คืออย่างนี้ครับก่อนหน้านี้ผมทำงานรับเหมาแต่งานไม่เข้าเลยคิดจะหารายได้เสริมระหว่างรองานมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งก็อยากจะเปิดร้านขายขนมจีน
ด้วยความที่รีบหาร้านเลยไม่ได้คิดอะไรให้ดีเลยเกิดปัญหาครับ
เดิมร้านนี้เปิดเป็นร้านอาหารมี 2 ห้องคู่ อีกห้องสอนทำเบเกอรี่แต่ปิดไป ผมเลยไปขอเซ้งต่อร้านที่เป็นร้านอาหาร ( เจ้าของเดิมก็เช่าอยู่ ) แต่ผมไม่ได้ดูสัญญาของเขาที่ทำกับเจ้าของเดิมว่าให้เช่าช่วงต่อได้รึเปล่า เขาคิดค่าเซ้ง 1 แสน ของในร้านก็ไม่มีอะไรมากมาย ก่อนหน้าผมมัดจำไป 1 หมื่นบาท ค่าเซ้งต่อรองเป็น 2 งวด ๆละ 50,000 นัดจ่ายก่อนเข้าร้าน ซึ่งต้องจ่ายค่าเช่า 12,000 บาท ค่าล่วงหน้าอีก 1 เดือน 12,000 บาท ค่ามัดจำน้ำไฟ 2,000 บาท รวมจ่ายก่อนเข้า 76,000 บาท ผมมีเงินแค่ 50,000 รวมของเก่าที่มัดจำไปอีก 10,000 = ผมมีจ่ายแค่ 6 หมื่น ขาดอีก
16,000 ผู้เซ้งเลยให้ทำสัญญาเขียนในสมุดธรรมดา ว่าผมยืมเงินไป 16,000 บาท นัดจ่ายเดือนกันยา ดอก 500 บาท
ส่วนสัญญาเช่าก็เขียนในกระดาษธรรมดาว่าผมจ่ายไปเท่าไร ค้างเท่าไร แต่ค่าน้ำไฟไม่ได้ระบุว่ายูนิตเท่าไร (มารู้อีกทีว่าเจ้าของเดิมให้จ่ายตามบิลที่มา แต่ผู้ให้เซ้งคิดเพิ่มแพงมาก ) สรุปคือผมจ่ายไป 6 หมื่น ค้าง 5 หมื่น เป็นสัญญาเงินยืมอีก 16,000 เปิดร้านขายได้ไม่กี่วันก็รู้ตัวเลยว่าไปไม่รอดแน่ คนที่เคยบอกจะช่วยทำก็ถอนตัวหมดเหลือผมคนเดียว หมดกำลังใจเลยครับ เงินทุนก็หมด เลยบอกคืนร้านไปกับผู้ที่ให้เซ้ง ซึ่งผมก็ขายอยู่ได้ไม่ถึงเดือน ทางผู้ให้เซ้งก็ไม่ยอมจะเอาอีก 5 หมื่นและที่ผมต้องจ่ายค่าล่วงหน้าให้ได้
ก็เลยบอกกับผู้ให้เซ็งว่าผมก็ยอมเสียเงินที่จ่ายไปและไม่เอาของอะไรในร้าน โดยที่ผมไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม แต่เขาไม่ยอม นัดเคลียร์ที่ สถาณีตำรวจ มันจะเป็นคดีความไหมครับ ผมจะมีทางออกอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ ตอนนี้หมดเงิน หมดกำลังใจ ( เพราะโดนที่บ้านตำหนิอย่างแรงที่ไม่คิดให้ดีก่อนทำ ) ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับท่านที่เข้ามาแนะนำครับ
( ผู้ให้เซ้งก็เช่าอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ถ้าผมขายไปเจ้าของเดิมจะมาไล่รึเปล่าเพราะผมไม่ได้ดูสัญญาของเขาที่เช่าอยู่)
ท่านใดทราบเกี่ยวกับการเซ้งร้านบ้างครับ
ด้วยความที่รีบหาร้านเลยไม่ได้คิดอะไรให้ดีเลยเกิดปัญหาครับ
เดิมร้านนี้เปิดเป็นร้านอาหารมี 2 ห้องคู่ อีกห้องสอนทำเบเกอรี่แต่ปิดไป ผมเลยไปขอเซ้งต่อร้านที่เป็นร้านอาหาร ( เจ้าของเดิมก็เช่าอยู่ ) แต่ผมไม่ได้ดูสัญญาของเขาที่ทำกับเจ้าของเดิมว่าให้เช่าช่วงต่อได้รึเปล่า เขาคิดค่าเซ้ง 1 แสน ของในร้านก็ไม่มีอะไรมากมาย ก่อนหน้าผมมัดจำไป 1 หมื่นบาท ค่าเซ้งต่อรองเป็น 2 งวด ๆละ 50,000 นัดจ่ายก่อนเข้าร้าน ซึ่งต้องจ่ายค่าเช่า 12,000 บาท ค่าล่วงหน้าอีก 1 เดือน 12,000 บาท ค่ามัดจำน้ำไฟ 2,000 บาท รวมจ่ายก่อนเข้า 76,000 บาท ผมมีเงินแค่ 50,000 รวมของเก่าที่มัดจำไปอีก 10,000 = ผมมีจ่ายแค่ 6 หมื่น ขาดอีก
16,000 ผู้เซ้งเลยให้ทำสัญญาเขียนในสมุดธรรมดา ว่าผมยืมเงินไป 16,000 บาท นัดจ่ายเดือนกันยา ดอก 500 บาท
ส่วนสัญญาเช่าก็เขียนในกระดาษธรรมดาว่าผมจ่ายไปเท่าไร ค้างเท่าไร แต่ค่าน้ำไฟไม่ได้ระบุว่ายูนิตเท่าไร (มารู้อีกทีว่าเจ้าของเดิมให้จ่ายตามบิลที่มา แต่ผู้ให้เซ้งคิดเพิ่มแพงมาก ) สรุปคือผมจ่ายไป 6 หมื่น ค้าง 5 หมื่น เป็นสัญญาเงินยืมอีก 16,000 เปิดร้านขายได้ไม่กี่วันก็รู้ตัวเลยว่าไปไม่รอดแน่ คนที่เคยบอกจะช่วยทำก็ถอนตัวหมดเหลือผมคนเดียว หมดกำลังใจเลยครับ เงินทุนก็หมด เลยบอกคืนร้านไปกับผู้ที่ให้เซ้ง ซึ่งผมก็ขายอยู่ได้ไม่ถึงเดือน ทางผู้ให้เซ้งก็ไม่ยอมจะเอาอีก 5 หมื่นและที่ผมต้องจ่ายค่าล่วงหน้าให้ได้
ก็เลยบอกกับผู้ให้เซ็งว่าผมก็ยอมเสียเงินที่จ่ายไปและไม่เอาของอะไรในร้าน โดยที่ผมไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม แต่เขาไม่ยอม นัดเคลียร์ที่ สถาณีตำรวจ มันจะเป็นคดีความไหมครับ ผมจะมีทางออกอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ ตอนนี้หมดเงิน หมดกำลังใจ ( เพราะโดนที่บ้านตำหนิอย่างแรงที่ไม่คิดให้ดีก่อนทำ ) ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับท่านที่เข้ามาแนะนำครับ
( ผู้ให้เซ้งก็เช่าอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ถ้าผมขายไปเจ้าของเดิมจะมาไล่รึเปล่าเพราะผมไม่ได้ดูสัญญาของเขาที่เช่าอยู่)