการศึกษา” .. “
ก็มีแค่นี้ซินะ” ผมรำพึงอยู่คนเดียว..
“แจ็คเอ้ย” เสร็จรึยังลูก สายแล้วนะเดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก.. เสียงแม่ผมแว่วมาจากหน้าบ้าน...
...ใช่ครับ ผมคือ
เด็กชายแจ็ค ผมเป็นใครทุกท่านรู้หมดแล้ว.. ตอนนี้ผมกำลังจะไปโรงเรียน.. “สวัสดีครับแม่สวัสดีครับพ่อ”... ผมลาแม่กับพ่อก่อนไปโรงเรียน ท่านทั้งสอง แทบไม่ได้มองผมเลย..ก็เพราะ กำลังยุ่งอยู่กับการขายของ แม่ผมต้องอุ้มน้องไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งหยิบของให้ลูกค้า อย่างแข็งขัน...
...ผมเดินไปโรงเรียนด้วยสีหน้าที่แจ่มใส สองข้างทางระหว่างไปโรงเรียนผมในยามเช้า แสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านหมู่เมฆมา..มันสลับสีแวววับสวยงามยิ่งนัก อีกทั้งร่มไม้เล่นแสงพริ้วไหวประดุจเต้นระบำตามเสียงลม..เสียงนกตัวน้อยๆ ส่งเสียงร้องรับ กันอย่างเป็นจังหวะ คล้ายเสียงเพลง..ผ่านบ้านผู้คนที่เขากำลังเตรียมตัวจะออกไร่ออกนา..หาเลี้ยงชีพตามประสาคนบ้านนอก.. ผมเดินถือกระเป๋าที่ในนั้นมีวุฒิการศึกษาชั้นป.6 กับปากกา1ด้าม... ผมถึงโรงเรียนแล้ว...
...ผมเดินผ่านห้องที่ เพื่อนๆผมกำลังนั่งเรียนกันอยู่ เพื่อนผมเขาใส่กางเกงสีดำกันหมดแล้ว บ่งบอกถึงลำดับชั้นมัธยม ผมยังใส่ สีกากีอยู่เลย..ผมนึกอายเล็กน้อย.. “เฮ้ยนั้นไอแจ็คนี่นา” เฮ้ยไอแจ็คว่ะ” เสียง ฮือฮา ออกมาจนครูผู้สอนต้องเอ็ด.. ผมผ่านเลยไปเพื่อจะไปที่ห้องครูใหญ่..แล้วผมก็ถึงแล้ว.....
... “อ้าวเด็กชายแจ็ค มาแล้วหรอ..ดีๆ ครูดีใจด้วยที่แม่เธอให้เธอมาโรงเรียน”.. อ่ะนี่หนังสือ..ชุดนักเรียนมัธยม..ครูเตรียมไว้ให้เธอแล้ว มาหยิบไปซิ...ครูใหญ่เอ่ยบอกด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ผิดกับวันนั้นวันที่ไปหาผมที่บ้าน...
... ผมนิ่งอยู่ซักพัก..ก้มหน้ามองลงพื้น..และผมก็ได้ตัดสินใจ พูดความในใจบางอย่างของผมออกไป.
... “เอ่อ..ครูใหญ่ครับ.. วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อจะมาเรียนต่อครับ....... คือผมจะมาขอ “
ลาครูใหญ่ครับ”.....
…. “อะไรนะ..เธอพูดใหม่ซิ”ครูใหญ่อุทานพร้อมทำหน้าสงสัย.... “คือว่าผมจะไม่เรียนต่อแล้วครับ”...ผมจะไปช่วยแม่ผมขายของ... “นี่แม่เธอไม่ยอมให้เธอเรียนใช่ไหม” ครูใหญ่ทำเสียงดุพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้” “ปะ..เปล่าครับ ผมไม่ขอที่จะเรียนต่อเอง”.... “อ้าว ทำไมหล่ะ เธอไม่อยากเรียนหรอ เพื่อนๆเธอเขาก็เรียนกันทั้งนั้นนะ เธอไม่คิดถึงเพื่อนหรอ”
.... ผมก้มหน้ามากกว่าเก่าพร้อมหยดน้ำตาที่หลั่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ... “อยากครับแต่ผม
ขอเลือกเองครับ.. ผมอยากจะช่วยพ่อกับแม่ผมครับ ผมรักพ่อรักแม่รักน้องผมครับ.. เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปได้กว่าครึ่งชั่วโมง ในห้องครูใหญ่ ที่มีเด็กคนหนึ่งก้มหน้าตลอด ฟังคำพูดของครูใหญ่ ที่ต่อว่าตัวเขา และพ่อแม่เขา ถึงเรื่องการเรียนต่อ..
... “ครูจะไปพูดกับแม่เธออีกรอบหนึ่ง” ครูใหญ่เอ่ย... ผมได้ยินดังนั้น..ผมตัดสินใจ.. ทรุดเข่าลงพร้อมยกมือพนมทันที.. ครูครับ ผมขอกราบเท้าลาครูนะครับ ผมจะไม่ขอเรียนต่อแล้ว ครูไม่ต้องไปบอกแม่ผมแล้วครับ.. ผมก้มลงกราบคุณครูใหญ่ เป็นครั้งสุดท้าย.. และผมก็ขอลา ออกจากห้องครูใหญ่ไป....
...ผมเดินย้อนกลับทางเดิม ผ่านห้องที่เพื่อนๆผมกำลังนั่งเรียนกันผมยิ้มพยักหน้าให้เพื่อน พร้อมยกมือสวัสดีครูผู้สอนแล้วเดินจากไป.. “เฮ้ยไอแจ็ค ไอแจ็คจะมาเรียนแล้ว..ผมได้ยินเสียงพึมพำไล่หลังมา.. “
ลาก่อนเพื่อนทุกคน” ผมร่ำลาในใจ...
...ผมเดินออกมาจากโรงเรียนด้วยจิตใจที่เศร้าหมอง สองข้างทางระหว่างกลับบ้านในยามนี้ แสงจากดวงอาทิตย์ไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะถูกเมฆฝนบดบัง เมฆดำยิ่งนักช่างน่ากลัว เหล่าต้นไม้ข้างทาง ต่างต้องลมแรงดั่งพายุ สั่นไหวดูช่างน่ากลัว เสียงลมพัดเหล่าบ้านเรือนสังกะสี.กระพืออึกกะทึกนัก.. ฝนทำท่าจะตก.. ผมรีบเร่งกลับบ้าน...
...ผมใกล้ถึงบ้านแล้ว.. ผมมองเข้าไปในบ้านเห็นแม่อุ้มน้องด้วยมือข้างเดียว..อีกมือหนึ่ง แม่พยายามที่จะหยิบของส่งให้ลูกค้า.. ส่วนพ่อ นั่งสับฟืนอยุ่ใกล้เตาไฟ.. เสียงน้องร้องจ้างอแง มาแต่ไกล.. แม่ผมหันหลังเข้าบ้าน สงสัยว่าน้องคงง่วงนอน.. ป้าคนหนึ่งเดินเข้าร้าน ทำท่าทางจะร้องเรียก..ผมรีบวิ่งเร็วรี่..วิ่งไปดักหน้า... “ซื้ออะไรดีครับป้า”ผมเอ่ยถามอย่างแข็งขัน... “เอ้าหนูไม่ไปเรียนหรอ...ป้าเอ่ยถาม... ผมยิ้มพร้อมตอบว่า.
...........
“เรียนครับ ที่นี่ไงครับโรงเรียนของผม ผมจะมาเรียนต่อที่นี่ครับ”....................
...
ผมตื่นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง...ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว.....นี่ชุดเครื่องแบบของผม... ใช่ครับ
“โงกุน”... ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู “
ใบจบการศึกษา” “
ต้องเก็บให้ดีแล้วซินะ...ผมรำพึงอยู่คนเดียว “แจ็คเอ้ย” เสร็จรึยัง ออกมาช่วยแม่ขายของซิลูก......... นั้นเสียงแม่ผมเรียกแล้ว... งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ... .............“สวัสดีครับ”......
.. ขอแรงโหวต เป็น แรงใจ ด้วยครับ..
+++ ป ล. เป็นเรื่องราวในวัยเด็กของผม ผ่านมานานแล้ว...
ผลงานเรื่องเล่าอื่นๆที่ผ่านมา..
++++เพื่อน.. รอ...เรา ..ด้วย..+++++
http://ppantip.com/topic/30969627
+++คุณเคยทำมากี่ "อาชีพ" ค้าขาย "มากี่อย่าง" เปลี่ยนงาน "มากี่ที่"..++
http://ppantip.com/topic/30953661
+++ คุณเคยถูก "คนดูถูก" ไหม..มันเจ็บลึก จนเกิด"พลัง"+++
http://ppantip.com/topic/30964168
+++ เสียงเบรค "ปริศนา"..++
http://ppantip.com/topic/30977491
+++อัพเดท+++ เส้นทางชีวิตหมายเลข1
http://ppantip.com/topic/30999716
+++อัพเดท++ "เหงื่อของแม่"
http://ppantip.com/topic/31022170
+++++ ชีวิตที่ต้อง "เลือก"++++
…ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง... ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว.. ปกติแล้วผมต้องใส่ชุดนักเรียน..แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว.. ชุดกางเกงวอร์ม เสื้อยืดลาย”โงกุน”ก็พอ. ....ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู...”ใบจบการศึกษา”.. จบป.6แล้วซินะเรา...ผมรำพึงอยู่คนเดียว.. “แจ็คเอ้ย”..เสร็จรึยัง.. ออกมาช่วยแม่ขายของซิลูก... เสียงแม่ผม แว่วมาจากหน้าบ้าน..
...ใช่ครับผมชื่อ”แจ็คครับ” ผมเป็นลูกแม่ค้าขายของชำ..พ่อผมขับ “เมล์เครื่อง”..วันนี้ผมในวัย 13ปี.เพิ่งจบป.6หมาดๆ..เช้านี้เป็นเช้าแรกของ การเปิดเทอมใหม่... “เอ้าถามป้าเขาซิ ว่าเอาอะไร แม่ตักพริกแกงก่อน”แม่บอกกับผม.. บ้านผมเป็นร้านขายของชำครับ..บ้านผมขายทุกอย่าง.. ตั้งแต่ สากเบือ..ยันเรือของเล่น.. แม่ผมจะยุ่งอยุ่กับมุม ของสด พ่อผมจะยุ่งอยุ่กับมุม กาแฟโบราณ.. ส่วนผมก็ประจำการอยุ่มุมของแห้งของใช้ขนมเด็ก.... “เอาอะไรดีครับป้า.. “ ผมถามลูกค้า.. เอาน้ำตาลทราย ครึ่งโล.. ยาสีฟัน ยาเส้นตราแมว1กระป๋อง.ยาทัมใจด้วย 5ห่อ...” ผมหยิบให้ใส่ถุงอย่างเร็วไว ..การค้าขายนั้น ความเร็วมีผลต่อความรู้สึกของลูกค้ามาก.. เร็วของเราแค่ไหนไม่เท่าใจลูกค้า “ลูกค้าห้ามรอนาน” แม่ผมสั่งเสมอ...
...ในตอนเช้าของทุกวัน จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก บ้านผมเริ่มค้าขายดีขึ้น..คนเข้าร้านเยอะขึ้น..แม่ผมบริหารงานเก่ง.. แม่ผมมาจากนครปฐม...มาเจอกับพ่อผม ที่นี่.. อำเภอหนึ่งใน จ.ราชบุรี... ผมเคยถามแม่ว่า แม่มาเจอพ่อได้อย่างไง..แม่เล่าให้ฟังว่า ..แม่เป็นคนจนๆคนหนึ่งที่ต้องอาศัยที่”ป่าช้า”ของวัดปลูกกระต๊อบอยู่.. แม่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้าง คัดผักอยู่ในตลาดสด.แม่ผมทำหลายอย่างหาเงินเลี้ยงน้องอีก3คน เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน...ด้วยความเป็นคนจนที่อยู่ในเมืองแม่ผมบอกว่า “มันเหมือนหมาเลยลูก” “หมาในเมือง”...แม่เคยเดินเก็บขยะของเก่าแถวหน้าโรงหนัง “โอเดี้ยน”..เคยเก็บผักที่เข้าคัดทิ้ง เอากลับบ้านมาผัดกินกับน้องๆ.. ลำบากมาก...
..แม่ผมหนี “ความเป็นหมาในเมือง”.. มุ่งสู่ บ้านนอก..จึงได้มาพบรัก กับหนุ่ม กรรมกรก่อสร้าง ที่นี่.... “เรื่องมันมี”สตอรี่”อีกแล้วครับท่าน.. ผมว่าผมหยุดเรื่องของแม่ผมไว้ก่อนดีกว่า.... เดี๋ยวจะยาว...
...”แง้ๆ”..เสียงเด็กร้องมาจากในบ้าน.. “เอ้า..น้องตื่นแล้ว แจ็คไปดูน้องหน่อยซิลูก ให้แม่ล้างมือก่อน..” เสียงน้องผมเองครับ ผมมีน้องชาย วัยแบเบาะ อ้วนจ้ำม่ำน่ารัก...น่ารักซะเกินกว่า ที่ผมจะโกรธเพราะแม่มีน้อง.. ผมถึงต้องเรียนจบแค่ ป.6 ทำไมนะหรือครับ เพราะ ว่าพ่อแม่ผมขาดกำลังคนในการ ทำสำมาอาชีพ.. แม่ต้องเลี้ยงน้อง พ่อต้อง ขายกาแฟ วิ่งเมล์เครื่อง.. มันลำบากมาก.. อาจจะดูว่า..มันถูกต้องแล้วหรือ...ที่ผมต้องทิ้งการศึกษา..มาเพื่อมารับปัญหาของ “ผู้ใหญ่”...หลายคนอาจมองว่า “เห็นแก่ตัว”.. ขอย้อนถามว่า..”ในโลกนี้มีความยุติธรรมอยู่จริงๆหรือ”.. ลองถามใจคุณให้ดีๆซิครับ...
...”แจ็ค แม่จะไม่ให้หนูเรียนต่อแล้วนะ..แม่ใกล้คลอดน้องแล้ว..แม่รู้ว่าแม่เห็นแก่ตัว แต่แม่ก็จำเป็น การค้าขายเรากำลังไปได้ดี..เราต้องช่วยกัน..ฝ่าฟันความจนไปให้ได้นะลูก”.... คำที่แม่เคยพูดไว้มันสะท้อนอยู่ในใจ...
...”เอ๊ะ”..นั้นรถครูใหญ่นี่” “แม่"..ครูใหญ่มา” ผมบอกกับแม่เร็วไว “อ่ะอุ้มน้องก่อนซิลูก เดี๋ยวแม่ไปรับครูใหญ่ก่อน”.. ผมรับน้องจากแม่พร้อมอุ้มเข้าบ้านไป.. ผมแอบอยู่หลังชั้นวางของ พร้อม เงี่ยหูฟัง บทสนทนา...
...วันนี้ครูใหญ่มีสีหน้าดวงตาบ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นเคือง..ผมดูออก “เด็กชายแจ็คไม่อยุ่หรือครับ” ครูใหญ่ถาม.. “อ๋อเลี้ยงน้องอยู่ ในบ้านอะจ่ะ..ครูใหญ่มีอะไรหรือจ๊ะ”... “คืออย่างนี้นะคุณแม่ เด็กสมัยนี้มันต้องเรียนสูงๆ คุณแม่เข้าใจไหมครับ.. จะให้จบ แค่ ป. 4 ป.6 เหมือนสมัยคุณแม่มันไม่ได้แล้วนะครับ..” เสียงครูใหญ่พูดปนดุเล็กน้อย.. “เอ่อ ครูใหญ่คะ.. ดิฉัน..มีความจำเป็นค่ะ.” .. “จำเป็นอย่างไงครับ..ผมก็จำเป็น..จำเป็นที่จะต้องบอกว่า..” เด็กชายแจ็คเนี้ย..เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก
สอบแข่งขัน วิชาการเด็กประถม ก็ได้ที่1ของอำเภอ.. ผมเสียดายเด็กคนนี้มาก..ถ้าเป็นเด็กคนอื่น ผมไม่มาตามหรอกนะ..ผมเสียดายอนาคตเด็กมัน..
... “เอ่อ คือดิฉัน มีลูกเล็ก..น่ะค่ะ” ..“มันไม่เกี่ยวกันคุณแม่.. นั้นมันปัญหาของผู้ใหญ่ ใครๆเขาก็มีลูกเล็กกัน.. แล้วทำไม จะให้ลูกเรียนต่อไม่ได้”การศึกษาต้องมาก่อนคุณแม่รู้ใช่ไหม “คือผมไม่ขอฟังแล้วกันว่าคุณแม่จะอ้างว่าไง” “ผมขอ ขอให้เด็กคนนี้ได้เรียนต่อ คุณแม่ให้ผมได้ไหม”....
... แม่ผมก้มหน้า..ในแววตาบ่งบอกถึงความรู้สึกผิด.. ผมในตอนนั้น..นิ่งฟัง..ในใจสับสนยิ่งนัก.. “ได้ค่ะ..ดิฉันจะให้แจ็คเขาเรียนต่อ”..แม่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ... “ผมได้ฟังคำแม่เอ่ย” ในใจนั้นสุดแสนจะดีใจยิ่งนัก..ผมจะได้เจอเพื่อนแล้ว แก๊งค์เราจะอยุ่กันครบเหมือนเดิม” ผมคิดในใจ..
… “งั้นวันพรุ่งนี้ผมจะรอ..ขอให้เด็กชายแจ็คไปรายงานตัวขึ้นชั้นมัธยมด้วย ผมลากลับก่อนละกัน” ครูใหญ่ลาแม่ผม พร้อมขับรถกลับ โรงเรียน..
... เมื่อครูใหญ่พ้นสายตาไปแล้ว ผมเดินออกมาหาแม่ “แม่ครูใหญ่มาทำไมหรอครับ” ผมเอ่ยถามทั้งที่รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว “เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกไปโรงเรียนนะ” แม่บอกกับผมพร้อมปาดคราบน้ำตา.. “มะเอาน้องมานี่แล้วลูก ก็ไปเตรียมซักเสื้อผ้านักเรียน จัดกระเป๋าให้เรียบร้อยนะ.. “ครับแม่ผมรีบทำตามคำแม่บอกเร็วไว”
... ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง ..ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว..ปกติแล้วผมต้องใส่เสื้อ “โงกุน” กางเกงวอร์ม แต่วันนี้ผมใส่ชุดนักเรียนเสื้อขาวกางเกงกากี.. ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู “ใบจบการศึกษา” .. “ก็มีแค่นี้ซินะ” ผมรำพึงอยู่คนเดียว..
“แจ็คเอ้ย” เสร็จรึยังลูก สายแล้วนะเดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก.. เสียงแม่ผมแว่วมาจากหน้าบ้าน...
...ใช่ครับ ผมคือเด็กชายแจ็ค ผมเป็นใครทุกท่านรู้หมดแล้ว.. ตอนนี้ผมกำลังจะไปโรงเรียน.. “สวัสดีครับแม่สวัสดีครับพ่อ”... ผมลาแม่กับพ่อก่อนไปโรงเรียน ท่านทั้งสอง แทบไม่ได้มองผมเลย..ก็เพราะ กำลังยุ่งอยู่กับการขายของ แม่ผมต้องอุ้มน้องไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งหยิบของให้ลูกค้า อย่างแข็งขัน...
...ผมเดินไปโรงเรียนด้วยสีหน้าที่แจ่มใส สองข้างทางระหว่างไปโรงเรียนผมในยามเช้า แสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านหมู่เมฆมา..มันสลับสีแวววับสวยงามยิ่งนัก อีกทั้งร่มไม้เล่นแสงพริ้วไหวประดุจเต้นระบำตามเสียงลม..เสียงนกตัวน้อยๆ ส่งเสียงร้องรับ กันอย่างเป็นจังหวะ คล้ายเสียงเพลง..ผ่านบ้านผู้คนที่เขากำลังเตรียมตัวจะออกไร่ออกนา..หาเลี้ยงชีพตามประสาคนบ้านนอก.. ผมเดินถือกระเป๋าที่ในนั้นมีวุฒิการศึกษาชั้นป.6 กับปากกา1ด้าม... ผมถึงโรงเรียนแล้ว...
...ผมเดินผ่านห้องที่ เพื่อนๆผมกำลังนั่งเรียนกันอยู่ เพื่อนผมเขาใส่กางเกงสีดำกันหมดแล้ว บ่งบอกถึงลำดับชั้นมัธยม ผมยังใส่ สีกากีอยู่เลย..ผมนึกอายเล็กน้อย.. “เฮ้ยนั้นไอแจ็คนี่นา” เฮ้ยไอแจ็คว่ะ” เสียง ฮือฮา ออกมาจนครูผู้สอนต้องเอ็ด.. ผมผ่านเลยไปเพื่อจะไปที่ห้องครูใหญ่..แล้วผมก็ถึงแล้ว.....
... “อ้าวเด็กชายแจ็ค มาแล้วหรอ..ดีๆ ครูดีใจด้วยที่แม่เธอให้เธอมาโรงเรียน”.. อ่ะนี่หนังสือ..ชุดนักเรียนมัธยม..ครูเตรียมไว้ให้เธอแล้ว มาหยิบไปซิ...ครูใหญ่เอ่ยบอกด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ผิดกับวันนั้นวันที่ไปหาผมที่บ้าน...
... ผมนิ่งอยู่ซักพัก..ก้มหน้ามองลงพื้น..และผมก็ได้ตัดสินใจ พูดความในใจบางอย่างของผมออกไป.
... “เอ่อ..ครูใหญ่ครับ.. วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อจะมาเรียนต่อครับ....... คือผมจะมาขอ “ลาครูใหญ่ครับ”.....
…. “อะไรนะ..เธอพูดใหม่ซิ”ครูใหญ่อุทานพร้อมทำหน้าสงสัย.... “คือว่าผมจะไม่เรียนต่อแล้วครับ”...ผมจะไปช่วยแม่ผมขายของ... “นี่แม่เธอไม่ยอมให้เธอเรียนใช่ไหม” ครูใหญ่ทำเสียงดุพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้” “ปะ..เปล่าครับ ผมไม่ขอที่จะเรียนต่อเอง”.... “อ้าว ทำไมหล่ะ เธอไม่อยากเรียนหรอ เพื่อนๆเธอเขาก็เรียนกันทั้งนั้นนะ เธอไม่คิดถึงเพื่อนหรอ”
.... ผมก้มหน้ามากกว่าเก่าพร้อมหยดน้ำตาที่หลั่งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ... “อยากครับแต่ผมขอเลือกเองครับ.. ผมอยากจะช่วยพ่อกับแม่ผมครับ ผมรักพ่อรักแม่รักน้องผมครับ.. เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปได้กว่าครึ่งชั่วโมง ในห้องครูใหญ่ ที่มีเด็กคนหนึ่งก้มหน้าตลอด ฟังคำพูดของครูใหญ่ ที่ต่อว่าตัวเขา และพ่อแม่เขา ถึงเรื่องการเรียนต่อ..
... “ครูจะไปพูดกับแม่เธออีกรอบหนึ่ง” ครูใหญ่เอ่ย... ผมได้ยินดังนั้น..ผมตัดสินใจ.. ทรุดเข่าลงพร้อมยกมือพนมทันที.. ครูครับ ผมขอกราบเท้าลาครูนะครับ ผมจะไม่ขอเรียนต่อแล้ว ครูไม่ต้องไปบอกแม่ผมแล้วครับ.. ผมก้มลงกราบคุณครูใหญ่ เป็นครั้งสุดท้าย.. และผมก็ขอลา ออกจากห้องครูใหญ่ไป....
...ผมเดินย้อนกลับทางเดิม ผ่านห้องที่เพื่อนๆผมกำลังนั่งเรียนกันผมยิ้มพยักหน้าให้เพื่อน พร้อมยกมือสวัสดีครูผู้สอนแล้วเดินจากไป.. “เฮ้ยไอแจ็ค ไอแจ็คจะมาเรียนแล้ว..ผมได้ยินเสียงพึมพำไล่หลังมา.. “ลาก่อนเพื่อนทุกคน” ผมร่ำลาในใจ...
...ผมเดินออกมาจากโรงเรียนด้วยจิตใจที่เศร้าหมอง สองข้างทางระหว่างกลับบ้านในยามนี้ แสงจากดวงอาทิตย์ไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะถูกเมฆฝนบดบัง เมฆดำยิ่งนักช่างน่ากลัว เหล่าต้นไม้ข้างทาง ต่างต้องลมแรงดั่งพายุ สั่นไหวดูช่างน่ากลัว เสียงลมพัดเหล่าบ้านเรือนสังกะสี.กระพืออึกกะทึกนัก.. ฝนทำท่าจะตก.. ผมรีบเร่งกลับบ้าน...
...ผมใกล้ถึงบ้านแล้ว.. ผมมองเข้าไปในบ้านเห็นแม่อุ้มน้องด้วยมือข้างเดียว..อีกมือหนึ่ง แม่พยายามที่จะหยิบของส่งให้ลูกค้า.. ส่วนพ่อ นั่งสับฟืนอยุ่ใกล้เตาไฟ.. เสียงน้องร้องจ้างอแง มาแต่ไกล.. แม่ผมหันหลังเข้าบ้าน สงสัยว่าน้องคงง่วงนอน.. ป้าคนหนึ่งเดินเข้าร้าน ทำท่าทางจะร้องเรียก..ผมรีบวิ่งเร็วรี่..วิ่งไปดักหน้า... “ซื้ออะไรดีครับป้า”ผมเอ่ยถามอย่างแข็งขัน... “เอ้าหนูไม่ไปเรียนหรอ...ป้าเอ่ยถาม... ผมยิ้มพร้อมตอบว่า.
...........“เรียนครับ ที่นี่ไงครับโรงเรียนของผม ผมจะมาเรียนต่อที่นี่ครับ”....................
...ผมตื่นมาในตอนเช้าของวันหนึ่ง...ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว.....นี่ชุดเครื่องแบบของผม... ใช่ครับ “โงกุน”... ผมหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาดู “ใบจบการศึกษา” “ต้องเก็บให้ดีแล้วซินะ...ผมรำพึงอยู่คนเดียว “แจ็คเอ้ย” เสร็จรึยัง ออกมาช่วยแม่ขายของซิลูก......... นั้นเสียงแม่ผมเรียกแล้ว... งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ... .............“สวัสดีครับ”......
.. ขอแรงโหวต เป็น แรงใจ ด้วยครับ..
+++ ป ล. เป็นเรื่องราวในวัยเด็กของผม ผ่านมานานแล้ว...
ผลงานเรื่องเล่าอื่นๆที่ผ่านมา..
++++เพื่อน.. รอ...เรา ..ด้วย..+++++ http://ppantip.com/topic/30969627
+++คุณเคยทำมากี่ "อาชีพ" ค้าขาย "มากี่อย่าง" เปลี่ยนงาน "มากี่ที่"..++ http://ppantip.com/topic/30953661
+++ คุณเคยถูก "คนดูถูก" ไหม..มันเจ็บลึก จนเกิด"พลัง"+++ http://ppantip.com/topic/30964168
+++ เสียงเบรค "ปริศนา"..++ http://ppantip.com/topic/30977491
+++อัพเดท+++ เส้นทางชีวิตหมายเลข1 http://ppantip.com/topic/30999716
+++อัพเดท++ "เหงื่อของแม่" http://ppantip.com/topic/31022170