รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/32731815
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 2
http://ppantip.com/topic/32737903
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 3
http://ppantip.com/topic/32741552
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 4
http://ppantip.com/topic/32750561
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 5
http://ppantip.com/topic/32759565
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 6
http://ppantip.com/topic/32769905
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 7
http://ppantip.com/topic/32797856
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 8
http://ppantip.com/topic/32868378
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 9
http://ppantip.com/topic/33136349
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 10
http://ppantip.com/topic/33146288
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 11
http://ppantip.com/topic/33172804
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 12
http://ppantip.com/topic/33189634
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 13
http://ppantip.com/topic/33200905
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 14
http://ppantip.com/topic/33221833
รักได้ยินรึเปล่า #บทส่งท้าย
http://ppantip.com/topic/33236887
บทนำ
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ‘เมวดี’ หรือ ‘น้ำเมย’ รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะเธอได้เลื่อนขึ้นมาเรียนมัธยมปลายเป็นปีแรกแถมยังจะได้เจอหน้า ‘น้ำนาย’ รุ่นพี่ม.6 ที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนม.3 อีกต่างหากด้วยชื่อที่มีคำคล้ายๆ กัน ทำให้หญิงสาวยิ่งเป็นปลื้มผู้ชายที่เป็นรักครั้งแรกของตนเองเอามากๆ
เมวดีเสียบหูฟังฟังเพลงพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จนคนขับรถเคลิ้มฮัมเพลงตามไปด้วย แต่ขณะที่รถของเธอกำลังข้ามสะพานเพื่อจะเข้าไปยังโรงเรียน เธอก็เห็นว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ชนแล้วหนีซะด้วย น่าเกลียดที่สุด!
‘คุณลุงๆ จอดก่อนค่ะ’
ณรงค์คนขับรถรีบเหยียบเบรก โชคดีที่ข้างหลังไม่มีรถตามมาเพราะตอนนี้ยังเช้ามาก
‘คุณหนูจะลงไปดูเหรอครับ’
‘ใช่คะ น้องเขาใส่เครื่องแบบโรงเรียนเมย’ เมวดีดึงหูฟังออกแล้วรีบเปิดประตูออกไปดูอย่างรวดเร็ว
ภาพที่เธอเห็นคือเด็กชายตัวผอมๆ นั่งอยู่ข้างรถจักรยาน เขาคงเจ็บน่าดู
‘น้องคะ เป็นไงบ้าง’
เด็กชายผิวแทนตัวผอมบางกำลังก้มมองแผลที่แขนและขาของตนเองเงยหน้ามองเมวดีด้วยน้ำตาคลอเบ้า นั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกสงสารจับใจ ใครกันนะที่ชนใจร้ายจริง เห็นเด็กเจ็บก็น่าจะลงมาช่วยบ้าง แต่นี่กลับขับรถหนี
‘ลุกไหวไหม...’ เมวดีนั่งลงใกล้ๆ เด็กชาย เพื่อสำรวจว่าเขาเจ็บตรงไหนบ้าง ‘เลือดออกเยอะจัง ต้องไปหาหมอแล้วนะเนี่ย คุณลุงคะ!’ เธอเรียกคนขับรถที่กำลังเดินตรงมา ‘น้องเจ็บหนักเลย พาน้องไปหาหมอดีกว่า’
ณรงค์เดินมาดูใกล้ๆ แล้วพยุงเด็กชายขึ้นรถเพื่อไปหาหมอ
เมวดีมองที่คอปกเสื้อก็รู้ว่าเด็กคนนี้พึ่งจะเรียนม.1 นั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกสงสาร เขาต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ตั้งแต่มาเรียนวันแรกคงรู้สึกแย่มาก
‘ชื่ออะไรเหรอ...’
‘ชื่อคริส...ครับ’ เขาตอบเสียงแผ่วเพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
‘คิด’ เมวดีพยักหน้าเข้าใจ เด็กชายอยากจะบอกว่าเธอออกเสียงผิดแต่ก็ตัดสินใจไม่พูด ‘พี่ชื่อน้ำเมย เรียกพี่เมยเฉยๆ ก็ได้’ เธอยิ้มกว้างหวังให้น้องรู้สึกสบายใจขึ้น
เมื่อหมอตรวจและทำแผลเสร็จเมวดีก็พยุงเด็กชายไปที่รถ ณรงค์จะเข้ามาช่วย แต่เธอก็บอกว่ารีบไปเอารถมารับจะดีกว่า
ตอนนี้เด็กชายยังตัวเล็กกว่าเธอมาก แถมเขายังผอมอีกด้วยจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะพยุงเขาเดิน เมื่อรถขับมาจอดตรงหน้าเมวดีก็รีบเปิดประตูพยุงเด็กชายเข้าไปข้างในทันที
รถขับออกจากโรงพยาบาลไปได้ไม่ไกลเมวดีก็บอกให้ณรงค์จอดที่ร้านขายเครื่องเขียนเพื่อซื้อชุดเครื่องเขียนใหม่ให้น้อง เพราะตอนที่เธอเข้าไปช่วยเขา เธอเห็นกล่องปากกาโดยรถเหยียบแบนแต๋ดแต๊จนเรียบติดพื้นถนน
‘นี่พี่ซื้อให้’ เธอยื่นกระเป๋าดินสอและชุดเรื่องเขียนให้เด็กชายที่นั่งรออยู่ในรถ
‘ขอบคุณครับ...’ เขายกมือไหว้ รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ
เมวดียิ้มกว้าง ‘ไม่เป็นไร ตั้งใจเรียนก็แล้วกัน’ พูดไปแล้วก็นึกขำตัวเองที่ดูเป็นผู้ใหญ่จนไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่บอกให้น้องตั้งใจเรียนแต่ตนเองนี่สิ ไม่อยากจะพูดถึง....
‘ยัยเมยทำไมพึ่งมา! ’ เรย์เพื่อนสาวร่วม ‘แก๊งนางฟ้า’ พูดขึ้น
‘เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอทำหน้าแบบนั้นล่ะยัยเร’
‘เธอมาสายจนตกข่าวแล้วรู้ไหม’
‘ข่าว? ข่าวอะไร’ เมวดีเดินไปกระตุกแขนเสื้อเพื่อนด้วยความตื่นเต้น
‘ก็ข่าวที่พี่น้ำนายของเธอเปิดตัวว่าคบกับพี่กุ้งนาง สาวร่วมชั้นไง’
‘ฮะ! เป็นไปได้ไง ไม่จริง แกไปเอาข่าวมั่วๆ แบบนี้มาจากไหนยัยเร ใครปล่อยข่าวฉันจะไปเคลียร์กับมันเดี๋ยวนี้แหละ!’ เมวดีโมโหจัด
‘ไม่มีใครปล่อยข่าวทั้งนั้นแหละ เขาเดินจูงมือกันมาโรงเรียนให้ชาวโลกเห็นจะๆ เลย’
เมวดีอึ้งไปสักพัก ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเพราะตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอกับน้ำนายก็คุยๆ กันอยู่ จะบอกว่าอยู่ในช่วงคบหากันก็ว่าได้ แต่น้ำนายก็ยังไม่ยอมเปิดเผยและคบกับเธอแบบออกหน้าออกตามากนัก ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้น้ำนายจะกล้าหักหน้าเธอถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่บอกว่ารักเธอคนเดียว คบเธอคนเดียว ไม่คิดนอกใจ แล้วนี่มันคืออะไร!
‘ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ!’ โวยวายลั่นห้องอย่างไม่เกรงใจใคร น้ำตาแห่งความเจ็บปวดค่อยๆ ไหลออกมา เมื่อคิดว่าตนเองโง่แค่ไหนที่โดนน้ำนายหลอก
‘ไม่เชื่อก็ตามใจ ใครใช้ให้มาสายเองช่วยไม่ได้ ตกข่าวเลยเห็นไหม’
ฉันไม่ได้มาสาย! ฉันมาตั้งแต่เช้าแล้ว! แก้ตัวไป...เพื่ออะไร คิดได้ดังนั่นเมวดีก็เลือกจะไม่เถียง
อกหักครั้งแรก!
รักได้ยินรึเปล่า #บทนำ
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/32737903
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/32741552
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/32750561
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/32759565
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/32769905
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/32797856
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/32868378
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 9 http://ppantip.com/topic/33136349
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 10 http://ppantip.com/topic/33146288
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 11 http://ppantip.com/topic/33172804
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 12 http://ppantip.com/topic/33189634
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 13 http://ppantip.com/topic/33200905
รักได้ยินรึเปล่า #บทที่ 14 http://ppantip.com/topic/33221833
รักได้ยินรึเปล่า #บทส่งท้าย http://ppantip.com/topic/33236887
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ‘เมวดี’ หรือ ‘น้ำเมย’ รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะเธอได้เลื่อนขึ้นมาเรียนมัธยมปลายเป็นปีแรกแถมยังจะได้เจอหน้า ‘น้ำนาย’ รุ่นพี่ม.6 ที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนม.3 อีกต่างหากด้วยชื่อที่มีคำคล้ายๆ กัน ทำให้หญิงสาวยิ่งเป็นปลื้มผู้ชายที่เป็นรักครั้งแรกของตนเองเอามากๆ
เมวดีเสียบหูฟังฟังเพลงพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จนคนขับรถเคลิ้มฮัมเพลงตามไปด้วย แต่ขณะที่รถของเธอกำลังข้ามสะพานเพื่อจะเข้าไปยังโรงเรียน เธอก็เห็นว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ชนแล้วหนีซะด้วย น่าเกลียดที่สุด!
‘คุณลุงๆ จอดก่อนค่ะ’
ณรงค์คนขับรถรีบเหยียบเบรก โชคดีที่ข้างหลังไม่มีรถตามมาเพราะตอนนี้ยังเช้ามาก
‘คุณหนูจะลงไปดูเหรอครับ’
‘ใช่คะ น้องเขาใส่เครื่องแบบโรงเรียนเมย’ เมวดีดึงหูฟังออกแล้วรีบเปิดประตูออกไปดูอย่างรวดเร็ว
ภาพที่เธอเห็นคือเด็กชายตัวผอมๆ นั่งอยู่ข้างรถจักรยาน เขาคงเจ็บน่าดู
‘น้องคะ เป็นไงบ้าง’
เด็กชายผิวแทนตัวผอมบางกำลังก้มมองแผลที่แขนและขาของตนเองเงยหน้ามองเมวดีด้วยน้ำตาคลอเบ้า นั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกสงสารจับใจ ใครกันนะที่ชนใจร้ายจริง เห็นเด็กเจ็บก็น่าจะลงมาช่วยบ้าง แต่นี่กลับขับรถหนี
‘ลุกไหวไหม...’ เมวดีนั่งลงใกล้ๆ เด็กชาย เพื่อสำรวจว่าเขาเจ็บตรงไหนบ้าง ‘เลือดออกเยอะจัง ต้องไปหาหมอแล้วนะเนี่ย คุณลุงคะ!’ เธอเรียกคนขับรถที่กำลังเดินตรงมา ‘น้องเจ็บหนักเลย พาน้องไปหาหมอดีกว่า’
ณรงค์เดินมาดูใกล้ๆ แล้วพยุงเด็กชายขึ้นรถเพื่อไปหาหมอ
เมวดีมองที่คอปกเสื้อก็รู้ว่าเด็กคนนี้พึ่งจะเรียนม.1 นั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกสงสาร เขาต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ตั้งแต่มาเรียนวันแรกคงรู้สึกแย่มาก
‘ชื่ออะไรเหรอ...’
‘ชื่อคริส...ครับ’ เขาตอบเสียงแผ่วเพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
‘คิด’ เมวดีพยักหน้าเข้าใจ เด็กชายอยากจะบอกว่าเธอออกเสียงผิดแต่ก็ตัดสินใจไม่พูด ‘พี่ชื่อน้ำเมย เรียกพี่เมยเฉยๆ ก็ได้’ เธอยิ้มกว้างหวังให้น้องรู้สึกสบายใจขึ้น
เมื่อหมอตรวจและทำแผลเสร็จเมวดีก็พยุงเด็กชายไปที่รถ ณรงค์จะเข้ามาช่วย แต่เธอก็บอกว่ารีบไปเอารถมารับจะดีกว่า
ตอนนี้เด็กชายยังตัวเล็กกว่าเธอมาก แถมเขายังผอมอีกด้วยจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะพยุงเขาเดิน เมื่อรถขับมาจอดตรงหน้าเมวดีก็รีบเปิดประตูพยุงเด็กชายเข้าไปข้างในทันที
รถขับออกจากโรงพยาบาลไปได้ไม่ไกลเมวดีก็บอกให้ณรงค์จอดที่ร้านขายเครื่องเขียนเพื่อซื้อชุดเครื่องเขียนใหม่ให้น้อง เพราะตอนที่เธอเข้าไปช่วยเขา เธอเห็นกล่องปากกาโดยรถเหยียบแบนแต๋ดแต๊จนเรียบติดพื้นถนน
‘นี่พี่ซื้อให้’ เธอยื่นกระเป๋าดินสอและชุดเรื่องเขียนให้เด็กชายที่นั่งรออยู่ในรถ
‘ขอบคุณครับ...’ เขายกมือไหว้ รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ
เมวดียิ้มกว้าง ‘ไม่เป็นไร ตั้งใจเรียนก็แล้วกัน’ พูดไปแล้วก็นึกขำตัวเองที่ดูเป็นผู้ใหญ่จนไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่บอกให้น้องตั้งใจเรียนแต่ตนเองนี่สิ ไม่อยากจะพูดถึง....
‘ยัยเมยทำไมพึ่งมา! ’ เรย์เพื่อนสาวร่วม ‘แก๊งนางฟ้า’ พูดขึ้น
‘เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอทำหน้าแบบนั้นล่ะยัยเร’
‘เธอมาสายจนตกข่าวแล้วรู้ไหม’
‘ข่าว? ข่าวอะไร’ เมวดีเดินไปกระตุกแขนเสื้อเพื่อนด้วยความตื่นเต้น
‘ก็ข่าวที่พี่น้ำนายของเธอเปิดตัวว่าคบกับพี่กุ้งนาง สาวร่วมชั้นไง’
‘ฮะ! เป็นไปได้ไง ไม่จริง แกไปเอาข่าวมั่วๆ แบบนี้มาจากไหนยัยเร ใครปล่อยข่าวฉันจะไปเคลียร์กับมันเดี๋ยวนี้แหละ!’ เมวดีโมโหจัด
‘ไม่มีใครปล่อยข่าวทั้งนั้นแหละ เขาเดินจูงมือกันมาโรงเรียนให้ชาวโลกเห็นจะๆ เลย’
เมวดีอึ้งไปสักพัก ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเพราะตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอกับน้ำนายก็คุยๆ กันอยู่ จะบอกว่าอยู่ในช่วงคบหากันก็ว่าได้ แต่น้ำนายก็ยังไม่ยอมเปิดเผยและคบกับเธอแบบออกหน้าออกตามากนัก ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้น้ำนายจะกล้าหักหน้าเธอถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่บอกว่ารักเธอคนเดียว คบเธอคนเดียว ไม่คิดนอกใจ แล้วนี่มันคืออะไร!
‘ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ!’ โวยวายลั่นห้องอย่างไม่เกรงใจใคร น้ำตาแห่งความเจ็บปวดค่อยๆ ไหลออกมา เมื่อคิดว่าตนเองโง่แค่ไหนที่โดนน้ำนายหลอก
‘ไม่เชื่อก็ตามใจ ใครใช้ให้มาสายเองช่วยไม่ได้ ตกข่าวเลยเห็นไหม’
ฉันไม่ได้มาสาย! ฉันมาตั้งแต่เช้าแล้ว! แก้ตัวไป...เพื่ออะไร คิดได้ดังนั่นเมวดีก็เลือกจะไม่เถียง
อกหักครั้งแรก!