http://www.baanjomyut.com/pratripidok/mon/17.html
ปัญจะมาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
สำคัญตนว่าได้บรรลุอรหัตตผล
กิร ดังได้สดับมา
ยังมีภิกษุ 2 รูป ในพระศาสนาของพระบรมศาสดาของเรานี้
องค์หนึ่งมีพรรษาแก่กว่าอีกองค์หนึ่งมีพรรษาอ่อนกว่า
เป็นสหธรรมิกที่มีความรักใคร่ในกันและกัน
แต่จากกันไปเพื่อประกอบความเพียร
องค์อ่อนพรรษากว่าได้สำเร็จพระอรหันตผลเป็นพระอรหันต์ก่อน
องค์แก่พรรษาได้แต่เพียรกำลังสมาธิสมาบัติ และเป็นผู้ชำนาญในวสี
จะพิจารณาอธิษฐานให้เป็นอย่างไรก็ได้ดังประสงค์
และเกิดทิฏฐิสำคัญว่ารู้ทั่วแล้ว
ส่วนองค์หย่อนพรรษาครั้นพิจารณาดูก็
ทราบได้ด้วยปัญญาญาณ
จึงสั่งให้องค์แก่พรรษากว่าไปหาท่านองค์นั้นไม่ไป
สั่งสอนสามครั้งก็ไม่ไป
องค์หย่อนพรรษาจึงไปหาเสียเอง
แล้วยังกันและกันให้ยินดี
พอสมควรแล้วจึงพูดกับองค์แก่กว่าว่า
ถ้าท่านสำคัญว่ารู้จริง
ก็จงอธิษฐานให้เป็นสระในสระให้มีดอกบัวหลวง 1 ดอก
ในดอกบัวหลวงให้มีนางฟ้อนสวยงาม 7 นาง
องค์แก่พรรษาก็เนรมิตได้ตามนั้น
ครั้นเนรมิตแล้วองค์อ่อนพรรษากว่าจึงสั่งให้เพ่งดู
ครั้นเพ่งดูนางฟ้อนอยู่ กามราคะกิเลสอันสั่งสมมาแล้วหลายร้อยอัตตภาพก็กำเริบ
จึงทราบได้ว่าตนยังไม่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ครั้นแล้ว
องค์อ่อนพรรษาจึงเตือนให้รู้ตัว
และให้เร่งทางปัญญาวิปัสสนาญาณ
องค์แก่พรรษากว่าครั้นปฏิบัติตามทำความพากเพียรประโยคพยายามอยู่
มิช้ามินานก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสวะบุคคลในพระพุทธศาสนาด้วยประการฉะนี้
อปรา
ยังเรื่องอื่นอีก
มีเนื้อความอย่างเดียวกันแต่นิมิตต่างกัน
คือให้เนรมิตช้างสารซับมันตัวร้ายกาจวิ่งเข้ามาหา
หลงรูปเนรมิตของตนเอง
เกิดความสะดุ้งตกใจกลัวเตรียมตัววิ่งหนี
เพื่อนสหธรรมมิกผู้ไปช่วยเหลือได้ฉุดเอาไว้
และ
กล่าวตักเตือนสั่งสอนโดยนัยหนหลัง
จึงหยุดยั้งใจได้และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสหธรรมมิกผู้ช่วยเหลือนั้น
ไม่นานก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสวะบุคคลในพระบวรพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน
แม้เรื่องนี้ก็พึงถือเอาเป็นทิฏฐานุคติ
เช่นเดียวกับเรื่องก่อนนั้นแล
นี้เป็นนิทานที่เป็นคติสำหรับผู้ปฏิบัติจะพึงอนุวัติตามคือ
ผู้เป็นสหธรรมิก
ประพฤติธรรมร่วมกันทุกคน
จงมาเป็นสหายกันในกิจที่ชอบ
ทั้งที่เป็นกิจภายใน
ทั้งที่เป็นกิจภายนอกยังประโยชน์ของกันและกันให้สำเร็จด้วยดีเถิด
สำคัญตนว่าได้บรรลุอรหัตตผล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ปัญจะมาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
สำคัญตนว่าได้บรรลุอรหัตตผล
กิร ดังได้สดับมา
ยังมีภิกษุ 2 รูป ในพระศาสนาของพระบรมศาสดาของเรานี้
องค์หนึ่งมีพรรษาแก่กว่าอีกองค์หนึ่งมีพรรษาอ่อนกว่า
เป็นสหธรรมิกที่มีความรักใคร่ในกันและกัน
แต่จากกันไปเพื่อประกอบความเพียร
องค์อ่อนพรรษากว่าได้สำเร็จพระอรหันตผลเป็นพระอรหันต์ก่อน
องค์แก่พรรษาได้แต่เพียรกำลังสมาธิสมาบัติ และเป็นผู้ชำนาญในวสี
จะพิจารณาอธิษฐานให้เป็นอย่างไรก็ได้ดังประสงค์
และเกิดทิฏฐิสำคัญว่ารู้ทั่วแล้ว
ส่วนองค์หย่อนพรรษาครั้นพิจารณาดูก็
ทราบได้ด้วยปัญญาญาณ
จึงสั่งให้องค์แก่พรรษากว่าไปหาท่านองค์นั้นไม่ไป
สั่งสอนสามครั้งก็ไม่ไป
องค์หย่อนพรรษาจึงไปหาเสียเอง
แล้วยังกันและกันให้ยินดี
พอสมควรแล้วจึงพูดกับองค์แก่กว่าว่า
ถ้าท่านสำคัญว่ารู้จริง
ก็จงอธิษฐานให้เป็นสระในสระให้มีดอกบัวหลวง 1 ดอก
ในดอกบัวหลวงให้มีนางฟ้อนสวยงาม 7 นาง
องค์แก่พรรษาก็เนรมิตได้ตามนั้น
ครั้นเนรมิตแล้วองค์อ่อนพรรษากว่าจึงสั่งให้เพ่งดู
ครั้นเพ่งดูนางฟ้อนอยู่ กามราคะกิเลสอันสั่งสมมาแล้วหลายร้อยอัตตภาพก็กำเริบ
จึงทราบได้ว่าตนยังไม่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ครั้นแล้ว
องค์อ่อนพรรษาจึงเตือนให้รู้ตัว
และให้เร่งทางปัญญาวิปัสสนาญาณ
องค์แก่พรรษากว่าครั้นปฏิบัติตามทำความพากเพียรประโยคพยายามอยู่
มิช้ามินานก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสวะบุคคลในพระพุทธศาสนาด้วยประการฉะนี้
อปรา
ยังเรื่องอื่นอีก
มีเนื้อความอย่างเดียวกันแต่นิมิตต่างกัน
คือให้เนรมิตช้างสารซับมันตัวร้ายกาจวิ่งเข้ามาหา
หลงรูปเนรมิตของตนเอง
เกิดความสะดุ้งตกใจกลัวเตรียมตัววิ่งหนี
เพื่อนสหธรรมมิกผู้ไปช่วยเหลือได้ฉุดเอาไว้
และ
กล่าวตักเตือนสั่งสอนโดยนัยหนหลัง
จึงหยุดยั้งใจได้และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสหธรรมมิกผู้ช่วยเหลือนั้น
ไม่นานก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสวะบุคคลในพระบวรพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน
แม้เรื่องนี้ก็พึงถือเอาเป็นทิฏฐานุคติ
เช่นเดียวกับเรื่องก่อนนั้นแล
นี้เป็นนิทานที่เป็นคติสำหรับผู้ปฏิบัติจะพึงอนุวัติตามคือ
ผู้เป็นสหธรรมิก
ประพฤติธรรมร่วมกันทุกคน
จงมาเป็นสหายกันในกิจที่ชอบ
ทั้งที่เป็นกิจภายใน
ทั้งที่เป็นกิจภายนอกยังประโยชน์ของกันและกันให้สำเร็จด้วยดีเถิด