ผมไปเจอบทความนี้ในเฟส
ท่านผู้ฟังที่เคารพ ศาสดาของท่านทั้งหลาย ทรงคุณลักษณะแห่งความเมตตาโดยแท้ ท่านสอนคนที่ไม่รู้ ท่านเมตตาคนที่โง่เขลา ด้วยการตักเตือนที่นิ่มนวล
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านนบีและ เหล่าสาวก กำลังนั่งอยู่ในมัสยิดนบีที่เมืองมะดีนะห์ มีชายอาหรับชนบทคนหนึ่ง เข้ามาในบริเวณมัสยิด แล้วยืนปัสสาวะข้างกำแพงด้านในมัสยิด บรรดาสาวกเห็นก็เอะอะจะลุกไปขับไล่ แต่ท่านนบี ก็ห้ามไว้ ท่านบอกว่า อย่าทำอย่างนั้น เมื่อชายคนนั้นปัสสาวะเสร็จ ท่านก็ใช้ให้สาวกเอาน้ำไปราด ทำความสะอาดพื้นที่ตรงนั้น
นี่ เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า การสอนคนที่ไม่รู้นั้น ต้องทำอย่างนิ่มนวล ให้มีการยอมรับโดยดุษฎี ไม่ใช่ด้วยการบังคับหรือก้าวร้าว
ท่านผู้ฟังที่เคารพ ความเมตตาของท่านนบีมูฮำมัด หาได้จำกัดอยู่เฉพาะมนุษย์ไม่ แต่ยังเผื่อแผ่ยังสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านเคยกล่าวสอนแก่ศรัทธาชนว่า
ของคนที่ชื่อ Life for you
ทำไมไม่เห็นว่ามุสลิมส่วนใหญ่ในพันทิพย์จะคิดแบบนี้เลยดูอย่างกรณีการร้องเพลงในมัสยิด หรือละครฟ้าจรดทราย
สงสัยนะครับว่าทำไมถึงไม่เหมือนที่เขาเขียน
ท่านผู้ฟังที่เคารพ ศาสดาของท่านทั้งหลาย ทรงคุณลักษณะแห่งความเมตตาโดยแท้ ท่านสอนคนที่ไม่รู้ ท่านเมตตาคนที่โง่เขลา ด้วยการตักเตือนที่นิ่มนวล
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านนบีและ เหล่าสาวก กำลังนั่งอยู่ในมัสยิดนบีที่เมืองมะดีนะห์ มีชายอาหรับชนบทคนหนึ่ง เข้ามาในบริเวณมัสยิด แล้วยืนปัสสาวะข้างกำแพงด้านในมัสยิด บรรดาสาวกเห็นก็เอะอะจะลุกไปขับไล่ แต่ท่านนบี ก็ห้ามไว้ ท่านบอกว่า อย่าทำอย่างนั้น เมื่อชายคนนั้นปัสสาวะเสร็จ ท่านก็ใช้ให้สาวกเอาน้ำไปราด ทำความสะอาดพื้นที่ตรงนั้น
นี่ เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า การสอนคนที่ไม่รู้นั้น ต้องทำอย่างนิ่มนวล ให้มีการยอมรับโดยดุษฎี ไม่ใช่ด้วยการบังคับหรือก้าวร้าว
ท่านผู้ฟังที่เคารพ ความเมตตาของท่านนบีมูฮำมัด หาได้จำกัดอยู่เฉพาะมนุษย์ไม่ แต่ยังเผื่อแผ่ยังสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย ท่านเคยกล่าวสอนแก่ศรัทธาชนว่า
ของคนที่ชื่อ Life for you
ทำไมไม่เห็นว่ามุสลิมส่วนใหญ่ในพันทิพย์จะคิดแบบนี้เลยดูอย่างกรณีการร้องเพลงในมัสยิด หรือละครฟ้าจรดทราย