ร้องเรียน กรณี นายไชยบูลย์ สุทธิผล เดินหน้าโครงการล้างสมอง
กายในกาย ณ ภายนอก = โลภปัฏฐาน
สิ่งที่ไม่มีแล้วพยายามเพ่งให้มี เรียกว่า โลภปัฏฐาน ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
วัดหนองแหวน อนุบาล
กิริวัฒนศักดิ์ ป4 6
สงสารเด็ก ถูกบังคับให้ฝึกวิชามาร
พระสังฆราชให้ธรรมชโยสึก เพราะต้องอาบัติ ปาราชิก
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าว
"....ท่านเจริญพระกรรมฐานกันยังไง ทำไมถึงแบกกิเลส ต้องการลาภ ต้องการยศกัน.."
และยังกล่าวถึงคุณวรณี สุนทรเวช ผู้บริจาคที่ให้วัดพระธรรมกายว่า
"...พระถมเถไป กรรมอะไรของท่านหนอ ที่ไปเจอะเอาพระจันไร แบบนี้เข้า .."
นายไชยบูลย์จะล้มล้างพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว
มหาเถรสมาคม ไม่ดำเนินการตามพระลิขิต ไม่กล้า หรือเข้าข้างคนผิดกันแน่?
เจ้าคณะภาค1 และ สำนักพุทธ และ กรมการศาสนา ก็รับใช้นายไชยบูลย์ สุทธิผล = สุมหัวกันทำความชั่ว
____________
Ref:
http://ppantip.com/topic/30830701/comment101
...สมาธินิมิต...แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา... ไม่ใช่ด้วยความหลงมัวเมาจินตนาการในลูกแก้วแถวๆสะดือ เป็นวิชาหลงลูกแก้วไป
____________
๖. วิมุตติสูตร
...สมาธินิมิต...แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา...
____________
๖. วิมุตติสูตร
...สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เธอเล่าเรียนมาด้วยดี ทำไว้ในใจด้วยดี ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา เธอย่อม
เข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมในธรรมนั้น ...
เมื่อเธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์...
____________
[3.] โมหมูลจิต
3.1 โมหมูลจิต-อุทธัจจสัมปยุตต์ = ไม่รู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง อันเกิดมาจากความคิดซัดส่ายไปมาหลายทาง
3.2 โมหมูลจิต-วิจิกิจฉาสัมปยุตต์ = ไม่รู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง อันเกิดมาจากความลังเลสงสัยเช่นสาวกธรรมกายถูกหลอกให้เพ่งลูกแก้ว ถ้าไม่เห็นก็ซื้อมาเพ่ง แล้วก็นั่ง งง สงสัยว่าเมื่อไรจะเห็นลูกแก้วลอยเข้าปลายจมูกไปสู่ศูนย์7-11 แล้วเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงิน,สีบรอนซ์ทอง,สีบรอนซ์ตะกั่ว,สีเทาดำ ฯลฯ ... สงสัยไปหมด ซึ่งมันก็ควรจะสงสัยเนอะครับ วิชาลูกแก้วนี่ น่าจะหลอกให้สาวกหลงงมงาย และระดมทุนเข้าบริษัท DMC Co.,Ltd กันไปได้อีกนาน
____________
เจ้าสำนักวัดพระธรรมกาย ดูหมิ่นพระพุทธเจ้า ฟังนาทีที่ 11
Youtube: เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ค. 2013
"ธรรมชโย สอนว่าพระพุทธเจ้ากลัวมาร ขนาดจะสอนธรรมะยังต้องขออนุญาตมาร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์บนนิพพานกลัวมารหมด ตั้งแต่ นาทีที่ 11.00 น. ไป และนาทีที่ 22.00 น."
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=24&A=3904&Z=3915
พยสนสูตร
[๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย
กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความChipหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง
ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ความChipหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ ภิกษุนั้นไม่
บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑ เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑ สัทธรรมของภิกษุนั้น
ย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑ เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย ๑ เป็นผู้ไม่
ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑ ย่อมถูกโรค
อย่างหนัก ๑ ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑ เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑ เมื่อ
ตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษ
เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความChipหาย
๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ
จบสูตรที่ ๘
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=9435&Z=9555
โกกาลิกสูตรที่ ๑๐
...
[๓๘๕] เมื่อโกกาลิกภิกษุกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัส
กะโกกาลิกภิกษุว่า โกกาลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ โกกาลิกะ เธออย่าได้
กล่าวอย่างนี้ เธอจงยังจิตให้เลื่อมใสในสารีบุตรและโมคคัลลานะเถิด สารีบุตร
และโมคคัลลานะมีศีลเป็นที่รัก ฯ
แม้ครั้งที่ ๒ โกกาลิกภิกษุก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงชักนำข้าพระองค์ให้จงใจเชื่อ ให้เลื่อมใส ก็จริง
แต่พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นผู้มีความปรารถนาลามก แม้ครั้งที่ ๒ พระ
ผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสกะโกกาลิกภิกษุว่า โกกาลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ โกกา-
*ลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้เลย เธอจงยังจิตให้เลื่อมใสในสารีบุตรและ
โมคคัลลานะเถิด สารีบุตรและโมคคัลลานะมีศีลเป็นที่รัก ฯ
แม้ครั้งที่ ๓ ...
ลำดับนั้นแล โกกาลิกภิกษุลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค
กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป เมื่อโกกาลิกภิกษุหลีกไปแล้วไม่นานนัก ได้มีต่อม
ประมาณเมล็ดพันธุ์ผักกาดเกิดขึ้นทั่วกาย ครั้นแล้ว เป็นต่อมประมาณเท่าเมล็ด
ถั่วเขียว เท่าเมล็ดถั่วดำ เท่าเมล็ดพุดซา เท่าผลพุดซา เท่าผลมะขามป้อม เท่า
ผลมะตูมอ่อน เท่าผลขนุนอ่อน แตกหัวแล้ว หนองและเลือดไหลออก ลำดับ
นั้น โกกาลิกภิกษุมรณภาพเพราะอาพาธนั้นเอง ครั้นโกกาลิกภิกษุมรณภาพแล้ว
ก็ย่อมอุบัติในปทุมนรก เพราะจิตคิดอาฆาตในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ
...
จากพระธรรม @พยสนสูตร และ โกกาลิกสูตร:
ดูหมิ่นสมเด็จพระอัครสาวกสารีบุตรมหาเถระ(อุปติสสะ) และ สมเด็จพระอัครสาวกโมคคัลลานะมหาเถระ(โกลิตะ) ยังโดนอกุศลวิบากเล่นงานหนักขนาดนั้น
แล้วดูหมิ่นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จะโดนอกุศลวิบากเล่นงานหนักขนาดใหน คิดเอาเองนะครับ นายไชยบูลย์ สุทธิผล
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=3724&Z=3923
มหาจัตตารีสกสูตร
ถ้าใครติเตียนสัมมาสติ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีสติผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาสมาธิ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีสมาธิผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาญาณะ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีญาณผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาวิมุตติ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีวิมุตติผิด ฯ(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
...
ถ้าใครติเตียนสัมมาสติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสติผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาสมาธิ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสมาธิผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาญาณะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีญาณผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาวิมุตติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีวิมุตติผิด ฯ
...
เรียน นายไชยบูลย์ สุทธิผล นรกรอนายอยู่ นายไชยบูลย์ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=18&A=7904&Z=7969
ภูมกสูตร
...
[๕๙๙] พ. ...ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษในโลกนี้ฆ่าสัตว์
ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชนมาประชุมกันแล้ว
พึงสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป
จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นเมื่อตายไป
พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เพราะเหตุการสวดวิงวอน เพราะเหตุการสรรเสริญ หรือ
เพราะเหตุการประนมมือเดินเวียนรอบดังนี้หรือ ฯ
คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
[๕๙๙] พ. ดูกรนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่
ลงในห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือ
เดินเวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิดท่าน
ก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิดท่านก้อนหิน ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อน
หินนั้นพึงโผล่ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก เพราะเหตุการสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนบ้างหรือ ฯ
คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
...
____________
ผมจะไม่ต่อต้านนายไชยบูลย์ สุทธิผล ถ้านายไชยบูลย์ยอมรับความจริงว่าตนเองเป็นศาสดาของศาสนาลูกแก้ว, แหวนไก่ผงาด, แหวนช็อกโกแลต, แหวนแมวหนุงหนิง, บอลทับทิม, แมวทองฝังเพชร, บะหมี่ทองคำตะเกียบฝังเพชร หรือศาสนาชื่ออะไรแล้วแต่จะตั้ง ไม่ใช่มาบ่อนทำลายพระพุทธศาสนามาทำมาหารับประทาน
GreanCyber - บาทสุดท้าย
http://www.youtube.com/watch?v=nEnasF3LdfY
ข้อมูล@นาทีที่ 3.34 ถึง 3.56
____________
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=15&A=1167&Z=1175
นามสูตรที่ ๑
[๑๗๘] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอครอบงำสิ่งทั้งปวง
สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งอะไรย่อมไม่มี
สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร ฯ
[๑๗๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ชื่อย่อมครอบงำสิ่งทั้งปวง
สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าชื่อไม่มี
สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือชื่อ ฯ
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=0&Z=237
๑. มูลปริยายสูตร
ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง
ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ... ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นทรงรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระ
นิพพานแล้ว ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญในพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญ
โดยความเป็นพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา ย่อมไม่ทรงยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เรากล่าวว่า เพราะทรงทราบว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์
...ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นทรงรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระ
นิพพานแล้ว ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญในพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญ
โดยความเป็นพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา ย่อมไม่ทรงยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เรากล่าวว่า เพราะทรงทราบว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์ เพราะ
ภพจึงมีชาติ สัตว์ผู้เกิดแล้ว ต้องแก่ ต้องตาย เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย เราจึงกล่าวว่า
พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะสิ้นตัณหา สำรอกตัณหา ดับตัณหา สละตัณหา
สละคืนตัณหาเสียได้ โดยประการทั้งปวง...
จบ มูลปริยายสูตร ที่ ๑
Ref:
http://ppantip.com/topic/30830701/comment133
http://ppantip.com/topic/30830701/comment137
เมื่อเจ้าสำนัก "หญ้าคา" กล่าวตู่พระพุทธเจ้า... "ก็แค่บรรลุอ่ะนะ พ้นทุกข์แต่ยังไม่รู้จักมาร"
http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=234
มาร 5
สำหรับผม มาร5\อภิสังขารมาร น่ากลัวที่สุดครับ
อภิสังขารมาร = ปุญญาภิสังขาร(หลงบุญ) + อปุญญาภิสังขาร(หลงบาป) + อาเนญชาภิสังขาร(หลงฌาน)
ติดตรงใหน อันตรายที่นั้น ดังนั้น อย่ายึดติด(หลงบุญ หลงบาป หลงฌาน) = สัพเพธัมมาอนัตตา = จริงๆแล้ว ความไม่ถือมั่นยึดมั่นในอุปาทานขันธ์5 คือ การไปสู่พระนิพพาน ซึ่งเป็นหลักแห่งพระพุทธศาสนา
ถ้าถือมั่นยึดมั่นในอุปาทานขันธ์5 ยึดติดในนิมิตต่างๆเช่นลูกแก้ว อยู่ ก็ยังเป็นแค่โลกิยะจิตเท่านั้น ไม่มีทางไปเป็นพระโสดาบัน ณ โลกุตตรจิตขั้นเริ่มต้น(เริ่มเข้ากระแสพระนิพพาน)
ไม่ใช่ ไม่มีเรา(อุจเฉททิฏฐิ)
ไม่ใช่ มีเรา(สัสสตทิฏฐิ)
แต่ = ไม่ใช่เรา = ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา ไม่มีใครเป็นเจ้าของ บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดขึ้นและดับไปตามเหตุปัจจัย = สภาพธรรมใดมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา = ขันธ์ทั้ง5 ไม่เที่ยง, เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ควรแล้วหรือหนอที่จะไปถือมั่นยึดมั่นว่านั่นคือเราคือตัวตนของเรา
เนื้อหาต่อไปนี้อาจช่วยละอาการหลงบุญได้:
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%E2%CD%C7%D2%B7%BB%D2%AF%D4%E2%C1%A1%A2%EC
โอวาทปาฏิโมกข์
... การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ การบำเพ็ญแต่ความดี ๑ การทำจิตต์ของตนให้ผ่องใส ๑ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ...
ต่อความคิดเห็นที่ 4
สงสารเด็ก ถูกบังคับให้ฝึกวิชามาร, กายในกาย ณ ภายนอก=สิ่งที่ไม่มีแล้วพยายามเพ่งให้มี เรียกว่า โลภปัฏฐาน ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
กายในกาย ณ ภายนอก = โลภปัฏฐาน
สิ่งที่ไม่มีแล้วพยายามเพ่งให้มี เรียกว่า โลภปัฏฐาน ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
วัดหนองแหวน อนุบาล
กิริวัฒนศักดิ์ ป4 6
สงสารเด็ก ถูกบังคับให้ฝึกวิชามาร
พระสังฆราชให้ธรรมชโยสึก เพราะต้องอาบัติ ปาราชิก
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าว
"....ท่านเจริญพระกรรมฐานกันยังไง ทำไมถึงแบกกิเลส ต้องการลาภ ต้องการยศกัน.."
และยังกล่าวถึงคุณวรณี สุนทรเวช ผู้บริจาคที่ให้วัดพระธรรมกายว่า
"...พระถมเถไป กรรมอะไรของท่านหนอ ที่ไปเจอะเอาพระจันไร แบบนี้เข้า .."
นายไชยบูลย์จะล้มล้างพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว
มหาเถรสมาคม ไม่ดำเนินการตามพระลิขิต ไม่กล้า หรือเข้าข้างคนผิดกันแน่?
เจ้าคณะภาค1 และ สำนักพุทธ และ กรมการศาสนา ก็รับใช้นายไชยบูลย์ สุทธิผล = สุมหัวกันทำความชั่ว
____________
Ref:
http://ppantip.com/topic/30830701/comment101
...สมาธินิมิต...แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา... ไม่ใช่ด้วยความหลงมัวเมาจินตนาการในลูกแก้วแถวๆสะดือ เป็นวิชาหลงลูกแก้วไป
____________
๖. วิมุตติสูตร
...สมาธินิมิต...แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา...
____________
๖. วิมุตติสูตร
...สมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เธอเล่าเรียนมาด้วยดี ทำไว้ในใจด้วยดี ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอดด้วยดี ด้วยปัญญา เธอย่อม
เข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมในธรรมนั้น ...
เมื่อเธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์...
____________
[3.] โมหมูลจิต
3.1 โมหมูลจิต-อุทธัจจสัมปยุตต์ = ไม่รู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง อันเกิดมาจากความคิดซัดส่ายไปมาหลายทาง
3.2 โมหมูลจิต-วิจิกิจฉาสัมปยุตต์ = ไม่รู้สภาพธรรม ตามความเป็นจริง อันเกิดมาจากความลังเลสงสัยเช่นสาวกธรรมกายถูกหลอกให้เพ่งลูกแก้ว ถ้าไม่เห็นก็ซื้อมาเพ่ง แล้วก็นั่ง งง สงสัยว่าเมื่อไรจะเห็นลูกแก้วลอยเข้าปลายจมูกไปสู่ศูนย์7-11 แล้วเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงิน,สีบรอนซ์ทอง,สีบรอนซ์ตะกั่ว,สีเทาดำ ฯลฯ ... สงสัยไปหมด ซึ่งมันก็ควรจะสงสัยเนอะครับ วิชาลูกแก้วนี่ น่าจะหลอกให้สาวกหลงงมงาย และระดมทุนเข้าบริษัท DMC Co.,Ltd กันไปได้อีกนาน
____________
เจ้าสำนักวัดพระธรรมกาย ดูหมิ่นพระพุทธเจ้า ฟังนาทีที่ 11
Youtube: เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ค. 2013
"ธรรมชโย สอนว่าพระพุทธเจ้ากลัวมาร ขนาดจะสอนธรรมะยังต้องขออนุญาตมาร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์บนนิพพานกลัวมารหมด ตั้งแต่ นาทีที่ 11.00 น. ไป และนาทีที่ 22.00 น."
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=24&A=3904&Z=3915
พยสนสูตร
[๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย
กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความChipหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง
ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ความChipหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ ภิกษุนั้นไม่
บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑ เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑ สัทธรรมของภิกษุนั้น
ย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑ เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย ๑ เป็นผู้ไม่
ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑ ย่อมถูกโรค
อย่างหนัก ๑ ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑ เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑ เมื่อ
ตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษ
เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความChipหาย
๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ
จบสูตรที่ ๘
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=9435&Z=9555
โกกาลิกสูตรที่ ๑๐
...
[๓๘๕] เมื่อโกกาลิกภิกษุกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัส
กะโกกาลิกภิกษุว่า โกกาลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ โกกาลิกะ เธออย่าได้
กล่าวอย่างนี้ เธอจงยังจิตให้เลื่อมใสในสารีบุตรและโมคคัลลานะเถิด สารีบุตร
และโมคคัลลานะมีศีลเป็นที่รัก ฯ
แม้ครั้งที่ ๒ โกกาลิกภิกษุก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงชักนำข้าพระองค์ให้จงใจเชื่อ ให้เลื่อมใส ก็จริง
แต่พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นผู้มีความปรารถนาลามก แม้ครั้งที่ ๒ พระ
ผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสกะโกกาลิกภิกษุว่า โกกาลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้ โกกา-
*ลิกะ เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้เลย เธอจงยังจิตให้เลื่อมใสในสารีบุตรและ
โมคคัลลานะเถิด สารีบุตรและโมคคัลลานะมีศีลเป็นที่รัก ฯ
แม้ครั้งที่ ๓ ...
ลำดับนั้นแล โกกาลิกภิกษุลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค
กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป เมื่อโกกาลิกภิกษุหลีกไปแล้วไม่นานนัก ได้มีต่อม
ประมาณเมล็ดพันธุ์ผักกาดเกิดขึ้นทั่วกาย ครั้นแล้ว เป็นต่อมประมาณเท่าเมล็ด
ถั่วเขียว เท่าเมล็ดถั่วดำ เท่าเมล็ดพุดซา เท่าผลพุดซา เท่าผลมะขามป้อม เท่า
ผลมะตูมอ่อน เท่าผลขนุนอ่อน แตกหัวแล้ว หนองและเลือดไหลออก ลำดับ
นั้น โกกาลิกภิกษุมรณภาพเพราะอาพาธนั้นเอง ครั้นโกกาลิกภิกษุมรณภาพแล้ว
ก็ย่อมอุบัติในปทุมนรก เพราะจิตคิดอาฆาตในพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ
...
จากพระธรรม @พยสนสูตร และ โกกาลิกสูตร:
ดูหมิ่นสมเด็จพระอัครสาวกสารีบุตรมหาเถระ(อุปติสสะ) และ สมเด็จพระอัครสาวกโมคคัลลานะมหาเถระ(โกลิตะ) ยังโดนอกุศลวิบากเล่นงานหนักขนาดนั้น
แล้วดูหมิ่นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จะโดนอกุศลวิบากเล่นงานหนักขนาดใหน คิดเอาเองนะครับ นายไชยบูลย์ สุทธิผล
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=3724&Z=3923
มหาจัตตารีสกสูตร
ถ้าใครติเตียนสัมมาสติ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีสติผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาสมาธิ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีสมาธิผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาญาณะ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีญาณผิด(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
ถ้าใครติเตียนสัมมาวิมุตติ(สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า) เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญ...ผู้มีวิมุตติผิด ฯ(นายไชยบูลย์ สุทธิผล)
...
ถ้าใครติเตียนสัมมาสติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสติผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาสมาธิ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีสมาธิผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาญาณะ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีญาณผิด
ถ้าใครติเตียนสัมมาวิมุตติ เขาก็ต้องบูชา สรรเสริญท่านสมณพราหมณ์ผู้มีวิมุตติผิด ฯ
...
เรียน นายไชยบูลย์ สุทธิผล นรกรอนายอยู่ นายไชยบูลย์ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=18&A=7904&Z=7969
ภูมกสูตร
...
[๕๙๙] พ. ...ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษในโลกนี้ฆ่าสัตว์
ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชนมาประชุมกันแล้ว
พึงสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป
จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นเมื่อตายไป
พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เพราะเหตุการสวดวิงวอน เพราะเหตุการสรรเสริญ หรือ
เพราะเหตุการประนมมือเดินเวียนรอบดังนี้หรือ ฯ
คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
[๕๙๙] พ. ดูกรนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่
ลงในห้วงน้ำลึก หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือ
เดินเวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิดท่าน
ก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิดท่านก้อนหิน ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อน
หินนั้นพึงโผล่ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก เพราะเหตุการสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนบ้างหรือ ฯ
คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
...
____________
ผมจะไม่ต่อต้านนายไชยบูลย์ สุทธิผล ถ้านายไชยบูลย์ยอมรับความจริงว่าตนเองเป็นศาสดาของศาสนาลูกแก้ว, แหวนไก่ผงาด, แหวนช็อกโกแลต, แหวนแมวหนุงหนิง, บอลทับทิม, แมวทองฝังเพชร, บะหมี่ทองคำตะเกียบฝังเพชร หรือศาสนาชื่ออะไรแล้วแต่จะตั้ง ไม่ใช่มาบ่อนทำลายพระพุทธศาสนามาทำมาหารับประทาน
GreanCyber - บาทสุดท้าย
http://www.youtube.com/watch?v=nEnasF3LdfY
ข้อมูล@นาทีที่ 3.34 ถึง 3.56
____________
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=15&A=1167&Z=1175
นามสูตรที่ ๑
[๑๗๘] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอครอบงำสิ่งทั้งปวง
สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งอะไรย่อมไม่มี
สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร ฯ
[๑๗๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ชื่อย่อมครอบงำสิ่งทั้งปวง
สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าชื่อไม่มี
สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือชื่อ ฯ
Ref:
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=0&Z=237
๑. มูลปริยายสูตร
ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง
ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ... ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา
ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นทรงรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระ
นิพพานแล้ว ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญในพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญ
โดยความเป็นพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา ย่อมไม่ทรงยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เรากล่าวว่า เพราะทรงทราบว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์
...ทรงรู้ยิ่งพระนิพพานโดยความเป็นพระนิพพาน ครั้นทรงรู้พระนิพพานโดยความเป็นพระ
นิพพานแล้ว ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญในพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญ
โดยความเป็นพระนิพพาน ย่อมไม่ทรงสำคัญพระนิพพานว่า ของเรา ย่อมไม่ทรงยินดีพระนิพพาน
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร? เรากล่าวว่า เพราะทรงทราบว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์ เพราะ
ภพจึงมีชาติ สัตว์ผู้เกิดแล้ว ต้องแก่ ต้องตาย เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย เราจึงกล่าวว่า
พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะสิ้นตัณหา สำรอกตัณหา ดับตัณหา สละตัณหา
สละคืนตัณหาเสียได้ โดยประการทั้งปวง...
จบ มูลปริยายสูตร ที่ ๑
Ref:
http://ppantip.com/topic/30830701/comment133
http://ppantip.com/topic/30830701/comment137
เมื่อเจ้าสำนัก "หญ้าคา" กล่าวตู่พระพุทธเจ้า... "ก็แค่บรรลุอ่ะนะ พ้นทุกข์แต่ยังไม่รู้จักมาร"
http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=234
มาร 5
สำหรับผม มาร5\อภิสังขารมาร น่ากลัวที่สุดครับ
อภิสังขารมาร = ปุญญาภิสังขาร(หลงบุญ) + อปุญญาภิสังขาร(หลงบาป) + อาเนญชาภิสังขาร(หลงฌาน)
ติดตรงใหน อันตรายที่นั้น ดังนั้น อย่ายึดติด(หลงบุญ หลงบาป หลงฌาน) = สัพเพธัมมาอนัตตา = จริงๆแล้ว ความไม่ถือมั่นยึดมั่นในอุปาทานขันธ์5 คือ การไปสู่พระนิพพาน ซึ่งเป็นหลักแห่งพระพุทธศาสนา
ถ้าถือมั่นยึดมั่นในอุปาทานขันธ์5 ยึดติดในนิมิตต่างๆเช่นลูกแก้ว อยู่ ก็ยังเป็นแค่โลกิยะจิตเท่านั้น ไม่มีทางไปเป็นพระโสดาบัน ณ โลกุตตรจิตขั้นเริ่มต้น(เริ่มเข้ากระแสพระนิพพาน)
ไม่ใช่ ไม่มีเรา(อุจเฉททิฏฐิ)
ไม่ใช่ มีเรา(สัสสตทิฏฐิ)
แต่ = ไม่ใช่เรา = ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา ไม่มีใครเป็นเจ้าของ บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดขึ้นและดับไปตามเหตุปัจจัย = สภาพธรรมใดมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา = ขันธ์ทั้ง5 ไม่เที่ยง, เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ควรแล้วหรือหนอที่จะไปถือมั่นยึดมั่นว่านั่นคือเราคือตัวตนของเรา
เนื้อหาต่อไปนี้อาจช่วยละอาการหลงบุญได้:
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%E2%CD%C7%D2%B7%BB%D2%AF%D4%E2%C1%A1%A2%EC
โอวาทปาฏิโมกข์
... การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ การบำเพ็ญแต่ความดี ๑ การทำจิตต์ของตนให้ผ่องใส ๑ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ...
ต่อความคิดเห็นที่ 4