สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
1. อยากถามความเห็นคุณหมอในห้องนี้ หรือผู้ที่มีประสบการณ์คะ ว่ากรณีนี้หมายความว่ายังไงคะ?
โดยทั่วไปหมายความว่าไม่มีการรักษา(อย่างน้อยก็คีโม)ที่น่าจะให้โอกาสควบคุมโรคแล้วครับ
2. คนไข้ไม่เคยแพ้คีโม และร่างกายยังค่อนข้างแข็งแรง และยังสู้อยู่ ทำไมคุณหมอไม่ลองยาตัวอื่นหรือเพิ่มขนาดของยาดูคะ?
คนไข้ได้ยาสองสูตร
สูตรแรก 12 ครั้งน่าจะเป็นสูตร Gemcitabine + Carboplatin หรือ Cisplatin ซึ่งสังเกตุได้จากการให้สองสัปดาห์ติดกันแล้วพักสัปดาห์ที่ 3 ส่วนสูตร MVAC ไม่น่าจะได้ให้ในอายุ 75 ปี
สูตรที่สองจริงๆไม่มีมาตรฐานแต่ก็คงได้ลองยาที่มีการตอบสนองบ้างในที่นี้คงเป็นยาในกลุ่ม Taxane เช่น Paclitaxel หรือ Docetaxel ซึ่งมักจะสังเกตได้ยากมักจะมีให้ยาสเตียรอยด์แก้แพ้กิน 1 วันก่อนให้ยา
ถ้าได้ยาไปตามนี้แล้วไม่ตอบสนองเลย เป็นผมก็แนะนำให้หยุดคีโมครับด้วยเหตุว่าโอกาสที่ยาต่อไปจะตอบสนองนั้นต่ำลงมาก และ ไม่มีข้อมูลว่าการให้ยานั้นจะเป็นประโยชน์จริงหรือไม่ แต่ถ้ายังไม่ได้ผ่านยา Gemcitabine หรือกลุ่ม Taxane แล้วคนไข้ยังแข็งแรงก็อาจจะลองดูครับ
นอกจากนี้ยาอื่นๆที่เหลืออยู่ผลข้างเคียงมักจะรุนแรงกว่านี้ครับ
สิ่งหนึ่งที่จะบอกคือ เมื่อถึงจุดหนึ่งๆ เมื่อการรักษาต่อไม่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์เราจะแนะนำให้หยุด เพราะ สิ่งที่จะเสียไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นเวลาดีๆที่เหลืออยู่ครับ
3. หลังจากนี้คนให้คนไข้ปฎิบัติตัวยังไงคะ เมื่อไม่ต้องเข้ารับการรักษาแล้ว?
ปฏิบัติตัวเหมือนปกติ มองหารพ.ใกล้บ้านที่จะดูแลต่อไปครับ
ปล.ความเห็นส่วนตัวปรกติถ้าไม่ใช่เพราะคนไข้เดินทางลำบากผมเลือกที่จะนัดต่อไปเพราะถึงไม่ได้คีโมบางครั้งคนไข้ก็อาจยังต้องการรักษาปรคับประคองที่ไม่ใช่แค่ยาทั่วไปๆครับเช่น หากลามไปสมอง ลามไปกระดูกก็มีบางการรักษาที่ช่วยให้ดีขึ้นได้อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง
ปล2.ควรปรึกษากับแพทย์ถึงคำถามที่สงสัยจะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ ผมก็เดาไปตามข้อมูลที่ได้เท่านั้น
โดยทั่วไปหมายความว่าไม่มีการรักษา(อย่างน้อยก็คีโม)ที่น่าจะให้โอกาสควบคุมโรคแล้วครับ
2. คนไข้ไม่เคยแพ้คีโม และร่างกายยังค่อนข้างแข็งแรง และยังสู้อยู่ ทำไมคุณหมอไม่ลองยาตัวอื่นหรือเพิ่มขนาดของยาดูคะ?
คนไข้ได้ยาสองสูตร
สูตรแรก 12 ครั้งน่าจะเป็นสูตร Gemcitabine + Carboplatin หรือ Cisplatin ซึ่งสังเกตุได้จากการให้สองสัปดาห์ติดกันแล้วพักสัปดาห์ที่ 3 ส่วนสูตร MVAC ไม่น่าจะได้ให้ในอายุ 75 ปี
สูตรที่สองจริงๆไม่มีมาตรฐานแต่ก็คงได้ลองยาที่มีการตอบสนองบ้างในที่นี้คงเป็นยาในกลุ่ม Taxane เช่น Paclitaxel หรือ Docetaxel ซึ่งมักจะสังเกตได้ยากมักจะมีให้ยาสเตียรอยด์แก้แพ้กิน 1 วันก่อนให้ยา
ถ้าได้ยาไปตามนี้แล้วไม่ตอบสนองเลย เป็นผมก็แนะนำให้หยุดคีโมครับด้วยเหตุว่าโอกาสที่ยาต่อไปจะตอบสนองนั้นต่ำลงมาก และ ไม่มีข้อมูลว่าการให้ยานั้นจะเป็นประโยชน์จริงหรือไม่ แต่ถ้ายังไม่ได้ผ่านยา Gemcitabine หรือกลุ่ม Taxane แล้วคนไข้ยังแข็งแรงก็อาจจะลองดูครับ
นอกจากนี้ยาอื่นๆที่เหลืออยู่ผลข้างเคียงมักจะรุนแรงกว่านี้ครับ
สิ่งหนึ่งที่จะบอกคือ เมื่อถึงจุดหนึ่งๆ เมื่อการรักษาต่อไม่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์เราจะแนะนำให้หยุด เพราะ สิ่งที่จะเสียไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นเวลาดีๆที่เหลืออยู่ครับ
3. หลังจากนี้คนให้คนไข้ปฎิบัติตัวยังไงคะ เมื่อไม่ต้องเข้ารับการรักษาแล้ว?
ปฏิบัติตัวเหมือนปกติ มองหารพ.ใกล้บ้านที่จะดูแลต่อไปครับ
ปล.ความเห็นส่วนตัวปรกติถ้าไม่ใช่เพราะคนไข้เดินทางลำบากผมเลือกที่จะนัดต่อไปเพราะถึงไม่ได้คีโมบางครั้งคนไข้ก็อาจยังต้องการรักษาปรคับประคองที่ไม่ใช่แค่ยาทั่วไปๆครับเช่น หากลามไปสมอง ลามไปกระดูกก็มีบางการรักษาที่ช่วยให้ดีขึ้นได้อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง
ปล2.ควรปรึกษากับแพทย์ถึงคำถามที่สงสัยจะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ ผมก็เดาไปตามข้อมูลที่ได้เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
ขอความเห็นคะ เมื่อคุณหมอเลิกให้คีโม และบอกให้รักษาตามอาการ พร้อมทั้งให้นำสำเนาประวัติการักษากลับไป หมายความว่า?
ครั้งแรกผ่าเนื้อร้ายที่กะเพาะปัสสาวะออกไป และให้คีโมเซตที่ 1 (ประมาณ 12 ครั้ง จนครบ) และคุณหมอให้หยุดพัก หลังจากที่หยุดพัก คุณแม่ปัสสาวะเป็นเลือดออกมาอีก จึงไปตรวจครั้งที่ 2 พบว่าเนื้องอกโตขึ้นมาอีก
จึงผ่าตัดครั้งที่ 2 และหลังผ่า คุณหมอเปลี่ยนตัวยาและให้คีโมต่อมาอีก (ประมาณ 4 ครั้ง) และ x-ray ปอดมา พบว่ามะเร็งเพิ่มขึ้น
(คุณแม่ไม่มีอาการแพ้คีโมเลยคะ มีแค่ผมร่วงเท่านั้น)
คุณหมอแจ้งญาติว่ายาไม่ได้ผล หลังจากนี้อยากให้ใช้วิธีรักษาคนไข้ตามการการ คือถ้าไอ ก็ทานยาแก้ไอ ถ้าปวดก็ทานยาแก้ปวด และให้ญาตินำสำเนาประวัติการรักษาและหนังสือจากคุณหมอติดตัวกลับมาเผื่อว่ามีอะไรฉุกเฉินจะได้พบแพทย์ที่ใกล้บ้าน (คนไข้อยู่ ตจว และรักษาที่ กทม. คะ)
1. อยากถามความเห็นคุณหมอในห้องนี้ หรือผู้ที่มีประสบการณ์คะ ว่ากรณีนี้หมายความว่ายังไงคะ?
2. คนไข้ไม่เคยแพ้คีโม และร่างกายยังค่อนข้างแข็งแรง และยังสู้อยู่ ทำไมคุณหมอไม่ลองยาตัวอื่นหรือเพิ่มขนาดของยาดูคะ?
3. หลังจากนี้คนให้คนไข้ปฎิบัติตัวยังไงคะ เมื่อไม่ต้องเข้ารับการรักษาแล้ว?
ขอความเห็นด้วยนะคะ ขอบคุณคะ