เนื่องจากย้ายที่ทำงาน และสามียังหางานใหม่อยู่ ทุกอย่างเหมือนstartใหม่ ช่วงหยุดมาเกือบ2เดือน รายได้ไม่มี รายจ่ายก็ทยอยเข้ามา ทะเลาะกันเกือบทุกวัน บางวันสามีก็กลับไปตจว. เพือทำงานที่ยังไม่หมดสัญญา(หมดสิ้นเดือนนี้) ทรัพย์สินที่เคยสร้างไว้ที่ ตจว.ก็ต้องเร่งขาย ตอนนี้เหมือนครอบครัวมีปัญหาแล้วคะ ทะเลาะกัน
สามีโทษว่า ฉันเป็นคนทำให้ชีวิตเขาแย่( แต่ก็ทำมาด้วยกัน) ฉันตัดสินใจอะไรพลาดหมด เขาว่าอย่างนั้น แม้กระทั่งบ้านที่ซื้อเพราะฉันอยากมีอยากได้ทำไม ทุกอย่างฉันผิดหมด เลยปรึกษาที่บ้าน โชคดีมากที่พ่อแม่เข้าใจเป็นอย่างดี แกเคยขอให้หลานไปอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมาไม่เจอปัญหาหนักขนาดนี้ื ส่วนใหญ่ฉันจะเป็นคนเลี้ยงลูกหลังจากเลิกงานทุกวัน ฉันอาจจะเหนื่อยแต่มีความสุขที่ได้อยูกับลูก ฉันก็ทนอยุ่ได้เพื่อคำว่าครอบครัว ตัวสามีไม่ค่อยชอบอยุ่บ้าน เขามีสังคมเพื่อนๆ มีธุรกิจเล็กๆ ที่ทำร่วมกับเพื่อนๆเขา มันทำให้ฉันก็พูดไม่ออกถ้าเขาจะออกไปหาเพื่อน คุณยายโทรหาหลาน แกเลยรุ้ว่าหลานอยุ่กับแม่ตลอด แต่พ่อสิ ไม่ค่อยอยุ่ พอแกรุ้แกเลยอยากเอาไปเลี้ยงเอง อีกอย่างแกเข้ามาอยุ่ กท. เข้าเนอสเซอรี่ เช้า7โมง กว่าฉันจะมารับก็ปาไป17.30 บางวันเลทถึง18.00 คุณยายทนไม่ได้เห็นหลานอยุ่สภาพนี้ เลยคิดว่าจะเอาไปเลี้ยงเองบวกกับสถาณกาณในบ้านของหลานไม่ดี ยิ่งทำให้แกอยากเอากลับไปเลี้ยงเองมาก (คุณยายคุณตาเป็นคุณครูคะ อีก5ปีเกษียณ เดือนตค.ปิดเทอมแกว่างทั้งเดือน มั่นใจว่าแกเลี้ยงได้ดีและสังคมรอบข้างดีหมดลูกพี่ลูกน้องแถวบ้านชอบมาเล่นกะลูก คิดว่าคงดีกว่าตอนนี้ที่อยุ่กับแม่) ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ยคะ
สงสารลูก.....แต่ไม่อยากให้ลูกมานั่งรับรุ้รับฟัง พ่อแม่ทะเลาะกัน หลายๆครั้งที่ทะเลาะกันเป็นเพราะเขาไม่ยอมรับในการตัดสินใจของฉันเลย เขามักจะคิดเอาว่า เขาตัดสินใจดีกว่า แต่เขาก็ปฏิเสธการตัดสินใจนั้นทุกครั้ง และที่สำคัญ ฉันกับลูกก็ไม่เคยขอเงินจากเขาเลย อาจจะมีค่านมบ้างบางครั้งที่เขาออกไปแล้วฝากซื้อ หรือค่าข้าวที่ฝากเขาซื้อ
ฉันเริ่มทนกับความเห็นแก่ตัวของผู้ชาย หัวหน้าครอบครัว พ่อของลูกไม่ไหวแล้ว เวลาเขาด่ามันเจ็บแค้นมากเลยคะ ในชีวิตมีเขาเนี่ยแหละที่ด่าได้รุนแรงและ
ที่สุด
สถานภาพตอนนี้เหมือนแยกกันอยุ่แล้วคะ และคิดต่อว่าหากบ้านที่เป็นสินสมรสขายออกไปแล้ว เราคงต้องหย่ากัน
ปล.สินสอดทองหมั้น พ่อแม่ฉันคืนให้หมด แถมชุดประดับให้ด้วย เขายังทำขนาดนี้ แล้วถ้าไม่ให้อะไรคืนเลยละ เขาคงดูถูกฉันอีกมั้งคะ
จะให้ลูกไปอยู่กับพ่อแม่(ตายาย) สักระยะนึง ต้องทำใจยังไงคะ
สามีโทษว่า ฉันเป็นคนทำให้ชีวิตเขาแย่( แต่ก็ทำมาด้วยกัน) ฉันตัดสินใจอะไรพลาดหมด เขาว่าอย่างนั้น แม้กระทั่งบ้านที่ซื้อเพราะฉันอยากมีอยากได้ทำไม ทุกอย่างฉันผิดหมด เลยปรึกษาที่บ้าน โชคดีมากที่พ่อแม่เข้าใจเป็นอย่างดี แกเคยขอให้หลานไปอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมาไม่เจอปัญหาหนักขนาดนี้ื ส่วนใหญ่ฉันจะเป็นคนเลี้ยงลูกหลังจากเลิกงานทุกวัน ฉันอาจจะเหนื่อยแต่มีความสุขที่ได้อยูกับลูก ฉันก็ทนอยุ่ได้เพื่อคำว่าครอบครัว ตัวสามีไม่ค่อยชอบอยุ่บ้าน เขามีสังคมเพื่อนๆ มีธุรกิจเล็กๆ ที่ทำร่วมกับเพื่อนๆเขา มันทำให้ฉันก็พูดไม่ออกถ้าเขาจะออกไปหาเพื่อน คุณยายโทรหาหลาน แกเลยรุ้ว่าหลานอยุ่กับแม่ตลอด แต่พ่อสิ ไม่ค่อยอยุ่ พอแกรุ้แกเลยอยากเอาไปเลี้ยงเอง อีกอย่างแกเข้ามาอยุ่ กท. เข้าเนอสเซอรี่ เช้า7โมง กว่าฉันจะมารับก็ปาไป17.30 บางวันเลทถึง18.00 คุณยายทนไม่ได้เห็นหลานอยุ่สภาพนี้ เลยคิดว่าจะเอาไปเลี้ยงเองบวกกับสถาณกาณในบ้านของหลานไม่ดี ยิ่งทำให้แกอยากเอากลับไปเลี้ยงเองมาก (คุณยายคุณตาเป็นคุณครูคะ อีก5ปีเกษียณ เดือนตค.ปิดเทอมแกว่างทั้งเดือน มั่นใจว่าแกเลี้ยงได้ดีและสังคมรอบข้างดีหมดลูกพี่ลูกน้องแถวบ้านชอบมาเล่นกะลูก คิดว่าคงดีกว่าตอนนี้ที่อยุ่กับแม่) ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ยคะ
สงสารลูก.....แต่ไม่อยากให้ลูกมานั่งรับรุ้รับฟัง พ่อแม่ทะเลาะกัน หลายๆครั้งที่ทะเลาะกันเป็นเพราะเขาไม่ยอมรับในการตัดสินใจของฉันเลย เขามักจะคิดเอาว่า เขาตัดสินใจดีกว่า แต่เขาก็ปฏิเสธการตัดสินใจนั้นทุกครั้ง และที่สำคัญ ฉันกับลูกก็ไม่เคยขอเงินจากเขาเลย อาจจะมีค่านมบ้างบางครั้งที่เขาออกไปแล้วฝากซื้อ หรือค่าข้าวที่ฝากเขาซื้อ
ฉันเริ่มทนกับความเห็นแก่ตัวของผู้ชาย หัวหน้าครอบครัว พ่อของลูกไม่ไหวแล้ว เวลาเขาด่ามันเจ็บแค้นมากเลยคะ ในชีวิตมีเขาเนี่ยแหละที่ด่าได้รุนแรงและที่สุด
สถานภาพตอนนี้เหมือนแยกกันอยุ่แล้วคะ และคิดต่อว่าหากบ้านที่เป็นสินสมรสขายออกไปแล้ว เราคงต้องหย่ากัน
ปล.สินสอดทองหมั้น พ่อแม่ฉันคืนให้หมด แถมชุดประดับให้ด้วย เขายังทำขนาดนี้ แล้วถ้าไม่ให้อะไรคืนเลยละ เขาคงดูถูกฉันอีกมั้งคะ