กรุงเทพนิรมิตร ตอนที่ 11

กระทู้สนทนา
11


หลังจากประหารชีวิตแม่ทัพของหน่วยกองโจรแล้ว สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทจึงโปรดเกล้าฯให้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าขุน
เณรเป็นแม่ทัพนำทหารกองโจรอีกหนึ่งพันนายไปสมทบกับทหารที่เหลืออยู่ที่ช่องแคบพุตะไคร้ ในการนี้ทอมาได้อาสาไปร่วมรบในกองโจรด้วย
เนื่องจากเป็นชาวมอญจึงสื่อสารและแฝงตัวไปคนในพื้นที่ได้ง่าย พิมพ์มาดาได้ยินมาจากทหารในกองพูดกันถึงกิตติศัพท์ของพระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าขุนเณรเว่าเป็นขุนศึกเลื่องลือชื่อในการรบแบบกองโจรเป็นอย่างมาก พิมพ์มาดาได้แต่เอาใจช่วยขอให้พระองค์ท่านทำภารกิจให้
อย่างลุล่วงและปลอดภัย ซึ่งในครานี้ขุนศึกมีชื่อผู้นี้ก็สามารถดักซุ่มโจมตีข้าศึกได้อย่างกล้าหาญโดยสามารถทำลายและก่อกวนการส่งเสบียง
และยุทโธปกรณ์ของข้าศึกอย่างได้ผลจนทำให้พวกพม่าได้รับความเดือดร้อนมาก ข้าวปลาก็อดอยาก เหล่าทหารก็อ่อนแอลง  ไหนจะอาวุธ
กระสุนดินดำที่นับวันมีแต่จะหมดไป ไม่สามารถมาเติมได้อย่างทันเวลา ทางฝ่ายไทยเองเมื่อห็นเสบียง อาวุธต่างๆ เชลยรวมถึงช้างม้าของข้า
ศึกที่ถูกแย่งชิงลำเลียงมาที่ค่ายหลวงอย่างต่อเนื่องนั้นก็ยิ่งเพิ่มขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหารมากขึ้น

อีกทั้งด้วยพระปรีชาสามารถของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่ได้นำปืนลูกไม้ที่ใช้แต่ศึกสมัยกรุงธนบุรีมาใช้ในศึกคราวนี้ด้วย  ปืน
ลูกไม้นี้มีลักษณะคล้ายกับปืนใหญ่ทั่วไปแต่แทนที่จะใช้ลูกกระสุนดินดำก็เปลี่ยนมาเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่แทน ซึ่งอานุภาพอาจจะไม่ได้ร้ายแรง
เท่าแต่ก็สามารถทำลายค่ายและหอรบของพม่าพังลงได้อย่างราบคาบ   เมื่อหอรบบางส่วนพังลงพม่าก็ไม่สามารถยิงปืนใหญ่ถล่มไทยได้อย่าง
ดุดันเหมือนเก่า ฝ่ายไทยเลยกลับมาได้เปรียบขึ้นมาในทันใด ท่อนไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะท่อนไม้ไม่
ได้ทำให้ลำกล้องปืนใหญ่ร้อนเหมือนกระสุนดินดำจึงยิงได้ทั้งวันทั้งคืน พอเจอกลยุทธ์แบบนี้เข้าพวกพม่าก็เริ่มอ่อนแอลงอย่างมาก เสบียง
อาหารก็ขัดสน อาวุธก็ไม่มีมาเพิ่ม

นอกจากนี้ทางกรุงเทพยังได้ส่งทัพหลวงซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัววังหลวงนำกำลังพลเกือบสองหมื่นนายมาเสริมกำลังที่ทุ่งลาดหญ้าหวังจะ
รีบพิชิตศึกในด้านนี้ให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะให้นำกำลังไปช่วยรับศึกด้านอื่นๆต่อ แต่อย่างไรก็ตามสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทได้กราบ
ทูลสมเด็จพระเชษฐาว่าทัพพม่านั้นอีกไม่นานคงใกล้จะแตกแล้ว จึงทูลขอให้พระองค์ทรงเสด็จกลับไปตั้งมั่นที่พระนครก่อน เนื่องจากหากมี
พม่าเล็ดลอดตีฝ่าไปจุดอื่นก็จะยังมีทัพที่คอยรักษาพระนครได้ทันการ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัววังหลวงทรงจึงยกทัพกลับไปในคืนนั้นเอง

ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทได้เกิดคิดอุบายหนึ่งขึ้น โดยพระองค์ได้ให้ทหารในค่ายส่วนหนึ่งลอบออกไปพร้อมกับ

ทัพหลวงที่กลับไปแล้วให้ทหารกลุ่มนั้นรอจนรุ่งเช้าก็กลับเข้าค่ายแสร้งทำทีว่าตัวเองเป็นกองกำลังเสริมมาช่วย  ทำอย่างนี้จนเกือบทุกวันเพื่อ
หลอกให้พม่าเสียขวัญกำลังใจครั่นคร้ามไม่กล้าออกนอกค่าย อีกทั้งหน่วยทะลวงฟันที่แอบลอบไปทำลายข้าศึกอยู่แถบฝั่งพม่าก็ได้แจ้งว่าพวก
พม่านั้นไม่มีกำลังใจในการสู้รบแล้ว พวกแม่ทัพก็อยากจะถอยทัพเพราะกำลังพลเริ่มอดอยาก บ้างก็ล้มตายจากจากโรคภัยไข้เจ็บบ้าง บ้างก็
บาดเจ็บจากกระสุนลูกไม้ของฝั่งไทย อีกไม่นานสงคราม ณ ทุ่งลาดหญ้าคงจะจบลงโดยไทยเป็นฝ่ายพิชิตได้ในยกแรก แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่คลาย
ความรุ่มร้อนในใจของพิมพ์มาดาก็คือความปลอดภัยของขุนรามเดชะ แม้เธอรู้ว่าเขามีฝีมือเก่งกล้าไม่แพ้ใครแต่ความกล้าบ้าบิ่นแบบไม่ห่วง
ชีวิตเช่นนี้ก็ทำให้เธอกลัวว่าจะไม่ได้เจอเขาอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่