ขอตั้งชื่อทริปนี้ว่าเป็นเส้นทาง 100 เนินครับ โหดจริงๆ ใช้เส้นทางสายบ้านบึง-แกลง ช่วงอ.หนองใหญ่จะเป็นเนินขึ้นลงไปตลอดทาง แถมเลี้ยวเข้าไปขึ้นเขาอีกหนึ่งลูก แล้วปั่นย้อนกลับมาขึ้นเขาลูกเดิม ปั่นกลับทางเนินทางเดิม เจอเนินจนนับไม่ถ้วนแถมคูณสองรอบเข้าไปอีก รวมๆระยะทางแล้วเกือบร้อยโล สุดๆครับงานนี้
พอดีเขาหนองใหญ่ลูกนี้เมื่อปีที่แล้วเคยปั่นมาแล้วและเคยเข็นมาแล้ว ปีนี้ฟิตซ้อมมาใหม่และได้เทคนิคใหม่ที่ทำให้แก้มือขึ้นเขาได้สำเร็จมาสองลูกแล้ว เลยขอเอามาแนะนำกันครับ คือก่อนจะเข้าสู่ทางเขาให้ลดการออกแรงลง โดยลดเกียร์ลดรอบขา เพื่อลดฮาร์ตเรต ปั่นไปให้ช้าลงเหมือนเพื่อชาร์ตแบตก่อนระเบิดพลัง ช่วงนี้คนอื่นๆเขาจะอาจจะแซงเราไปลิ่วๆก็ไม่ต้องสนใจครับ เรามาแข่งกับตัวเอง พอเริ่มขึ้นเขาก็ใช้เกียร์ให้เหมาะสมไม่หนักไปจนต้องออกแรงมากและไม่เบาไปจนรถเคลื่อนตัวช้าเกินไปแรงจะยิ่งไม่พอแต่พยายามให้อยู่ที่เฟืองหลังกลางๆจะได้มีเกียร์สำรองไว้ใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก้มหน้าก้มตาปั่นไปเรื่อยๆโดยใช้รอบขากลางๆตามจังหวะอย่าอัดอย่าขึ้นยืนโยก ยิ่งก่อนขึ้นเขาเราลด heart rate ลงไปได้เท่าไหร่เราจะยิ่งมีช่วงให้ออกแรงได้นานขึ้นจนกว่าจะถึงจุด heart rate สูงสุดของเรา ปรับลดเกียร์ให้เบาลงไปเรื่อยๆตามจังหวะความชันและปั่นไปเรื่อยๆแบบนี้เราอาจจะได้เห็นคนที่อัดขึ้นเขาไปก่อนเราจอดพักจอดเข็นหมดแรงให้เราแซงขึ้นไปเป็นระยะๆ แต่ถ้าทางเขาโหดจริงๆชันมากและยาวมากจนรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆจะเซฟแรงลงไปพักหรือลงไปเข็นก็ไม่แปลกครับ คนเราแข็งแรงไม่เท่ากัน ยอมลงไปพักดีกว่าฝืนกดจนขาเป็นตะคริวหรือ heart rate ขึ้นสูงจนหน้ามืดเป็นลมหมดแรงแล้วปั่นต่อไม่ได้ เก็บแรงไว้เจอเขาลูกหน้าหรือเอาไว้กลับมาแก้มือใหม่ทีหลังก็ได้ครับ ภูเขาลูกนี้ไม่หนีไปไหนหรอกรอคุณอยู่ที่เดิมทุกวันแหละครับ
@@ คลิปปั่น Probike Academy เมื่อวานที่หนองใหญ่ ชลบุรีและเทคนิคการขึ้นเขาครับ @@
พอดีเขาหนองใหญ่ลูกนี้เมื่อปีที่แล้วเคยปั่นมาแล้วและเคยเข็นมาแล้ว ปีนี้ฟิตซ้อมมาใหม่และได้เทคนิคใหม่ที่ทำให้แก้มือขึ้นเขาได้สำเร็จมาสองลูกแล้ว เลยขอเอามาแนะนำกันครับ คือก่อนจะเข้าสู่ทางเขาให้ลดการออกแรงลง โดยลดเกียร์ลดรอบขา เพื่อลดฮาร์ตเรต ปั่นไปให้ช้าลงเหมือนเพื่อชาร์ตแบตก่อนระเบิดพลัง ช่วงนี้คนอื่นๆเขาจะอาจจะแซงเราไปลิ่วๆก็ไม่ต้องสนใจครับ เรามาแข่งกับตัวเอง พอเริ่มขึ้นเขาก็ใช้เกียร์ให้เหมาะสมไม่หนักไปจนต้องออกแรงมากและไม่เบาไปจนรถเคลื่อนตัวช้าเกินไปแรงจะยิ่งไม่พอแต่พยายามให้อยู่ที่เฟืองหลังกลางๆจะได้มีเกียร์สำรองไว้ใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก้มหน้าก้มตาปั่นไปเรื่อยๆโดยใช้รอบขากลางๆตามจังหวะอย่าอัดอย่าขึ้นยืนโยก ยิ่งก่อนขึ้นเขาเราลด heart rate ลงไปได้เท่าไหร่เราจะยิ่งมีช่วงให้ออกแรงได้นานขึ้นจนกว่าจะถึงจุด heart rate สูงสุดของเรา ปรับลดเกียร์ให้เบาลงไปเรื่อยๆตามจังหวะความชันและปั่นไปเรื่อยๆแบบนี้เราอาจจะได้เห็นคนที่อัดขึ้นเขาไปก่อนเราจอดพักจอดเข็นหมดแรงให้เราแซงขึ้นไปเป็นระยะๆ แต่ถ้าทางเขาโหดจริงๆชันมากและยาวมากจนรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆจะเซฟแรงลงไปพักหรือลงไปเข็นก็ไม่แปลกครับ คนเราแข็งแรงไม่เท่ากัน ยอมลงไปพักดีกว่าฝืนกดจนขาเป็นตะคริวหรือ heart rate ขึ้นสูงจนหน้ามืดเป็นลมหมดแรงแล้วปั่นต่อไม่ได้ เก็บแรงไว้เจอเขาลูกหน้าหรือเอาไว้กลับมาแก้มือใหม่ทีหลังก็ได้ครับ ภูเขาลูกนี้ไม่หนีไปไหนหรอกรอคุณอยู่ที่เดิมทุกวันแหละครับ